ดราม่านักเตะ-สตาฟโค้ชไทย วางมวยอินโดนีเซีย

กรุงพนมเปญ 17 พ.ค.-ฟุตบอลชายซีเกมส์รอบชิงชนะเลิศ เกิดเหตุการณ์ชุลมุนกระทบกระทั่งกัน นักเตะ-สตาฟโค้ชไทยวางมวยอินโดนีเซีย ทำให้เกมต้องหยุดและต้องต่อเวลาพิเศษตัดสิน จบเกมทีมไทย แพ้ อินโดนีเซีย 2-5 ได้เพียงเหรียญเงิน และทำให้ทีมไทยพลาดคว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน


ฟุตบอลชายซีเกมส์รอบชิงชนะเลิศ ที่โอลิมปิก สเตเดียม เมื่อค่ำวานนี้ ซึ่งเป็นเหรียญสุดท้ายของการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ ทีมชาติไทย ชุดน้ำเงิน พบ อินโดนีเซีย เกมนี้มีแฟนบอลเข้ามาชม 23,899 คน นาทีที่ 20 อินโดนีเซียได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกทุ่มไกล และเป็น ทรงชัย ทองฉ่ำ ที่สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก อินโดนีเซียมาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ และนักเตะอินโดนีเซียเตะบอลทิ้งคืนมาให้ทีมไทย ก่อนที่ รามาดาน ซานาต้า จะวิ่งแซงแนวรับไทย กระดกบอลเข้าประตูไปให้อินโดนีเซีย 2-0

ครึ่งหลังนาทีที่ 65 ทีมไทย มาได้ประตูตีไข่แตกจากลูกเตะมุม ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว เปิดให้ อนันต์ ยอดสังวาลย์โหม่งเข้าไปให้ไทยไล่มาเป็น 1-2 ช่วงทดเจ็บเวลาบาดเจ็บ 90+7 นาทีสุดท้าย ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ให้ไทย สตาฟโค้ชและนักเตะอินโดนีเซีย นึกว่าผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาวิ่งเข้ามาดีใจที่ซุ้มม้านั่งสำรองของไทย และโค้ชอินโดนีเซียวิ่งไปดีใจในสนาม ทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุน


ในจังหวะนี้ทีมไทยได้ลูกฟรีคิกริมเส้น ก่อนที่ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โหม่งตั้งให้ ยศกร บูรพา ตัวสำรองโฉบแตะบอลก่อนจะกดด้วยขวายิงประตูตีเสมอให้ ไทย 2-2 จากนั้นนักเตะตัวสำรองและทีมงานสตาฟโค้ชของไทยวิ่งไปดีใจบริเวณซุ้มมานั่งสำรองของอินโดนีเซีย ทำให้นักเตะและทีมสตาฟโค้ชอินโดนีเซียไม่พอใจ จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกระทบกระทั่งทำให้เกมต้องหยุดและต้องต่อเวลาพิเศษตัดสิน

ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 92 ทรงชัย ทองฉ่ำ ครองบอลพลาด ถูก อิรฟาน เจาฮารี ตัดบอลหลุดเข้าไปชิพข้ามตัวนายทวารของไทยเข้าไปให้อินโดนีเซียขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 และเกิดเหตุการณ์ชุลมุนอีกครั้ง หลังทีมงานและนักเตะตัวสำรองวิ่งมาดีใจใกล้ซุ้มมานั่งสำรองของไทย ทำให้ผู้ตัดสินมาแจกใบแดงทีมงานสตาฟโค้ชไทย และอินโดนีเซีย ฝั่งละ 2 คน รวมถึง โสภณวิชญ์ รักญาติ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ที่วิ่งจะมาต่อยผู้เล่นหมายเลข 4 ของอินโดนีเซีย และนักเตะอินโดนีเซีย ถูกไล่ออก 1 คน ทำให้ทั้ง 2 ทีมเหลือฝั่งละ 10 คน

จากนั้นนาทีที่ 102 โจนาธาร เข็มดี กองหลังของไทย ที่สร้างดราม่าประกาศเลิกเล่นทีมชาติไทยก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ มาถูกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทำให้ทีมชาติไทยเหลือ 9 คน จากนั้นนาทีที่ 108 อินโดนีเซีย นำห่างเป็น 4-2 จาก ฟาธูราห์มาน ก่อนหมดเวลานาทีที่ 117  ธีรศักดิ์ เผยพิมาย มาถูกใบเหลืองแดงไล่ออกสนามอีกคน ทำให้ทีมไทย เหลือผู้เล่น 8 คน นาทีที่ 120 อินโดนีเซีย มาได้ประตูปิดท้าย 5-2 จบเกมทีมไทย แพ้ อินโดนีเซีย 2-5 ได้เพียงเหรียญเงิน และทำให้ทีมไทยพลาดคว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันนับตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์, ซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม และครั้งที่ 32 ส่วนอินโดนีเซีย คว้าเหรียญทองซีเกมส์ไปครองเป็นสมัยที่ 3 และเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี นับตั้งแต่ปี 1991 ขณะที่เวียดนาม คว้าเหรียญทองแดง ชนะเมียนมา 3-1 


หลังจบเกม ”โค้ชหระ” อิสระ ศรีทะโร กล่าวขอโทษแฟนบอลชาวไทย ที่ไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ และนักเตะไม่สามารถควบคุมได้ ทุกคนพยายามทำเต็มที่ จากนี้ต้องคุยกับสมาคมถึงการเตรียมทีมชุดนี้และรายงานหลังจบภารกิจ ส่วน ลีออน เจมส์ และอชิตพล คีรีรมย์ ขอโทษชาวไทยที่ไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ และขอบคุณที่ติดตามให้กำลังใจในซีเกมส์ครั้งนี้

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือทีมชาติไทย ที่เคยพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ ได้โพสต์ให้กำลังใจ ขอให้นักเตะเชิดหน้าแล้วสู้ต่อไป เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เรียนรู้และปรับปรุงแก้ไขให้แกร่งกว่าเดิม ขณะที่ ”ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ได้โพสต์ไอจีส่วนตัว ตำหนิถึงการควบคุมอารมณ์และการแสดงออกถึงวุฒิภาวะที่ถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของบุคลากรฟุตบอลควรมี หลังจากมีเหตุการณ์ชุลมุนชกต่อยกันข้างสนาม พวกเราไปนามทีมชาติไทย เป็นตัวแทนทีมชาติไทย เป็นตัวแทนที่ภาคภูมิใจของคนไทยที่พวกเขารอชื่นชม นอกจากนี้ตองยังโพสต์ให้กำลังใจนักเตะอีกด้วยว่า ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจไปตลอด มีสมหวัง ผิดหวัง แต่เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนสู้เต็มที่ ขณะเดียวกันสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย PSSI ได้โพสต์ภาพนักเตะอินโดนีเซียนอนถอดเสื้อ พร้อมเหรียญทองและนอนกอดตุ๊กตามาสคอต 

ด้านสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสมาคมฯ​ เชื่อว่าทีมชาติไทยชุดนี้สามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยรูปแบบการเล่นที่สามารถพัฒนาต่อไปได้ แม้การคว้าเหรียญเงินอาจจะไม่ได้ประสบผลสำเร็จตามที่นักกีฬาและสตาฟโค้ชตั้งความหวังเอาไว้ สมาคมฯ ขอแสดงความผิดหวังและขอโทษต่อเหตุการณ์ความวุ่นวายทะเลาะวิวาทนอกสนามที่เกิดขึ้นในช่วงการแข่งขัน ซึ่งมีภาพปรากฏออกสู่สายตาผู้ชมทั้งในสนามและแฟนบอลทั่วโลก ได้สร้างความเสียหายต่อฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะทีมงานสตาฟโค้ชที่ถือว่าเป็นบุคลากรที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ในฐานะตัวแทนของคนไทย ทุกนาทีในการทำหน้าที่จะต้องตระหนักถึงการมีวุฒิภาวะ ความอดทนต่อสิ่งยั่วยุต่างๆ มีการคุมอารมณ์ที่ดีเยี่ยมภายใต้การแข่งขันที่มีความกดดันสูงเช่นนี้

สมาคมฯ ขอแจ้งให้ทราบว่า จะมีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน และจะมีบทลงโทษเด็ดขาด​ โดยไม่มีการปกป้องบุคลากรที่ได้กระทำความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะเริ่มทันทีหลังจากทีมเดินทางกลับถึงประเทศไทย สำหรับทีมชาติไทย จะเดินทางกลับไทยวันนี้ โดยจะถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในเวลา 17.00 น.

ส่วนพิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในเย็นวันนี้ ที่สนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช จะมี พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เป็นประธานในพิธี ส่วนผู้แทนประเทศไทยมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ร่วมในพิธี

สำหรับพิธีการเจ้าภาพยังคงนำเสนอศิลปวัฒนธรรมของกัมพูชาส่งท้ายการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งแรกของประเทศ ส่วนไทยจะมีการแสดงชุด “สวัสดี ซีเกมส์” ที่ออกแบบและแสดงโดย “คิดบวกสิปป์” กลุ่มคนรักนาฏศิลป์ที่ออกแบบการแสดงที่แปลกใหม่ จนคว้าแชมป์การแข่งขัน Thailand’s Got Talent ซีซั่น 1 เมื่อปี พ.ศ. 2554 เพื่อรับมอบธงเจ้าภาพต่อในการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมรับมอบธงเจ้าภาพ ในฐานะเมืองเจ้าภาพร่วมซีเกมส์ครั้งต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สรุปเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 32 

อันดับ 1 เวียดนาม 136 เหรียญทอง 

อันดับ 2 ทีมชาติไทย 108 เหรียญทอง 96 เหรียญเงิน 109 เหรียญทองแดง 

อันดับ 3 อินโดนีเซีย 87 เหรียญทอง 

อันดับ 4 กัมพูชา เจ้าภาพ 81 เหรียญทอง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย