ดราม่านักเตะ-สตาฟโค้ชไทย วางมวยอินโดนีเซีย

กรุงพนมเปญ 17 พ.ค.-ฟุตบอลชายซีเกมส์รอบชิงชนะเลิศ เกิดเหตุการณ์ชุลมุนกระทบกระทั่งกัน นักเตะ-สตาฟโค้ชไทยวางมวยอินโดนีเซีย ทำให้เกมต้องหยุดและต้องต่อเวลาพิเศษตัดสิน จบเกมทีมไทย แพ้ อินโดนีเซีย 2-5 ได้เพียงเหรียญเงิน และทำให้ทีมไทยพลาดคว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน


ฟุตบอลชายซีเกมส์รอบชิงชนะเลิศ ที่โอลิมปิก สเตเดียม เมื่อค่ำวานนี้ ซึ่งเป็นเหรียญสุดท้ายของการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ ทีมชาติไทย ชุดน้ำเงิน พบ อินโดนีเซีย เกมนี้มีแฟนบอลเข้ามาชม 23,899 คน นาทีที่ 20 อินโดนีเซียได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกทุ่มไกล และเป็น ทรงชัย ทองฉ่ำ ที่สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก อินโดนีเซียมาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ และนักเตะอินโดนีเซียเตะบอลทิ้งคืนมาให้ทีมไทย ก่อนที่ รามาดาน ซานาต้า จะวิ่งแซงแนวรับไทย กระดกบอลเข้าประตูไปให้อินโดนีเซีย 2-0

ครึ่งหลังนาทีที่ 65 ทีมไทย มาได้ประตูตีไข่แตกจากลูกเตะมุม ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว เปิดให้ อนันต์ ยอดสังวาลย์โหม่งเข้าไปให้ไทยไล่มาเป็น 1-2 ช่วงทดเจ็บเวลาบาดเจ็บ 90+7 นาทีสุดท้าย ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ให้ไทย สตาฟโค้ชและนักเตะอินโดนีเซีย นึกว่าผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาวิ่งเข้ามาดีใจที่ซุ้มม้านั่งสำรองของไทย และโค้ชอินโดนีเซียวิ่งไปดีใจในสนาม ทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุน


ในจังหวะนี้ทีมไทยได้ลูกฟรีคิกริมเส้น ก่อนที่ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โหม่งตั้งให้ ยศกร บูรพา ตัวสำรองโฉบแตะบอลก่อนจะกดด้วยขวายิงประตูตีเสมอให้ ไทย 2-2 จากนั้นนักเตะตัวสำรองและทีมงานสตาฟโค้ชของไทยวิ่งไปดีใจบริเวณซุ้มมานั่งสำรองของอินโดนีเซีย ทำให้นักเตะและทีมสตาฟโค้ชอินโดนีเซียไม่พอใจ จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกระทบกระทั่งทำให้เกมต้องหยุดและต้องต่อเวลาพิเศษตัดสิน

ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 92 ทรงชัย ทองฉ่ำ ครองบอลพลาด ถูก อิรฟาน เจาฮารี ตัดบอลหลุดเข้าไปชิพข้ามตัวนายทวารของไทยเข้าไปให้อินโดนีเซียขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 และเกิดเหตุการณ์ชุลมุนอีกครั้ง หลังทีมงานและนักเตะตัวสำรองวิ่งมาดีใจใกล้ซุ้มมานั่งสำรองของไทย ทำให้ผู้ตัดสินมาแจกใบแดงทีมงานสตาฟโค้ชไทย และอินโดนีเซีย ฝั่งละ 2 คน รวมถึง โสภณวิชญ์ รักญาติ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ที่วิ่งจะมาต่อยผู้เล่นหมายเลข 4 ของอินโดนีเซีย และนักเตะอินโดนีเซีย ถูกไล่ออก 1 คน ทำให้ทั้ง 2 ทีมเหลือฝั่งละ 10 คน

จากนั้นนาทีที่ 102 โจนาธาร เข็มดี กองหลังของไทย ที่สร้างดราม่าประกาศเลิกเล่นทีมชาติไทยก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ มาถูกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทำให้ทีมชาติไทยเหลือ 9 คน จากนั้นนาทีที่ 108 อินโดนีเซีย นำห่างเป็น 4-2 จาก ฟาธูราห์มาน ก่อนหมดเวลานาทีที่ 117  ธีรศักดิ์ เผยพิมาย มาถูกใบเหลืองแดงไล่ออกสนามอีกคน ทำให้ทีมไทย เหลือผู้เล่น 8 คน นาทีที่ 120 อินโดนีเซีย มาได้ประตูปิดท้าย 5-2 จบเกมทีมไทย แพ้ อินโดนีเซีย 2-5 ได้เพียงเหรียญเงิน และทำให้ทีมไทยพลาดคว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันนับตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์, ซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม และครั้งที่ 32 ส่วนอินโดนีเซีย คว้าเหรียญทองซีเกมส์ไปครองเป็นสมัยที่ 3 และเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี นับตั้งแต่ปี 1991 ขณะที่เวียดนาม คว้าเหรียญทองแดง ชนะเมียนมา 3-1 


หลังจบเกม ”โค้ชหระ” อิสระ ศรีทะโร กล่าวขอโทษแฟนบอลชาวไทย ที่ไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ และนักเตะไม่สามารถควบคุมได้ ทุกคนพยายามทำเต็มที่ จากนี้ต้องคุยกับสมาคมถึงการเตรียมทีมชุดนี้และรายงานหลังจบภารกิจ ส่วน ลีออน เจมส์ และอชิตพล คีรีรมย์ ขอโทษชาวไทยที่ไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ และขอบคุณที่ติดตามให้กำลังใจในซีเกมส์ครั้งนี้

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือทีมชาติไทย ที่เคยพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ ได้โพสต์ให้กำลังใจ ขอให้นักเตะเชิดหน้าแล้วสู้ต่อไป เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เรียนรู้และปรับปรุงแก้ไขให้แกร่งกว่าเดิม ขณะที่ ”ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ได้โพสต์ไอจีส่วนตัว ตำหนิถึงการควบคุมอารมณ์และการแสดงออกถึงวุฒิภาวะที่ถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของบุคลากรฟุตบอลควรมี หลังจากมีเหตุการณ์ชุลมุนชกต่อยกันข้างสนาม พวกเราไปนามทีมชาติไทย เป็นตัวแทนทีมชาติไทย เป็นตัวแทนที่ภาคภูมิใจของคนไทยที่พวกเขารอชื่นชม นอกจากนี้ตองยังโพสต์ให้กำลังใจนักเตะอีกด้วยว่า ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจไปตลอด มีสมหวัง ผิดหวัง แต่เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนสู้เต็มที่ ขณะเดียวกันสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย PSSI ได้โพสต์ภาพนักเตะอินโดนีเซียนอนถอดเสื้อ พร้อมเหรียญทองและนอนกอดตุ๊กตามาสคอต 

ด้านสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสมาคมฯ​ เชื่อว่าทีมชาติไทยชุดนี้สามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยรูปแบบการเล่นที่สามารถพัฒนาต่อไปได้ แม้การคว้าเหรียญเงินอาจจะไม่ได้ประสบผลสำเร็จตามที่นักกีฬาและสตาฟโค้ชตั้งความหวังเอาไว้ สมาคมฯ ขอแสดงความผิดหวังและขอโทษต่อเหตุการณ์ความวุ่นวายทะเลาะวิวาทนอกสนามที่เกิดขึ้นในช่วงการแข่งขัน ซึ่งมีภาพปรากฏออกสู่สายตาผู้ชมทั้งในสนามและแฟนบอลทั่วโลก ได้สร้างความเสียหายต่อฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะทีมงานสตาฟโค้ชที่ถือว่าเป็นบุคลากรที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ในฐานะตัวแทนของคนไทย ทุกนาทีในการทำหน้าที่จะต้องตระหนักถึงการมีวุฒิภาวะ ความอดทนต่อสิ่งยั่วยุต่างๆ มีการคุมอารมณ์ที่ดีเยี่ยมภายใต้การแข่งขันที่มีความกดดันสูงเช่นนี้

สมาคมฯ ขอแจ้งให้ทราบว่า จะมีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน และจะมีบทลงโทษเด็ดขาด​ โดยไม่มีการปกป้องบุคลากรที่ได้กระทำความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะเริ่มทันทีหลังจากทีมเดินทางกลับถึงประเทศไทย สำหรับทีมชาติไทย จะเดินทางกลับไทยวันนี้ โดยจะถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในเวลา 17.00 น.

ส่วนพิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในเย็นวันนี้ ที่สนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช จะมี พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เป็นประธานในพิธี ส่วนผู้แทนประเทศไทยมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ร่วมในพิธี

สำหรับพิธีการเจ้าภาพยังคงนำเสนอศิลปวัฒนธรรมของกัมพูชาส่งท้ายการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งแรกของประเทศ ส่วนไทยจะมีการแสดงชุด “สวัสดี ซีเกมส์” ที่ออกแบบและแสดงโดย “คิดบวกสิปป์” กลุ่มคนรักนาฏศิลป์ที่ออกแบบการแสดงที่แปลกใหม่ จนคว้าแชมป์การแข่งขัน Thailand’s Got Talent ซีซั่น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2554 เพื่อรับมอบธงเจ้าภาพต่อในการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมรับมอบธงเจ้าภาพ ในฐานะเมืองเจ้าภาพร่วมซีเกมส์ครั้งต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สรุปเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 32 

อันดับ 1 เวียดนาม 136 เหรียญทอง 

อันดับ 2 ทีมชาติไทย 108 เหรียญทอง 96 เหรียญเงิน 109 เหรียญทองแดง 

อันดับ 3 อินโดนีเซีย 87 เหรียญทอง 

อันดับ 4 กัมพูชา เจ้าภาพ 81 เหรียญทอง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]