ดราม่านักเตะ-สตาฟโค้ชไทย วางมวยอินโดนีเซีย

กรุงพนมเปญ 17 พ.ค.-ฟุตบอลชายซีเกมส์รอบชิงชนะเลิศ เกิดเหตุการณ์ชุลมุนกระทบกระทั่งกัน นักเตะ-สตาฟโค้ชไทยวางมวยอินโดนีเซีย ทำให้เกมต้องหยุดและต้องต่อเวลาพิเศษตัดสิน จบเกมทีมไทย แพ้ อินโดนีเซีย 2-5 ได้เพียงเหรียญเงิน และทำให้ทีมไทยพลาดคว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน


ฟุตบอลชายซีเกมส์รอบชิงชนะเลิศ ที่โอลิมปิก สเตเดียม เมื่อค่ำวานนี้ ซึ่งเป็นเหรียญสุดท้ายของการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ ทีมชาติไทย ชุดน้ำเงิน พบ อินโดนีเซีย เกมนี้มีแฟนบอลเข้ามาชม 23,899 คน นาทีที่ 20 อินโดนีเซียได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกทุ่มไกล และเป็น ทรงชัย ทองฉ่ำ ที่สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก อินโดนีเซียมาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ และนักเตะอินโดนีเซียเตะบอลทิ้งคืนมาให้ทีมไทย ก่อนที่ รามาดาน ซานาต้า จะวิ่งแซงแนวรับไทย กระดกบอลเข้าประตูไปให้อินโดนีเซีย 2-0

ครึ่งหลังนาทีที่ 65 ทีมไทย มาได้ประตูตีไข่แตกจากลูกเตะมุม ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว เปิดให้ อนันต์ ยอดสังวาลย์โหม่งเข้าไปให้ไทยไล่มาเป็น 1-2 ช่วงทดเจ็บเวลาบาดเจ็บ 90+7 นาทีสุดท้าย ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ให้ไทย สตาฟโค้ชและนักเตะอินโดนีเซีย นึกว่าผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาวิ่งเข้ามาดีใจที่ซุ้มม้านั่งสำรองของไทย และโค้ชอินโดนีเซียวิ่งไปดีใจในสนาม ทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุน


ในจังหวะนี้ทีมไทยได้ลูกฟรีคิกริมเส้น ก่อนที่ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โหม่งตั้งให้ ยศกร บูรพา ตัวสำรองโฉบแตะบอลก่อนจะกดด้วยขวายิงประตูตีเสมอให้ ไทย 2-2 จากนั้นนักเตะตัวสำรองและทีมงานสตาฟโค้ชของไทยวิ่งไปดีใจบริเวณซุ้มมานั่งสำรองของอินโดนีเซีย ทำให้นักเตะและทีมสตาฟโค้ชอินโดนีเซียไม่พอใจ จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกระทบกระทั่งทำให้เกมต้องหยุดและต้องต่อเวลาพิเศษตัดสิน

ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 92 ทรงชัย ทองฉ่ำ ครองบอลพลาด ถูก อิรฟาน เจาฮารี ตัดบอลหลุดเข้าไปชิพข้ามตัวนายทวารของไทยเข้าไปให้อินโดนีเซียขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 และเกิดเหตุการณ์ชุลมุนอีกครั้ง หลังทีมงานและนักเตะตัวสำรองวิ่งมาดีใจใกล้ซุ้มมานั่งสำรองของไทย ทำให้ผู้ตัดสินมาแจกใบแดงทีมงานสตาฟโค้ชไทย และอินโดนีเซีย ฝั่งละ 2 คน รวมถึง โสภณวิชญ์ รักญาติ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ที่วิ่งจะมาต่อยผู้เล่นหมายเลข 4 ของอินโดนีเซีย และนักเตะอินโดนีเซีย ถูกไล่ออก 1 คน ทำให้ทั้ง 2 ทีมเหลือฝั่งละ 10 คน

จากนั้นนาทีที่ 102 โจนาธาร เข็มดี กองหลังของไทย ที่สร้างดราม่าประกาศเลิกเล่นทีมชาติไทยก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ มาถูกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทำให้ทีมชาติไทยเหลือ 9 คน จากนั้นนาทีที่ 108 อินโดนีเซีย นำห่างเป็น 4-2 จาก ฟาธูราห์มาน ก่อนหมดเวลานาทีที่ 117  ธีรศักดิ์ เผยพิมาย มาถูกใบเหลืองแดงไล่ออกสนามอีกคน ทำให้ทีมไทย เหลือผู้เล่น 8 คน นาทีที่ 120 อินโดนีเซีย มาได้ประตูปิดท้าย 5-2 จบเกมทีมไทย แพ้ อินโดนีเซีย 2-5 ได้เพียงเหรียญเงิน และทำให้ทีมไทยพลาดคว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันนับตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์, ซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม และครั้งที่ 32 ส่วนอินโดนีเซีย คว้าเหรียญทองซีเกมส์ไปครองเป็นสมัยที่ 3 และเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี นับตั้งแต่ปี 1991 ขณะที่เวียดนาม คว้าเหรียญทองแดง ชนะเมียนมา 3-1 


หลังจบเกม ”โค้ชหระ” อิสระ ศรีทะโร กล่าวขอโทษแฟนบอลชาวไทย ที่ไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ และนักเตะไม่สามารถควบคุมได้ ทุกคนพยายามทำเต็มที่ จากนี้ต้องคุยกับสมาคมถึงการเตรียมทีมชุดนี้และรายงานหลังจบภารกิจ ส่วน ลีออน เจมส์ และอชิตพล คีรีรมย์ ขอโทษชาวไทยที่ไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ และขอบคุณที่ติดตามให้กำลังใจในซีเกมส์ครั้งนี้

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือทีมชาติไทย ที่เคยพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ ได้โพสต์ให้กำลังใจ ขอให้นักเตะเชิดหน้าแล้วสู้ต่อไป เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เรียนรู้และปรับปรุงแก้ไขให้แกร่งกว่าเดิม ขณะที่ ”ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ได้โพสต์ไอจีส่วนตัว ตำหนิถึงการควบคุมอารมณ์และการแสดงออกถึงวุฒิภาวะที่ถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของบุคลากรฟุตบอลควรมี หลังจากมีเหตุการณ์ชุลมุนชกต่อยกันข้างสนาม พวกเราไปนามทีมชาติไทย เป็นตัวแทนทีมชาติไทย เป็นตัวแทนที่ภาคภูมิใจของคนไทยที่พวกเขารอชื่นชม นอกจากนี้ตองยังโพสต์ให้กำลังใจนักเตะอีกด้วยว่า ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจไปตลอด มีสมหวัง ผิดหวัง แต่เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนสู้เต็มที่ ขณะเดียวกันสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย PSSI ได้โพสต์ภาพนักเตะอินโดนีเซียนอนถอดเสื้อ พร้อมเหรียญทองและนอนกอดตุ๊กตามาสคอต 

ด้านสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสมาคมฯ​ เชื่อว่าทีมชาติไทยชุดนี้สามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยรูปแบบการเล่นที่สามารถพัฒนาต่อไปได้ แม้การคว้าเหรียญเงินอาจจะไม่ได้ประสบผลสำเร็จตามที่นักกีฬาและสตาฟโค้ชตั้งความหวังเอาไว้ สมาคมฯ ขอแสดงความผิดหวังและขอโทษต่อเหตุการณ์ความวุ่นวายทะเลาะวิวาทนอกสนามที่เกิดขึ้นในช่วงการแข่งขัน ซึ่งมีภาพปรากฏออกสู่สายตาผู้ชมทั้งในสนามและแฟนบอลทั่วโลก ได้สร้างความเสียหายต่อฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะทีมงานสตาฟโค้ชที่ถือว่าเป็นบุคลากรที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ในฐานะตัวแทนของคนไทย ทุกนาทีในการทำหน้าที่จะต้องตระหนักถึงการมีวุฒิภาวะ ความอดทนต่อสิ่งยั่วยุต่างๆ มีการคุมอารมณ์ที่ดีเยี่ยมภายใต้การแข่งขันที่มีความกดดันสูงเช่นนี้

สมาคมฯ ขอแจ้งให้ทราบว่า จะมีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน และจะมีบทลงโทษเด็ดขาด​ โดยไม่มีการปกป้องบุคลากรที่ได้กระทำความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะเริ่มทันทีหลังจากทีมเดินทางกลับถึงประเทศไทย สำหรับทีมชาติไทย จะเดินทางกลับไทยวันนี้ โดยจะถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในเวลา 17.00 น.

ส่วนพิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในเย็นวันนี้ ที่สนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช จะมี พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เป็นประธานในพิธี ส่วนผู้แทนประเทศไทยมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ร่วมในพิธี

สำหรับพิธีการเจ้าภาพยังคงนำเสนอศิลปวัฒนธรรมของกัมพูชาส่งท้ายการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งแรกของประเทศ ส่วนไทยจะมีการแสดงชุด “สวัสดี ซีเกมส์” ที่ออกแบบและแสดงโดย “คิดบวกสิปป์” กลุ่มคนรักนาฏศิลป์ที่ออกแบบการแสดงที่แปลกใหม่ จนคว้าแชมป์การแข่งขัน Thailand’s Got Talent ซีซั่น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2554 เพื่อรับมอบธงเจ้าภาพต่อในการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมรับมอบธงเจ้าภาพ ในฐานะเมืองเจ้าภาพร่วมซีเกมส์ครั้งต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สรุปเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 32 

อันดับ 1 เวียดนาม 136 เหรียญทอง 

อันดับ 2 ทีมชาติไทย 108 เหรียญทอง 96 เหรียญเงิน 109 เหรียญทองแดง 

อันดับ 3 อินโดนีเซีย 87 เหรียญทอง 

อันดับ 4 กัมพูชา เจ้าภาพ 81 เหรียญทอง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย