สนามบินสุวรรณภูมิ 17 พ.ค.-นายยุทธนา หยิมการุณ ผู้อำนวยการฟุตบอลทีมชาติไทย กล่าวขอโทษแฟนฟุตบอลกับเหตุการณ์วุ่นวายระหว่างเกมที่เกิดขึ้นในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลชายซีเกมส์ พร้อมยืนยันสมาคมฟุตบอล จะตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
นายยุทธนา ในฐานะผู้อำนวยการทีม กล่าวขอโทษต่อแฟนบอลชาวไทยกับเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในรอบชิงชนะเลิศ พร้อมระบุว่า ภาพรวมการแข่งขันซีเกมส์ ถือว่านักเตะทำได้ดี แต่ว่าเกมนัดชิงชนะเลิศ นักเตะมีความอ่อนล้า ส่วนเหตุการณ์ชุลมุนตะลุมบอนกันนั้น ในฐานะผู้อำนวยการทีมชาติไทย ต้องกราบขอโทษ พี่น้องประชาชนชาวไทยที่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ส่วนมาตรการลงโทษบุคลากรในทีมนั้น สมาคมได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว และจะพิจารณาอย่างเร่งด่วน
“โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอน กล่าวว่า เหรียญเงินนี้เป็นเหรียญที่สร้างประสบการณ์ให้กับนักเตะซีเกมส์ทำให้มีแมตช์ให้ได้เล่น พบทีมที่แข็งแกร่ง ภาพรวมผลงานถือว่าทำได้ดีพอสมควร ส่วนกรณีเหตุการณ์ชุลมุน เป็นอารมณ์ของฟุตบอล เกิดตั้งแต่ประตูที่สองที่ไทยเสียจากลูกเตะบอลคืน เพราะทีมคิดว่าเราโดนเอาเปรียบ แต่แน่นอนว่า ทำผิด ก็ต้องขอโทษ พอจบเกมทีมงานของไทยก็ไปจับมือขอโทษกับทีมงานอินโดนีเซีย
ขณะที่ อิรฟาน ดอเลาะ กัปตันทีม กล่าวขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ช่วยกันเล่น ผิดหวังที่ได้รองแชมป์ซีเกมส์ 2 ครั้ง ส่วนเหตุการณ์ชลมุนระหว่างเกม อิรฟาน ยอมรับว่ามีความกดดัน และในอนาคตต้องใจเย็นกว่านี้ เรื่องที่เกิดขึ้นอยากขอโทษแทนเพื่อน ๆ พี่ ๆ สตาฟทุกคน จะนำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป
สำหรับรายการต่อไปของทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี คือ การทำศึกชิงแชมป์อาเซียน เดือนสิงหาคม ต่อด้วยการทำศึกชิงแชมป์เอเชีย ช่วงเดือนกันยายน
การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม มีพิธีปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช โดยมีสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมด้วยสมเด็จ บุน รานี ฮุน เซน ภริยาเป็นประธานในพิธี รวมถึง พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เป็นผู้กล่าวรายงานและความสำเร็จในการจัดแข่งขัน ส่วนผู้แทนประเทศไทยมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ร่วมในพิธี
สำหรับพิธีการและการแสดงในพิธีปิด เจ้าภาพยังคงนำเสนอศิลปวัฒนธรรมของกัมพูชาส่งท้ายการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งแรกของประเทศ โดยเฉพาะการโชว์ “จิตวิญญาณของกุนละโบกาตอร์” ศิลปะการต่อสู้ของกัมพูชาที่ถูกบรรจุเข้าแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ ด้วยระบบแสงสีเสียงและพลุยิ่งใหญ่อลังการ ต่อด้วยขบวนพาเหรดของนักกีฬาทั้ง 11 ชาติและอาสาสมัครที่ทำหน้าที่ในซีเกมส์ครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี
ส่วนประเทศไทย เจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 ในอีก 2 ปีข้างหน้า ได้โชว์การแสดงชุด “สวัสดี ซีเกมส์” ที่ออกแบบและแสดงโดย “คิดบวกสิปป์” กลุ่มคนรักนาฏศิลป์ที่ออกแบบการแสดงที่แปลกใหม่ จนคว้าแชมป์การแข่งขัน Thailand’s Got Talent ซีซั่น 1 เมื่อปี พ.ศ.2554 เพื่อรับมอบธงเจ้าภาพต่อในการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมรับมอบธงเจ้าภาพในฐานะเมืองเจ้าภาพร่วมซีเกมส์ครั้งต่อไป
“บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ ได้กล่าวชื่นชมการจัดการแข่งขันของกัมพูชาที่ทำได้ดีเยี่ยม แก้ปัญหาได้ทันท่วงที และมองว่าการจัดการแข่งขันของกัมพูชาครั้งนี้ ดีกว่าการจัดแข่งขันครั้งที่แล้วที่ประเทศเวียดนาม รวมถึงพิธีเปิด-ปิดที่ทำได้ดีเกิดคาด สร้างความกดดันให้กับประเทศไทยที่อีก 2 ปีข้างหน้าที่จะรับไม้ต่อจากกัมพูชา โดยต้องยอมรับว่ากัมพูชาประสบความสำเร็จในทุกด้าน รวมถึงเหรียญรางวัลที่ได้มากกว่า 80 เหรียญทอง ซึ่งมีหลายชนิดกีฬาที่กัมพูชาอิมพอร์ตนักกีฬาต่างชาติเข้ามา เพื่อมาสร้างชื่อเสียง และเป็นการเปิดประเทศให้ทั่วโลกได้รู้จักกัมพูชามากขึ้น แต่ครั้งต่อไปไม่แน่ว่ากัมพูชาจะได้เหรียญรางวัลมากเท่านี้อีกหรือไม่
ด้าน วัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งกัมพูชา กล่าวขอบคุณชาติอาเซียนที่ไว้วางใจและสร้างมิตรภาพที่ดีขึ้นในการจัดซีเกมส์ครั้งนี้ ซึ่งถือว่าการจัดครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ได้ประโยชน์ทั้งการจัดแข่งขัน และการเผยแพร่วัฒนธรรมของกัมพูชาไปทั่วโลกให้เกิดคุณค่าอย่างมหาศาล พร้อมอวยพรขอให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ และยังอวยพรให้ประเทศไทยที่จะเป็นเจ้าภาพปี 2025 ต่อจากกัมพูชาขอให้โชคดี เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาลเช่นกัน
สรุปเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 32 เวียดนาม ครองเจ้าเหรียญทอง 136 เหรียญทอง อันดับ 2 ทีมชาติไทย 108 เหรียญทอง 96 เหรียญเงิน 108 เหรียญทองแดง อันดับ 3 อินโดนีเซีย 87 เหรียญทอง และอันดับ 4 กัมพูชา เจ้าภาพ 81 เหรียญทอง โดยซีเกมส์ครั้งนี้มีเพียง ติมอร์-เลสเต เพียงชาติเดียวที่ไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ ทำได้เพียง 8 เหรียญทองแดง.-สำนักข่าวไทย