ช้าง อารีนา 2 มี.ค.- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังแรงต่อเนื่อง เปิดบ้านชนะ แพร่ ยูไนเต็ด ทีมจากไทยลีก 2 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ศึกช้างเอฟเอ คัพ พร้อมทำสถิติไม่แพ้ใครยาวนานที่สุด
ฟุตบอล ช้าง เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่สนาม ช้าง อารีนา “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดสีน้ำเงิน แชมป์เก่า เปิดบ้านพบกับ “ม้าคะนองศึก” แพร่ ยูไนเต็ด ทีมจากไทยลีก 2 เริ่มเกมเพียงแค่ 2 นาที บุรีรัมย์ มาได้จุดโทษจากจังหวะโกรัน เคาซิช โดนผู้เล่นทีมเยือนชนจากด้านหลังล้มลงในกรอบเขตโทษ และเป็น เคาซิช ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารยิง เข้าไปให้บุรีรัมย์ ขึ้นนำ 1-0 แต่ถัดมาแค่ 3 นาที แพร่มาตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี คืนบอลไม่ดีโดน อภิวิชญ์ เสมอเหมือน ตัดบอลไปได้ก่อนที่จะยิงเข้าไป จากนั้นนาทีที่ 9 ศุภชัย ใจเด็ด มาทำประตูให้บุรีรัมย์ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 นาที 27 ศุภชัย มาทำประตูที่สองของตัวเองช่วยให้เจ้าถิ่นนำห่าง 3-1 ก่อนจบครึ่งแรกนาที 45 ฮาริส วูชคิช มาทำประตูให้บุรีรัมย์หนีไปเป็น 4-1 อย่างไรก็ตามนาที 65 แพร่ ไล่มา 2-4 จากนพวิชญ์ เพ็ชรอ้อม นาที 76 ฮาริส วูชคิช มาทำประตูปิดท้ายให้บุรีรัมย์ เอาชนะ แพร่ ยูไนเต็ด 5-2 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ และยังทำสถิติไม่แพ้ใคร 28 นัดติต่อกันยาวนานที่สุดในโลก
ต่อกันที่สนาม แพท สเตเดียม “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี เจ้าถิ่น ในเสื้อสีแสด พบกับ “กวางโซ้ง” ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด นาทีที่ 58 การท่าเรือ เกือบได้ประตูขึ้นนำก่อนจากจังหวะ เอเลียส ดอเลาะ ยิงบอลเข้าประตูไป แต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้า อย่างไรก็ตามนาที 82 เนเกบา มาทำประตูชัยให้การท่าเรือเปิดบ้านเอาชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป
ส่วนที่สนาม บีจี สเตเดียม “เดอะแรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ชุดสีน้ำเงิน พบกับ “มังกรโล่ห์เงิน”โปลิศ เทโร เอฟซี นาที 7 เจ้าถิ่นขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะสารัช อยู่เย็น เปิดลูกฟรีคิกไปที่เสาสองให้ ธีรศิลป์ แดงดา ขึ้นโหม่งจากระยะ 6 หลาเข้าไป แต่เริ่มเกมครึ่งหลังมาแค่ 2 นาที ไอแซค ฮอนนี มาทำประตูตีเสมอ 1-1 ให้กับโปลิศ เทโรฯ ได้สำเร็จ นาที 73 ชานุกูล ก๋ารินทร์ มาเป็นฮีโร่ทำประตูชัยให้โปลิศ เทโรฯ บุกมาเอาชนะ บีจี ปทุมฯ 2-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
ขณะที่อีกคู่ ที่สนาม ทรู สเตเดียม “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เสื้อสีแดงดำ เปิดบ้านพบกับ “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โดยเกมนี้มามีประตูชัยเกิดขึ้นเพียงประตูเดียวในนาที 68 จากจังหวะ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ วสันต์ ฮมแสน กองหลังนครราชสีมา โหม่งบอลพลาดทำเข้าประตูตัวเอง ทำให้แบงค็อก เฉือนชนะ นครราชสีมา 1-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ โดยจะจับสลากประกบคู่วันที่ 14 มีนาคมนี้ และจะเตะรอบรองชนะเลิศวันที่ 5 เมษายนนี้ .-สำนักข่าวไทย