นายกสมาคมฯ พอใจยูยิตสู คว้า 1 เหรียญทอง เป็นไปตามเป้า

กัมพูชา 5 พ.ค.-หลังกีฬายูยิตสู คว้า 1 เหรียญทองแรก ผศ.ดร.ชาญชัย กล่าวพอใจเป็นไปตามเป้า ด้านฟุตบอลทีมชาติไทย “โค้ชหระอิสระ-โค้ชก้าง”นำนักเตะลงฝึกซ้อมต่อเนื่อง เตรียมลงแข่งพรุ่งนี้ เวลา 16.00 น. ขณะ “โอม”ชนาธิป นักบาสเกตบอลทีมชาติไทย เป็นคนถือธงชาติไทยลงสนาม ในพิธีเปิดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ประเทศกัมพูชา


หลังทัพนักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญทองแรกจากกีฬายูยิตสู ประเภทโชว์คู่หญิง จาก “น้องส้ม” สุภวดี แก้วสระแสน กับ “น้องแน็ต” กุลสตรี คำสร้อย สองนักกีฬาสาวดีกรีแชมป์โลก 4 สมัย ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมทำได้ 48 คะแนน จากเทคนิค 23.5 คะแนน และโชว์ 24.5 คะแนน เอาชนะเหรียญเงินจากกัมพูชา ทำได้ 42.5 คะแนน เหรียญทองแดง เวียดนาม กับฟิลิปปินส์ 40 คะแนน ผศ.ดร.ชาญชัย สุขสุวรรณ์ นายกสมาคมกีฬายูยิตสูแห่งประเทศไทย กล่าวเป็นไปตามเป้าที่คาดหวังไว้ในเหรียญทองประเภทนี้ เนื่องจากทั้งคู่มีดีกรีถึงแชมป์โลก ส่วนมาตรฐานการตัดสินในครั้งนี้ถือว่ายอมรับได้

ฟุตบอลทีมชายไทยลงฝึกซ้อมต่อเนื่อง โดย“โค้ชหระอิสระ”ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมไทย นำนักเตะฝึกซ้อมที่โรงเรียนมัธยมชบา อัมพม ก่อนทำการแข่งขันนัดที่สอง พบ มาเลเซีย ในวันพรุ่งนี้ โดยการฝึกซ้อมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่ง”โค้ชหระ”กล่าวว่า การซ้อมยังเน้นเกมรุก และแท็คติกที่ต้องเพิ่มเติมลงไป ตอนนี้สภาพทีมค่อนข้างพร้อมไม่ได้ห่วงอะไร เพราะได้เช็คทุกคนแล้วไม่มีใครบาดเจ็บ และการฝึกซ้อมเป็นไปด้วยดี เน้นที่การเตรียมแท็คติกเพื่อพบ มาเลเซีย สำหรับทีมไทย จะพบ มาเลเซีย ในพรุ่งนี้ เวลา 16 นาฬิกา ที่สนามปริ้นซ์ สเตเดียม


ส่วนทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย “โค้ชก้าง”นฤพล แก่นสน นำนักเตะลงฝึกซ้อมที่สนามอเคลด้า ก่อนลงสนามในเกมนัดที่ 2 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี พบ สปป ลาว โดยเน้นที่การฟื้นฟูร่างกายและการทำประตูเป็นหลัก หลังจากนัดแรก”โค้ชก้าง” มองว่านักเตะยังทำได้ไม่ดีในจังหวะจบสกอร์ และหวังให้ทีมมีความเฉียบคมมากกว่านี้

สำหรับฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย พบ สปป ลาว ที่ สมาร์ต อาร์เอสเอ็น สเตเดียม ในพรุ่งนี้ เวลา 16.00 น. ด้าน ”บิ๊กต้อม”ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย เดินทางไปให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทยในกีฬาชนิดต่างๆ แสดงความเป็นห่วงถึงนักกีฬาที่กำลังเดินทางมากัมพูชา ให้ระวังเรื่องอากาศที่ค่อนข้างร้อน รวมถึงการกินอาหาร-ดื่มน้ำนอกหมู่บ้านนักกีฬาให้ระวังท้องเสียด้วย

สนามกีฬาแห่งชาติ มรดกเตโช ที่กรุงพนมเปญ เป็นสนามใหญ่ที่สุด จุผู้ชมได้มากถึงเกือบ 60,000 ที่นั่ง สำหรับกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าภาพครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในรอบ 64 ปี จะเปิดฉากขึ้นในค่ำวันนี้เวลา 19 น. สนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช ก่อสร้างขึ้นมาใหม่ เป็นหนึ่งในสนามหลักใช้การแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะใช้ในพิธีเปิด-ปิดและแข่งขันกรีฑา การก่อสร้างเป็นการร่วมมือกันระหว่างกัมพูชากับรัฐบาลจีน ด้วยงบประมาณสูงถึง 168 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบประมาณ 6,500 ล้านบาท โดยโครงสร้างของสนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช ได้รับการออกแบบคล้ายกับเรือใบ เพื่อรำลึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับจีน เนื่องจากชาวจีนเดินทางมายังกัมพูชาโดยการเดินเรือในสมัยโบราณ และมีโครงสร้างเป็นหัวเรือมีความสูง 99 เมตร ออกแบบลักษณะคล้ายท่าทางการทักทาย คล้ายกับการไหว้ของกัมพูชา


ซีเกมส์ครั้งแรกของกัมพูชา มีการชิงชัยเหรียญทองมากที่สุดในประวัต์ศาสตร์ถึง 584 เหรียญทอง แข่งขัน 36 ชนิดกีฬา กับ 1 กีฬาสาธิต ซึ่งกัมพูชาพร้อมรับทัพนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ร่วมทั้งสื่อมวลชนจาก 11 ชาติในอาเซียน กระแสการเป็นเจ้าภาพครั้งแรกของกัมพูชา ทำให้ประช่าชนในประเทศให้ความสนใจ เข้าชมในพิธีเปิด-และปิดการแข่งขันร่วมถึงชาติในอาเซียน ทำให้ในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายจัดการแข่งขันเนื่องจากบัตรไม่พอเพียงต่อยอดผู้ชมที่สนใจเข้ามาชมไม่ต่ำว่า 600,000 คน แต่สามารถให้เข้าชมได้เพียงแค่ 50,000 กว่าที่นั่งเท่านั้น จนสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ต้องออกมากล่าวขอให้โลกโซเชียลทั้งในและต่างประเทศหยุดโจมตีฝ่ายจัดการแข่งขันต้องให้ประชาชนเข้าใจว่าสนามรองรับได้ไม่เพียงพอ แต่ให้ภาครัฐ จังหวัด อำเภอ และชุมชน รวมถึงหน่วยงานต่างๆ จัดจอยักษ์ LED ให้ประชาชนได้ติดตาม และชมพิธีเปิดและการแข่งขันซีกมส์ผ่านทางจอยักษ์แทน

ขณะที่ “โอม”ชนาธิป จักรวาฬ นักบาสเกตบอลทีมชาติไทย เจ้าของความสูง 203 เซนติเมตร จะเป็นคนถือธงชาติไทยลงสนาม มีการแสดงชุดที่ 1 ความงดงามของอังกอร์, ชุดที่สองรอยยิ้มของเขมร ชุดที่ 3 อนาคตของกัมพูชา ก่อนเดินขบวนพาเหรดธงชาติของแต่ละชาติ โดยสมเด็จฮุน เซน เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน

ปิดท้ายสรุปเหรียญทอง อันดับ 1 ทัพนักกีฬาเจ้าภาพ กัมพูชา 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน อันดับ 2 ฟิลิปปินส์ 2 เหรียญทอง อันดับ 3 ทีมชาติไทย 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]