ดราม่านักเตะ-สตาฟโค้ชไทย วางมวยอินโดนีเซีย

กรุงพนมเปญ 17 พ.ค.-ฟุตบอลชายซีเกมส์รอบชิงชนะเลิศ เกิดเหตุการณ์ชุลมุนกระทบกระทั่งกัน นักเตะ-สตาฟโค้ชไทยวางมวยอินโดนีเซีย ทำให้เกมต้องหยุดและต้องต่อเวลาพิเศษตัดสิน จบเกมทีมไทย แพ้ อินโดนีเซีย 2-5 ได้เพียงเหรียญเงิน และทำให้ทีมไทยพลาดคว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน


ฟุตบอลชายซีเกมส์รอบชิงชนะเลิศ ที่โอลิมปิก สเตเดียม เมื่อค่ำวานนี้ ซึ่งเป็นเหรียญสุดท้ายของการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ ทีมชาติไทย ชุดน้ำเงิน พบ อินโดนีเซีย เกมนี้มีแฟนบอลเข้ามาชม 23,899 คน นาทีที่ 20 อินโดนีเซียได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกทุ่มไกล และเป็น ทรงชัย ทองฉ่ำ ที่สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก อินโดนีเซียมาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ และนักเตะอินโดนีเซียเตะบอลทิ้งคืนมาให้ทีมไทย ก่อนที่ รามาดาน ซานาต้า จะวิ่งแซงแนวรับไทย กระดกบอลเข้าประตูไปให้อินโดนีเซีย 2-0

ครึ่งหลังนาทีที่ 65 ทีมไทย มาได้ประตูตีไข่แตกจากลูกเตะมุม ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว เปิดให้ อนันต์ ยอดสังวาลย์โหม่งเข้าไปให้ไทยไล่มาเป็น 1-2 ช่วงทดเจ็บเวลาบาดเจ็บ 90+7 นาทีสุดท้าย ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ให้ไทย สตาฟโค้ชและนักเตะอินโดนีเซีย นึกว่าผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาวิ่งเข้ามาดีใจที่ซุ้มม้านั่งสำรองของไทย และโค้ชอินโดนีเซียวิ่งไปดีใจในสนาม ทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุน


ในจังหวะนี้ทีมไทยได้ลูกฟรีคิกริมเส้น ก่อนที่ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โหม่งตั้งให้ ยศกร บูรพา ตัวสำรองโฉบแตะบอลก่อนจะกดด้วยขวายิงประตูตีเสมอให้ ไทย 2-2 จากนั้นนักเตะตัวสำรองและทีมงานสตาฟโค้ชของไทยวิ่งไปดีใจบริเวณซุ้มมานั่งสำรองของอินโดนีเซีย ทำให้นักเตะและทีมสตาฟโค้ชอินโดนีเซียไม่พอใจ จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกระทบกระทั่งทำให้เกมต้องหยุดและต้องต่อเวลาพิเศษตัดสิน

ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 92 ทรงชัย ทองฉ่ำ ครองบอลพลาด ถูก อิรฟาน เจาฮารี ตัดบอลหลุดเข้าไปชิพข้ามตัวนายทวารของไทยเข้าไปให้อินโดนีเซียขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 และเกิดเหตุการณ์ชุลมุนอีกครั้ง หลังทีมงานและนักเตะตัวสำรองวิ่งมาดีใจใกล้ซุ้มมานั่งสำรองของไทย ทำให้ผู้ตัดสินมาแจกใบแดงทีมงานสตาฟโค้ชไทย และอินโดนีเซีย ฝั่งละ 2 คน รวมถึง โสภณวิชญ์ รักญาติ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ที่วิ่งจะมาต่อยผู้เล่นหมายเลข 4 ของอินโดนีเซีย และนักเตะอินโดนีเซีย ถูกไล่ออก 1 คน ทำให้ทั้ง 2 ทีมเหลือฝั่งละ 10 คน

จากนั้นนาทีที่ 102 โจนาธาร เข็มดี กองหลังของไทย ที่สร้างดราม่าประกาศเลิกเล่นทีมชาติไทยก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ มาถูกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทำให้ทีมชาติไทยเหลือ 9 คน จากนั้นนาทีที่ 108 อินโดนีเซีย นำห่างเป็น 4-2 จาก ฟาธูราห์มาน ก่อนหมดเวลานาทีที่ 117  ธีรศักดิ์ เผยพิมาย มาถูกใบเหลืองแดงไล่ออกสนามอีกคน ทำให้ทีมไทย เหลือผู้เล่น 8 คน นาทีที่ 120 อินโดนีเซีย มาได้ประตูปิดท้าย 5-2 จบเกมทีมไทย แพ้ อินโดนีเซีย 2-5 ได้เพียงเหรียญเงิน และทำให้ทีมไทยพลาดคว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันนับตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์, ซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม และครั้งที่ 32 ส่วนอินโดนีเซีย คว้าเหรียญทองซีเกมส์ไปครองเป็นสมัยที่ 3 และเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี นับตั้งแต่ปี 1991 ขณะที่เวียดนาม คว้าเหรียญทองแดง ชนะเมียนมา 3-1 


หลังจบเกม ”โค้ชหระ” อิสระ ศรีทะโร กล่าวขอโทษแฟนบอลชาวไทย ที่ไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ และนักเตะไม่สามารถควบคุมได้ ทุกคนพยายามทำเต็มที่ จากนี้ต้องคุยกับสมาคมถึงการเตรียมทีมชุดนี้และรายงานหลังจบภารกิจ ส่วน ลีออน เจมส์ และอชิตพล คีรีรมย์ ขอโทษชาวไทยที่ไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ และขอบคุณที่ติดตามให้กำลังใจในซีเกมส์ครั้งนี้

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือทีมชาติไทย ที่เคยพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ ได้โพสต์ให้กำลังใจ ขอให้นักเตะเชิดหน้าแล้วสู้ต่อไป เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เรียนรู้และปรับปรุงแก้ไขให้แกร่งกว่าเดิม ขณะที่ ”ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ได้โพสต์ไอจีส่วนตัว ตำหนิถึงการควบคุมอารมณ์และการแสดงออกถึงวุฒิภาวะที่ถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของบุคลากรฟุตบอลควรมี หลังจากมีเหตุการณ์ชุลมุนชกต่อยกันข้างสนาม พวกเราไปนามทีมชาติไทย เป็นตัวแทนทีมชาติไทย เป็นตัวแทนที่ภาคภูมิใจของคนไทยที่พวกเขารอชื่นชม นอกจากนี้ตองยังโพสต์ให้กำลังใจนักเตะอีกด้วยว่า ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจไปตลอด มีสมหวัง ผิดหวัง แต่เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนสู้เต็มที่ ขณะเดียวกันสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย PSSI ได้โพสต์ภาพนักเตะอินโดนีเซียนอนถอดเสื้อ พร้อมเหรียญทองและนอนกอดตุ๊กตามาสคอต 

ด้านสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสมาคมฯ​ เชื่อว่าทีมชาติไทยชุดนี้สามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยรูปแบบการเล่นที่สามารถพัฒนาต่อไปได้ แม้การคว้าเหรียญเงินอาจจะไม่ได้ประสบผลสำเร็จตามที่นักกีฬาและสตาฟโค้ชตั้งความหวังเอาไว้ สมาคมฯ ขอแสดงความผิดหวังและขอโทษต่อเหตุการณ์ความวุ่นวายทะเลาะวิวาทนอกสนามที่เกิดขึ้นในช่วงการแข่งขัน ซึ่งมีภาพปรากฏออกสู่สายตาผู้ชมทั้งในสนามและแฟนบอลทั่วโลก ได้สร้างความเสียหายต่อฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะทีมงานสตาฟโค้ชที่ถือว่าเป็นบุคลากรที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ในฐานะตัวแทนของคนไทย ทุกนาทีในการทำหน้าที่จะต้องตระหนักถึงการมีวุฒิภาวะ ความอดทนต่อสิ่งยั่วยุต่างๆ มีการคุมอารมณ์ที่ดีเยี่ยมภายใต้การแข่งขันที่มีความกดดันสูงเช่นนี้

สมาคมฯ ขอแจ้งให้ทราบว่า จะมีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน และจะมีบทลงโทษเด็ดขาด​ โดยไม่มีการปกป้องบุคลากรที่ได้กระทำความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะเริ่มทันทีหลังจากทีมเดินทางกลับถึงประเทศไทย สำหรับทีมชาติไทย จะเดินทางกลับไทยวันนี้ โดยจะถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในเวลา 17.00 น.

ส่วนพิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในเย็นวันนี้ ที่สนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช จะมี พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เป็นประธานในพิธี ส่วนผู้แทนประเทศไทยมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ร่วมในพิธี

สำหรับพิธีการเจ้าภาพยังคงนำเสนอศิลปวัฒนธรรมของกัมพูชาส่งท้ายการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งแรกของประเทศ ส่วนไทยจะมีการแสดงชุด “สวัสดี ซีเกมส์” ที่ออกแบบและแสดงโดย “คิดบวกสิปป์” กลุ่มคนรักนาฏศิลป์ที่ออกแบบการแสดงที่แปลกใหม่ จนคว้าแชมป์การแข่งขัน Thailand’s Got Talent ซีซั่น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2554 เพื่อรับมอบธงเจ้าภาพต่อในการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมรับมอบธงเจ้าภาพ ในฐานะเมืองเจ้าภาพร่วมซีเกมส์ครั้งต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สรุปเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 32 

อันดับ 1 เวียดนาม 136 เหรียญทอง 

อันดับ 2 ทีมชาติไทย 108 เหรียญทอง 96 เหรียญเงิน 109 เหรียญทองแดง 

อันดับ 3 อินโดนีเซีย 87 เหรียญทอง 

อันดับ 4 กัมพูชา เจ้าภาพ 81 เหรียญทอง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

อพยพประชาชน-ผู้ป่วย หนีภัยกระสุนปืนใหญ่

24 ก.ค. – โกลาหล! เจ้าหน้าที่อพยพประชาชน รวมทั้งผู้ป่วย 170 ราย หนีภัยกระสุนปืนใหญ่กลางเมืองกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แพทย์-พยาบาล-ชาวบ้านตื่นตระหนก บางรายถึงกับร่ำไห้ ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงสายวันนี้เป็นต้นมา ชาว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ต่างโกลาหล หลังเวลาประมาณ 10.50 น. มีจรวด BM21 ตกใส่ร้านสะดวกซื้อในปั๊ม ปตท.สาขาบ้านผือ ต.เมือง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บกว่า 10 ราย ห่างปั๊มออกไปราว 800 เมตร ยังพบผู้เสียชีวิตอีกหนึ่ง 1 ราย ภายในสวนยางพารา พนักงานร้านร้านสะดวกซื้อที่รอดชีวิตอย่างหวุด เล่านาทีระทึกขณะระเบิดลงหลายลูก และเกิดไฟลุกไหม้ จึงวิ่งหนีเอาตัวรอดทางประตูหลัง ช่วงเวลาใกล้ 15.00 น. ยังมีกระสุนปืนใหญ่มาตกบริเวณด้านหน้า ตชด.224 ห่างจากจุดเกิดเหตุแรก 1 กิโลเมตรเศษ ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน จรวด BM21 […]

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย