เดนมาร์ก 28 ส.ค. – “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชายเดี่ยวมือ 3 ของโลก สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในศึกชิงแชมป์โลกได้สำเร็จ หลังแซงกลับมาเอาชนะ โคได นาราโอกะ คู่ปรับตลอดกาลจากญี่ปุ่น 2-1 เกม
การแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ โททาลเอ็นเนอร์ยีส์ บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปียนชิพส์ หรือ ศึกชิงแชมป์โลก 2023 ที่รอยัล อารีนา ในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ส.ค.66 เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวางอันดับ 3 ของรายการ มืออันดับ 3 ของโลก รองแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว พบกับ โคได นาราโอกะ มืออันดับ 4 ของโลก จากญี่ปุ่น สำหรับสถิติที่พบกันมาทั้งหมด 6 ครั้ง ผลัดกันแพ้ชนะมา 3 ครั้ง
เกมแรก นาราโอกะ เปิดเกมได้อย่างยอดเยี่ยม นำ 5-1 เกมเป็นของ นาราโอกะ ยังครองเกมได้เหนือกว่า โดยจี้โฟร์แฮนด์ของ วิว กุลวุฒิ 6-2 จากนั้น วิว กุลวุฒิ กลับมาสู่ฟอร์มที่ดี ทำ 4 แต้มรวด ตามตีเสมอที่ 6-6 ทั้งคู่เล่นเกมรับด้วยความเหนียวแน่น เสมอกัน 11-11 วิว กุลวุฒิ กลับมาเป็นฝ่ายที่ทำเกมบุกคืนบ้าง แซงกลับมานำ 14-12 ในช่วงปลายเกมแรก ทั้งคู่ยังรักษาเกมที่เหนียวแน่น แต่เป็น นาราโอกะ ที่บุกได้เหนือกว่า ปิดเกมแรกได้ที่ 21-19
เกมสอง นาราโอกะ เปิดเกมได้ดีกว่า เน้นรูปเกมเดิมแล้วหาจังหวะทำอย่างเด็ดขาดกว่า นำ 6-3 เกมยังเป็นของ นาราโอกะ ที่ใช้เกมรับที่เหนียวแน่นสุดๆ รอให้คู่ต่อสู้พลาด นำ 9-6 จากนั้น วิว กุลวุฒิ มาฮึดทำ 5 แต้มรวด แซงกลับมาครึ่งเกมสองที่ 11-9 ทั้งคู่เล่นกันอย่างสูสีตลอด โดยเน้นแจกลูกเป็นหลัก เสมอกัน 18-18 จากนั้น วิว กุลวุฒิ เล่นด้วยความอดทน จนมาปิดเกมนี้ได้ที่ 21-18 เสมอกัน 1-1 เกม
เกมตัดสิน วิว กุลวุฒิ เปลี่ยนเกมมาเล่นบุกขึ้นออกนำ 5-1 วิว กุลวุฒิ เล่นได้ง่ายขึ้น หลัง นาราโอกะ เริ่มออกอาการล้าอย่างเห็นได้ชัด นำห่าง 10-1 แต่ วิว กุลวุฒิ ก็มานำในครึ่งเกมสามที่ 11-5 จากนั้นเกมเป็นของ วิว กุลวุฒิ เป็นฝ่ายคุมเกมไว้ได้ทั้งหมด ออกนำห่าง 19-5 ก่อนที่ วิว กุลวุฒิ จะปิดแมตช์ได้ยอดเยี่ยมที่ 21-7 ทำให้เอาชนะไปได้ 2-1 เกม ใช้เวลาแข่งขัน 1 ชั่วโมง 48 นาที
วิว กุลวุฒิ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ และ เป็นการคว้าเหรียญ 2 ครั้งติดต่อกัน ต่อจากปี 2022 ที่ได้เหรียญเงิน นอกจากนี้ ยังเป็นนักแบดมินตันชาวไทย คนที่ 3 ที่คว้าแชมป์โลก ต่อจาก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ เมื่อปี 2013 และ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ในปี 2021
ด้านคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวหลังจบการแข่งขันนี้ว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับความสำเร็จของ วิว กุลวุฒิ ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการแบดมินตันไทย ด้วยการคว้าแชมป์โลกในประเภทชายเดี่ยวได้สำเร็จเป็นคนแรก จากฟอร์มการเล่นที่มีการพัฒนามากขึ้นตามลำดับ ทั้งเกมรับที่เหนียวแน่น อีกทั้งมีเกมบุกที่เฉียบขาดมากขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงจิตใจที่มุ่งมั่น ไม่เคยย่อท้อ ถึงแม้จะต้องเจอกับคู่แข่งที่มีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม ก็สามารถรักษามาตรฐานการเล่น จนเก็บชัยชนะมาได้ในหลายๆ แมตช์ที่ผ่านมา
“ขอชื่นชมกับการปรับรูปแบบเกมระหว่างการแข่งขันได้ด้วยตนเอง ที่ วิว กุลวุฒิ ทำได้อย่างยอดเยี่ยม อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความชาญฉลาดในกีฬาแบดมินตัน หรือ Badminton IQ ที่จะทำให้วิวสามารถเล่นกับคู่แข่งขันได้หลากหลายรูปแบบ
จากผลงานที่คว้าแชมป์โลกมาได้ในครั้งนี้จะเป็นการสร้างพลังใจที่ดีให้กับ วิว กุลวุฒิ ให้เดินหน้าสานต่อความสำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้อีกมากมายในอนาคต ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ วิว กุลวุฒิ จะเป็นอีกหนึ่งความหวังของทีมแบดมินตันทีมชาติไทยที่จะไปร่วมแข่งขันในศึกเอเชียนเกมส์ ที่หางโจว ประเทศจีน ซึ่งจะมีบรรดานักกีฬามือระดับท็อปของโลกในเอเชียเดินทางไปร่วมแย่งชิงเหรียญทองกันอย่างมากมาย ที่สำคัญที่สุด วิว กุลวุฒิ จะเป็นอีกหนึ่งในความหวังของแบดมินตันไทยที่มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญรางวัลแรกในศึกโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งที่เป็นเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ
นอกจากนั้น ขอชื่นชมผลงานของนักกีฬาแบดมินตันไทยประเภทอื่นๆ อาทิ คู่ผสม บาส กับ ปอป้อ และหญิงคู่ กิ๊ฟ กับ วิว ที่ทำผลงานผ่านเข้ามาถึงรอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ ถึงแม้จะพลาดท่าให้กับคู่แข่งที่เป็นมือวางไปอย่างน่าเสียดาย แต่ทุกคนก็ถือเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในการแข่งขันเอเชียนเกมส์และโอลิมปิกเกมส์ สุดท้าย ขอขอบคุณนักกีฬาแบดมินตันทีมไทยทุกๆ คน รวมถึงทีมโค้ชทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำผลงานสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ในศึกชิงแชมป์โลก 2023 ในครั้งนี้”
โดย วิว กุลวุฒิ หลังจากที่ระเบิดฟอร์มเก่งคว้าแชมป์โลกมาครอง จะเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในเช้าวันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2566 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 951 เวลา 06.00 น.
ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจ ประเภทคู่ผสม โซว ซอนแจ กับ แช ยูจุง คู่มือวางอันดับ 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 5 ของโลก จากเกาหลีใต้ ชนะ เจิ้ง ซีเว่ย กับ หวง ย่าเฉียง คู่มืออันดับ 1 ของโลก จากจีน 2-1 เกม 21-17, 10-21, 21-18
ประเภทหญิงคู่ เฉิน ยิงเฉิน กับ เจีย ยี่ฟาน คู่มืออันดับ 1 ของโลก จากจีน ชนะ อภิรานี ราฮายู กับ ซิตี้ ฟาเดีย รามัดฮานติ คู่มือวางอันดับ 11 ของรายการ คู่มืออันดับ 12 ของโลก จากอินโดนีเซีย 2-0 เกม 21-16, 21-12
ประเภทหญิงเดี่ยว อัน เซยอง มืออันดับ 1 ของโลก จากเกาหลีใต้ ชนะ คาโรลินา มาริน มืออันดับ 6 ของโลก จากสเปน 2-0 เกม 21-12, 21-10. – สำนักข่าวไทย
เครดิตภาพ : BadmintonPhoto