พิธีเปิดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 “พนมเปญเกมส์”

กทม. 5 พ.ค.-พิธีเปิดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 “พนมเปญเกมส์” สนามกีฬามรดกเตโช เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ขณะที่ผู้ว่าการ กกท. และเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ร่วมกันเปิดศูนย์อำนวยการคณะนักกีฬาไทย (ไทยเฮ้าส์) อย่างเป็นทางการ ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา


กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 32 พนมเปญเกมส์ 2023 ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคมนี้ ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา มีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ โดยเจ้าภาพได้จัดการแสดง และคอนเสิร์ตจากนักร้องชื่อดังของกัมพูชา เพื่อเรียกน้ำย่อยตั้งแต่เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา ก่อนพิธีเปิดจะเริ่มขึ้น เวลา 19.00 น. โดยมีสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน โดยมีประชาชนชาวกัมพูชาที่เข้ามาชมในสนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช เกือบ 60,000 คน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว เนื่องจากถือเป็นมหกรรมกีฬาของชาวอาเซียนครั้งแรก บนแผ่นดินกัมพูชาในรอบ 64 ปี นับตั้งแต่กีฬาเซียพเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อปี 1959

ซีเกมส์ครั้งนี้มีทัพนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จาก 11 ชาติอาเซียน เข้าร่วมแข่งขัน 36 ชนิดกีฬา กับ 1 กีฬาสาธิต ชิงชัยทั้งหมด 584 เหรียญทอง สำหรับสัญลักษณ์ซีเกมส์ครั้งนี้ กัมพูชาได้ใช้นครวัดมรดกโลกที่ชาวกัมพูชาภาคภูมิใจ เข้ามาผสมผสานกับรูปห่วงที่หมายถึง 11 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ และยังมีนาค 4 สีที่เกี่ยวรัดกันสื่อความหมายแทนความสามัคคีของทุกชาติ ส่วนสัตว์สัญลักษณ์ หรือมาสคอตของการแข่งขัน กัมพูชา ได้ใช้กระต่ายสวมชุดโบกาตอร์ โดยตัวผู้ชื่อ Borey (โบเร่) มีความหมายถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ส่วนตัวเมียชื่อ Romdoul (รอมดุล) เป็นชื่อดอกไม้ประจำชาติของกัมพูชา หรือดอกลำดวน


การแสดงในพิธีเปิดเจ้าภาพจัดไว้ 3 ชุด อย่างสวยงาม ชุดที่ 1 ความงดงามของอังกอร์, ชุดที่ 2 รอยยิ้มของเขมร, ชุดที่ 3 อนาคตของกัมพูชา ขณะที่ขบวนนักกีฬาที่จะเดินเข้าสู่สนาม ทีมชาติไทยมี “เจ้าโอม” ชนาธิป จักรวาฬ นักบาสเกตบอลทีมชาติไทย เป็นผู้ถือธงชาติไทยนำทัพนักกีฬาไทย เดินเข้าสู่สนาม ซึ่งซีเกมส์ครั้งนี้ ไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมชิงชัย 1,148 คน แบ่งเป็น นักกีฬา 847 คน เจ้าหน้าที่ประจำทีม 301 คน โดยการกีฬาแห่งประเทศไทยได้มีการประเมินความหวังในการคว้าเหรียญทองเอาไว้ที่ 164 เหรียญทอง เมื่อวานนี้ทัพนักกีฬาสามารถคว้าเหรียญทองแรกได้แล้วจากกีฬายูยิตสู ประเภทโชว์คู่หญิง

“โค้ชหระ” อิสระ ศรีทะโร กุนซือฟุตบอลชายทีมชาติไทย นำนักเตะช้างศึกลงฝึกซ้อม ที่สนามเปียะ คันรีดสไวเลียง กราวด์ เทรนนิ่ง ครั้งสุดท้ายท่ามกลางอากาศร้อนอบอ่าว ก่อนทำการแข่งขันนัดที่สอง พบกับทีมชาติมาเลเซีย นัดแรกชนะ สปป ลาว 5-1 ส่วนทีมไทย ชนะ สิงคโปร์มา 3-1 โดย มี ”บิ๊กหยิม”ยุทธนา หยิมการุณ ผู้อำนวยการทีมชาติไทย ให้กำลังใจนักเตะในการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด และมั่นใจว่าทีมทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าเกมแรก การฝึกซ้อมยังซ้อม 18 คน เช่นเดิม ยังขาด โจนาธาร เข็มดี กับ เศรษฐสิทธิ์ สุวรรณเศรษฐ์ ที่จะเดินทางมาสมทบหลังจบฟุตบอลไทยลีกในสันเสาร์-อาทิตย์นี้ ส่วนการฝึกซ้อมครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที “โค้ชหระ” เน้นที่การเตรียมแทคติก และเก็บรายละเอียดต่างๆ ที่มีข้อผิดพลาดให้ดีขึ้น หลังจากเกมแรกมีข้อผิดพลาด จะปรับตำแหน่งจากเกมแรก 1-2 ตำแหน่ง

ด้านฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยลงฝึกซ้อมต่อจากทีมฟุตบอลชาย โดย “โค้ชก้าง” นฤพล แก่นสน หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย นำนักเตะทบทวนแทคติก และการฝึกสอนจากการปรับแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ จากเกมแรกที่ชนะสิงคโปร์ 4-0 ที่ยังมีข้อผิดพลาด และยังเล่นไม่ได้ตามแผนที่ซ้อมมา ก่อนที่จะพบกับ สปป.ลาว ในนัดที่สอง ของกลุ่มบี.ในเย็นวันพรุ่งนี้ ส่วนตัวผู้เล่น”โค้ชก้าง” เผยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และมั่นใจถ้านักเตะเล่นตามแผนที่ซ้อมมา ทีมเอาชนะลาวได้ไม่ยาก และหวังว่านักเตะจะเล่นได้ดีกว่าเกมนัดแรก


“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เดินทางไปให้กำลังใจนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยลงฝึกซ้อมถึงขอบสนาม คูเร็น เมาเท่น ในเมืองเสียมเรียบ พร้อมซื้อไปบำรุงกำลังนักกีฬา เป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจแก่นักปั่นทีมชาติไทย ก่อนลงสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และได้ดูนักกีฬาครอสคันทรี่ทั้งชายและหญิงฝึกซ้อมในสนามแข่งขันจริง โดยพื้นสนามส่วนใหญ่เป็นหิน นักปั่นไทยฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุ สำหรับโปรแกรมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขากีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ เปิดฉากชิงชัยในวันที่ 6 พฤษภาคม มีชิง 2 เหรียญทองแรก ประเภทเสือภูเขา รายการครอสคันทรี่หญิง เวลา 09.30-11.30 น. และรายการครอสคันทรี่ชาย เวลา 14.00-16.30 น. ซึ่งนักปั่นไทยนำทัพโดย “โดด” ส.อ.กีรติ สุขปราสาท และ “ไก่” ส.อ.หญิง ศุภักษร นันตะนะ

ขณะที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และนายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ร่วมกันเปิดศูนย์อำนวยการคณะนักกีฬาไทย (ไทยเฮ้าส์) อย่างเป็นทางการ ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จัดตั้งศูนย์อยู่ที่โรงแรมโอ๊ควูด พรีเมียร์ โฮเทล กรุงพนมเปญ
สำหรับศูนย์อำนวยการคณะนักกีฬาไทย (ไทยเฮ้าส์) จัดตั้งขึ้นเพื่อนดูแลทัพนักกีฬาทีมชาติไทย และเจ้าหน้าที่ ให้มีความพร้อมทั้งสภาพร่างกาย และจิตใจ ด้านการตรวจรักษาทั่วไป ด้านกายภาพบำบัด เครื่องฟื้นฟูร่างกายด้วยความเย็น เครื่องนวดด้วยแรงลม การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แคปซูลฟื้นสภาพร่างกาย ด้านสรีรวิทยาการกีฬา ด้านโภชนการกีฬา ด้านจิตวิทยา และด้านการอบรมเรื่องสารต้องห้ามทางการกีฬา เพื่อให้นักกีฬามีความพร้อมทุกด้านสำหรับการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้

สรุปเหรียญทอง อันดับ 1 ทัพนักกีฬาเจ้าภาพ กัมพูชา 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน อันดับ 2 ฟิลิปปินส์ 2 เหรียญทอง อันดับ 3 ทีมชาติไทย 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]