นายกสมาคมฯ พอใจยูยิตสู คว้า 1 เหรียญทอง เป็นไปตามเป้า

กัมพูชา 5 พ.ค.-หลังกีฬายูยิตสู คว้า 1 เหรียญทองแรก ผศ.ดร.ชาญชัย กล่าวพอใจเป็นไปตามเป้า ด้านฟุตบอลทีมชาติไทย “โค้ชหระอิสระ-โค้ชก้าง”นำนักเตะลงฝึกซ้อมต่อเนื่อง เตรียมลงแข่งพรุ่งนี้ เวลา 16.00 น. ขณะ “โอม”ชนาธิป นักบาสเกตบอลทีมชาติไทย เป็นคนถือธงชาติไทยลงสนาม ในพิธีเปิดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ประเทศกัมพูชา


หลังทัพนักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญทองแรกจากกีฬายูยิตสู ประเภทโชว์คู่หญิง จาก “น้องส้ม” สุภวดี แก้วสระแสน กับ “น้องแน็ต” กุลสตรี คำสร้อย สองนักกีฬาสาวดีกรีแชมป์โลก 4 สมัย ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมทำได้ 48 คะแนน จากเทคนิค 23.5 คะแนน และโชว์ 24.5 คะแนน เอาชนะเหรียญเงินจากกัมพูชา ทำได้ 42.5 คะแนน เหรียญทองแดง เวียดนาม กับฟิลิปปินส์ 40 คะแนน ผศ.ดร.ชาญชัย สุขสุวรรณ์ นายกสมาคมกีฬายูยิตสูแห่งประเทศไทย กล่าวเป็นไปตามเป้าที่คาดหวังไว้ในเหรียญทองประเภทนี้ เนื่องจากทั้งคู่มีดีกรีถึงแชมป์โลก ส่วนมาตรฐานการตัดสินในครั้งนี้ถือว่ายอมรับได้

ฟุตบอลทีมชายไทยลงฝึกซ้อมต่อเนื่อง โดย“โค้ชหระอิสระ”ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมไทย นำนักเตะฝึกซ้อมที่โรงเรียนมัธยมชบา อัมพม ก่อนทำการแข่งขันนัดที่สอง พบ มาเลเซีย ในวันพรุ่งนี้ โดยการฝึกซ้อมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่ง”โค้ชหระ”กล่าวว่า การซ้อมยังเน้นเกมรุก และแท็คติกที่ต้องเพิ่มเติมลงไป ตอนนี้สภาพทีมค่อนข้างพร้อมไม่ได้ห่วงอะไร เพราะได้เช็คทุกคนแล้วไม่มีใครบาดเจ็บ และการฝึกซ้อมเป็นไปด้วยดี เน้นที่การเตรียมแท็คติกเพื่อพบ มาเลเซีย สำหรับทีมไทย จะพบ มาเลเซีย ในพรุ่งนี้ เวลา 16 นาฬิกา ที่สนามปริ้นซ์ สเตเดียม


ส่วนทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย “โค้ชก้าง”นฤพล แก่นสน นำนักเตะลงฝึกซ้อมที่สนามอเคลด้า ก่อนลงสนามในเกมนัดที่ 2 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี พบ สปป ลาว โดยเน้นที่การฟื้นฟูร่างกายและการทำประตูเป็นหลัก หลังจากนัดแรก”โค้ชก้าง” มองว่านักเตะยังทำได้ไม่ดีในจังหวะจบสกอร์ และหวังให้ทีมมีความเฉียบคมมากกว่านี้

สำหรับฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย พบ สปป ลาว ที่ สมาร์ต อาร์เอสเอ็น สเตเดียม ในพรุ่งนี้ เวลา 16.00 น. ด้าน ”บิ๊กต้อม”ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย เดินทางไปให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทยในกีฬาชนิดต่างๆ แสดงความเป็นห่วงถึงนักกีฬาที่กำลังเดินทางมากัมพูชา ให้ระวังเรื่องอากาศที่ค่อนข้างร้อน รวมถึงการกินอาหาร-ดื่มน้ำนอกหมู่บ้านนักกีฬาให้ระวังท้องเสียด้วย

สนามกีฬาแห่งชาติ มรดกเตโช ที่กรุงพนมเปญ เป็นสนามใหญ่ที่สุด จุผู้ชมได้มากถึงเกือบ 60,000 ที่นั่ง สำหรับกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าภาพครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในรอบ 64 ปี จะเปิดฉากขึ้นในค่ำวันนี้เวลา 19 น. สนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช ก่อสร้างขึ้นมาใหม่ เป็นหนึ่งในสนามหลักใช้การแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะใช้ในพิธีเปิด-ปิดและแข่งขันกรีฑา การก่อสร้างเป็นการร่วมมือกันระหว่างกัมพูชากับรัฐบาลจีน ด้วยงบประมาณสูงถึง 168 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบประมาณ 6,500 ล้านบาท โดยโครงสร้างของสนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช ได้รับการออกแบบคล้ายกับเรือใบ เพื่อรำลึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับจีน เนื่องจากชาวจีนเดินทางมายังกัมพูชาโดยการเดินเรือในสมัยโบราณ และมีโครงสร้างเป็นหัวเรือมีความสูง 99 เมตร ออกแบบลักษณะคล้ายท่าทางการทักทาย คล้ายกับการไหว้ของกัมพูชา


ซีเกมส์ครั้งแรกของกัมพูชา มีการชิงชัยเหรียญทองมากที่สุดในประวัต์ศาสตร์ถึง 584 เหรียญทอง แข่งขัน 36 ชนิดกีฬา กับ 1 กีฬาสาธิต ซึ่งกัมพูชาพร้อมรับทัพนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ร่วมทั้งสื่อมวลชนจาก 11 ชาติในอาเซียน กระแสการเป็นเจ้าภาพครั้งแรกของกัมพูชา ทำให้ประช่าชนในประเทศให้ความสนใจ เข้าชมในพิธีเปิด-และปิดการแข่งขันร่วมถึงชาติในอาเซียน ทำให้ในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายจัดการแข่งขันเนื่องจากบัตรไม่พอเพียงต่อยอดผู้ชมที่สนใจเข้ามาชมไม่ต่ำว่า 600,000 คน แต่สามารถให้เข้าชมได้เพียงแค่ 50,000 กว่าที่นั่งเท่านั้น จนสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ต้องออกมากล่าวขอให้โลกโซเชียลทั้งในและต่างประเทศหยุดโจมตีฝ่ายจัดการแข่งขันต้องให้ประชาชนเข้าใจว่าสนามรองรับได้ไม่เพียงพอ แต่ให้ภาครัฐ จังหวัด อำเภอ และชุมชน รวมถึงหน่วยงานต่างๆ จัดจอยักษ์ LED ให้ประชาชนได้ติดตาม และชมพิธีเปิดและการแข่งขันซีกมส์ผ่านทางจอยักษ์แทน

ขณะที่ “โอม”ชนาธิป จักรวาฬ นักบาสเกตบอลทีมชาติไทย เจ้าของความสูง 203 เซนติเมตร จะเป็นคนถือธงชาติไทยลงสนาม มีการแสดงชุดที่ 1 ความงดงามของอังกอร์, ชุดที่สองรอยยิ้มของเขมร ชุดที่ 3 อนาคตของกัมพูชา ก่อนเดินขบวนพาเหรดธงชาติของแต่ละชาติ โดยสมเด็จฮุน เซน เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน

ปิดท้ายสรุปเหรียญทอง อันดับ 1 ทัพนักกีฬาเจ้าภาพ กัมพูชา 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน อันดับ 2 ฟิลิปปินส์ 2 เหรียญทอง อันดับ 3 ทีมชาติไทย 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ล่าหนุ่มโมร็อกโก ฆ่าโหดหมอแซมมี่ เผ่นหนีฮ่องกง

ตำรวจประสานตำรวจสากล เร่งล่าตัวแฟนหนุ่มชาวโมร็อกโก ผู้ต้องสงสัยฆ่าโหดหมอแซมมี่ แพทย์ความงามสาวสอง เจ้าของคลินิกเวชกรรมชื่อดังเชียงใหม่ พบเผ่นหนีไปฮ่องกงแล้ว

ผู้เสียหายร้องตำรวจ ปคบ.ตรวจสอบบริษัท K4 ชวนลงทุนซิม-ตู้เติมเงิน

ผู้เสียหายร้องตำรวจ ปคบ.ตรวจสอบบริษัท K4 ชักชวนลงทุนซิมและตู้เติมเงิน อ้างสิทธิ กสทช. พบมีผู้เสียหาย 5,000 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท

รถตู้กลับจากแข่งเรือเสียหลักชนต้นไม้ ดับ 4 เจ็บ 9

สลด! รถตู้กลับจากแข่งเรือยาวที่ จ.ปทุมธานี เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ บนถนนสายลำปาง-งาว จ.ลำปาง เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย

ตั้ง กก.สอบ 7 ตำรวจ บก.จร.ทำร้ายลูกชายอดีต ตร. พ่อยันเอาเรื่องถึงที่สุด

กองบังคับการตำรวจจราจร ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง 7 ตำรวจ บก.จร. รุมทำร้ายลูกชายอดีตตำรวจ พ่อและน้องสาวยืนยันไม่ยอมความ เอาเรื่องถึงที่สุด พร้อมท้าตำรวจทั้ง 7 นาย เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผย

ครอบครัวผู้เสียหายที่โดนตำรวจ 7 นาย รุมทำร้าย เผยอาการยังสาหัส ยันไม่ยอมความ แม้มีกระเช้าปริศนามาให้แล้ว 3 กระเช้า พร้อมท้าตำรวจทั้ง 7 นาย เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผยพฤติกรรมตัวเอง ด้าน รอง ผบช.น. ยันตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำไป

ครอบครัวของผู้บาดเจ็บที่โดนตำรวจ 7 นาย รุมทำร้าย เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนของ สน.บางเขน ก่อนเดินไปชี้จุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่าน และเป็นจุดเดียวกับที่ตำรวจพาผู้บาดเจ็บเข้ามาจอดรถไว้หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เพื่อตรวจสอบว่ารถของผู้บาดเจ็บเป็นรถคันเดียวกับที่ได้ขับแหกด่านหรือไม่ โดยก่อนการชี้จุด พ่อและน้องสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บเดินทางมาพร้อมกับร้อยเวร สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เจ้าของพื้นที่ เพื่อชี้จุดและให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม ระหว่างรอตัวผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวจนสามารถเข้าให้การกับตำรวจได้

นางสาวธนัชตา น้องสาวผู้บาดเจ็บ บอกว่า พี่ชายยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จุดที่น่าเป็นห่วงคือบริเวณศีรษะทั้งหมด โดยเฉพาะดวงตาขวามีเลือดออก การมองเห็นยังไม่ปกติ ส่วนตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำ แต่ยังโชคดีที่ไม่มีส่วนใดต้องผ่าตัด

เหตุการณ์ครั้งนี้รู้สึกรับไม่ได้ ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเข้าข้อกฎหมายข้อไหนพร้อมจะต่อสู้ มองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะพี่ชายของตนไปคนเดียวและไม่มีอาวุธ แต่คู่กรณีเป็นถึงตำรวจ และมีด้วยกันถึง 7 นาย ทันทีที่รู้เรื่องตนเองรีบเดินทางมาที่ด่านทันที พยายามสอบถามว่าตำรวจนายไหนเป็นคนทำพี่ชายของตนเอง แต่ไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งพี่ชายพยายามบอกแล้วว่าไม่ใช่คนขับรถหนีด่าน

นางสาวธนัชตา ยังฝากถึงตำรวจตั้งด่านทุกนายว่าทุกคนมีกล้องติดหน้าอก ตนเองพยายามขอดูแต่มีการอ้างว่ากล้องเสียบ้าง เปิดไม่ได้บ้าง จึงอยากฝากไปถึงตำรวจตั้งด่านในวันนั้นทุกนายให้เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผย เพื่อเป็นการยืนยันเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะเหตุการณ์วันนั้นตนเองก็มีหลักฐาน รวมถึงพยานคือคนที่เข้าด่านตรวจก็เห็นทุกคนว่าเหตุการณ์ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้น อยู่ที่ตำรวจจะกล้าหรือไม่กล้า

น้องสาวผู้บาดเจ็บ บอกอีกว่าเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) มีกระเช้าผลไม้-ดอกไม้ปริศนา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใคร หรือของตำรวจสังกัดใดบ้างนำมาเยี่ยม ขอย้ำว่าไม่ขอรับกระเช้า เพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่านำเอามาให้ด้วยเหตุผลอะไรแอบแฝง

ด้าน พันตำรวจโท ธนชัย เกิดศรี หรือสารวัตรเจี๊ยบ อดีตพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. ซึ่งเป็นพ่อของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรมาก่อนไปอยู่ บก.ปทส. ตามปกติแล้วตำรวจมีขั้นตอนในการใช้ยุทธวิธีเพื่อจับผู้ต้องหาด้วยเครื่องพัฒนาการอยู่แล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุแบบนี้ กรณีหากผู้ต้องหามีการต่อสู้หรือขัดขวาง ตำรวจไม่มีสิทธิที่จะไปรุมทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ซึ่งจะพยายามเลี่ยงการใช้กำลังให้น้อยที่สุด การจับกุมตำรวจต้องมีการแสดงตัวเป็นตำรวจ พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าทำอะไรผิด จากนั้นจะเชิญตัวมาที่ด่านหรือโรงพักในพื้นที่ เพื่อดำเนินการสอบปากคำและพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ เพราะมีโซเชียลเป็นหูเป็นตา ยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ย แม้ว่าจะให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงลงมาพูดคุยก็ตาม เมื่อวานนี้ทางพยาบาลแจ้งว่ามีตำรวจนำกระเช้ามามอบให้แล้ว 3 กระเช้า แต่ตนไม่รับ เพราะไม่รู้ว่ามาด้วยวัตถุประสงค์อะไร และไม่รู้ว่าเป็นของหน่วยงานใด เนื่องจากพยาบาลแจ้งแค่ว่าเป็นตำรวจเท่านั้น

ส่วนความคืบหน้าคดี พันตำรวจเอก อนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการ สน.บางเขน ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สอบปากคำน้องสาวและแม่ของผู้บาดเจ็บในฐานะพยาน ส่วนผู้บาดเจ็บตอนนี้แพทย์ยังไม่อนุญาตให้พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำ เนื่องจากยังอยู่ในอาการสาหัส

ส่วนกรณีผู้ก่อเหตุทั้ง 7 นายที่เป็นตำรวจ ตอนนี้ยังไม่มีการสอบปากคำ เนื่องจากพนักงานสอบสวนอยากทราบพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุจากผู้เสียหายก่อน ยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยเหลือแม้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะเป็นตำรวจก็ตาม

ด้าน พลตำรวจตรี ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งดูแลรับผิดชอบงานจราจร ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เบื้องต้นผู้บังคับการตำรวจจราจรกลาง รายงานมาเบื้องต้นว่าผู้ก่อเหตุที่เป็นตำรวจทั้ง 7 นาย บอกว่ามีการเข้าใจผิด คิดว่าจะขับรถแหกด่านจึงมีการตามไป ก่อนที่ผู้เสียหายจะมีการขัดขืน ทำให้ตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องใช้กำลังในการระงับเหตุ ยอมรับว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุจริงๆ ตอนนี้ทราบว่ากองบังคับการตำรวจจราจรมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงขึ้นแล้ว ส่วนทางคดีอาญาอยู่ที่ สน.บางเขน

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องชี้แจงและยอมรับกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป รวมทั้งอาจจะต้องทบทวนเรื่องยุทธวิธีที่่ใช้ในการระงับเหตุ แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่เคยมีวิธีระงับเหตุด้วยการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด.-414-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สถาบันประสาทฯ ชี้นวดต้นคอเสี่ยงอันตราย เหตุเป็นศูนย์รวมอวัยวะสำคัญ

สถาบันประสาทวิทยา ชี้นวดต้นคอเสี่ยงอันตราย เพราะเป็นศูนย์รวมอวัยวะสำคัญ มีทั้งหลอดเลือด และกระดูก ไม่ได้มีแต่กล้ามเนื้อ นวดผิดชีวิตเปลี่ยน ตั้งแต่อัมพฤกษ์ อัมพาต จนเสียชีวิต

“แม่น้องผิง” ติดใจการตายของลูกสาว วอนร้านนวดรับผิดชอบ

แม่นักร้องสาว “ผิง ชญาดา” ติดใจการเสียชีวิตของลูกสาว อยากให้เจ้าของร้านนวดแสดงความรับผิดชอบ เผยมีลูกสาวคนเดียว เป็นเสาหลักของครอบครัว ด้านเพจ “หมอไทยสตอรี่” เตือนนวดบริเวณคอผิดวิธี เสี่ยงเส้นเลือดเสียหาย-กระดูกสันหลังเคลื่อน-เส้นประสาทถูกทำลาย แนะหากมี 4 อาการหลังนวด ควรพบแพทย์ด่วน

ตร.ทองหล่อ บุกทลายปาร์ตี้ไฮโซกลุ่มลับ พบยาเสพติด

ตำรวจทองหล่อบุกทลายปาร์ตี้ไฮโซกลุ่มลับในโรงแรมย่านคลองเตยเหนือ พบกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ตรวจค้นพบยาเค ยาอีจำนวนหนึ่ง จึงคุมตัวนักท่องเที่ยวทั้งหมดไปตรวจหาสารเสพติด

อุทาหรณ์นวดบิดคอ! นักร้องสาวเสียชีวิตแล้ว

อุทาหรณ์นวดบิดคอ! นักร้องสาวเข้าร้านนวดแบบบิดคอ ก่อนมีอาการตัวชา-ร่างกายอ่อนแรง กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว