สโมสรบีบีจี เปิดลานกีฬา “บ้านแม่แฮง” สร้างโอกาสเด็ก และเยาวชน สู่นักกีฬาทีมชาติ

นายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร ประธานสโมสรกีฬาบีบีจี พร้อมด้วย นาวาอากาศเอก ขจรศักดิ์ สายบุญ รองผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกันเปิดลานกีฬาอเนกประสงค์สโมสรกีฬาบีบีจี ในโครงการ “BBG Red Project” และจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ณ บ้านแม่แฮง (หมู่บ้านโป่งไฮ) ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2566


นายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร กล่าวว่า ขอสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชราชธิดา ที่ทรงเล็งเห็นถึงประโยชน์ของกีฬา และทรงเชื่อว่ากีฬาจะช่วยพัฒนา และสร้างอนาคตของลูกหลานพวกเราให้สามารถเป็นนักกีฬาอาชีพ หรือมีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกีฬาได้ จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการในครั้งนี้

ในส่วนสโมสรกีฬาบีบีจี ทรงมีพระเมตตาต่อเด็ก และเยาวชน ซึ่งเคยผ่านการกระทําผิด และเสี่ยงต่อการกระทําผิดซ้ำ รวมถึงเด็กขาดโอกาสทางสังคม ทรงมีพระดําริให้จัดตั้งโครงการ BOUNCE BE GOOD โดยใช้การพัฒนาทักษะด้านกีฬาเป็นเครื่องมือช่วยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเด็ก และเยาวชนให้เป็นที่ยอมรับในสังคม สามารถเป็นนักกีฬาอาชีพ หรือประกอบอาชีพทางด้านกีฬาในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบันโครงการดังกล่าวได้พัฒนามาเป็น “สโมสรกีฬาบีบีจี”


สโมสรกีฬาบีบีจี ได้ฝึกอบรมทักษะกีฬาเทเบิลเทนนิส, แบดมินตัน และฟุตบอล ภายใต้ชื่อโครงการ ให้โอกาส สร้างคน : BBG Young Table tennis, BBG Young Badminton และ BBG Young Football ในกลุ่มเด็ก และเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งปัจจุบันได้ดําเนินโครงการในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม และสถานสงเคราะห์ สังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

โดยมีสนามฝึกซ้อมกีฬา 13 แห่ง ทั่วภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันได้วางแผนดําเนินงานขยายโอกาสไปยังกลุ่มเด็ก และเยาวชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ขาดโอกาสทางสังคม และมีความเปราะบางเสี่ยงต่อการกระทําความผิด โดยจากการสํารวจพื้นที่ก่อนดำเนินโครงการเราพบว่า หมู่บ้านโป่งไฮ (บ้านแม่แฮง) ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ในหมู่บ้านมีเด็ก และเยาวชนจำนวนมากที่มีความสนใจทางด้านกีฬา แต่ขาดสถานที่ และอุปกรณ์กีฬา ทางสโมสรเล็งเห็นปัญหานี้ จึงได้ดําเนินการก่อสร้างลานกีฬาอเนกประสงค์พร้อมอุปกรณ์กีฬาขึ้น ภายใต้โครงการ BBG RED PROJECT

“ต้องขอขอบคุณความร่วมมือจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการสนับสนุนการจัดสร้างสนามกีฬาแบดมินตันลางแจ้ง รวมทั้งผู้นำชุมชน องค์กรทุกภาคส่วน ในการก่อสร้างสนามฝึกซ้อมกีฬาแห่งนี้ เพื่อสร้างโอกาสให้เด็ก และเยาวชนในพื้นที่ให้ได้มีโอกาสเรียนรู้ ฝึกฝน ทักษะ และวิธีการเล่นกีฬาแบดมินตันที่ถูกต้อง รวมถึงเป็นการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ห่างไกลจากยาเสพติด และเป็นแนวทางในการสร้างอาชีพทางด้านกีฬาได้อย่างยั่งยืน”


นายเอกภพ กล่าวอีกว่า ฝากถึงผู้นำชุมชน คุณพ่อคุณแม่ น้องๆ เด็ก และเยาวชนทุกคน ขอให้สนุกกับการเล่นกีฬา เพื่อช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และห่างไกลจากยาเสพติด โดยเฉพาะน้องๆ ที่มีความฝันอยากเป็นนักกีฬาในอนาคต จงหมั่นฝึกฝน และพัฒนา เชื่อว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเราตั้งใจ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะรัก และหวงแหน ช่วยกันดูแลรักษาลานกีฬาแห่งนี้ให้สามารถใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชนได้ต่อไปในอนาคต สำหรับเด็ก และเยาวชนที่มีทักษะที่ดี มีแวว เราก็จะนำเข้ามาอยู่ในสโมสรกีฬาบีบีจี เพื่อพัฒนาต่อยอดไปสู่ระดับนักกีฬาเยาวชนทีมชาติ และทีมชาติไทยต่อไป

นาวาอากาศเอก ขจรศักดิ์ สายบุญ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมกับสโมสรกีฬาบีบีจี จัดทำโครงการ BBG Red Project ร่วมก่อสร้างลานกีฬาให้เด็ก และเยาวชนมีพื้นที่สำหรับเล่นกีฬา ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และที่สำคัญคือช่วยให้เด็ก และเยาวชนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด นับว่าเป็นโครงการดี และหวังเป็นอย่างยิ่งเช่นกันว่าชุมชนจะช่วยการดูแลรักษา และใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไปในอนาคตเช่นกัน

จากนั้นผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านโป่งไฮ ได้กล่าวขอบคุณสโมสรกีฬาบีบีจี หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ร่วมกันจัดทำโครงการ สร้างลานกีฬาให้กับชุมชน ด้วยบ้านแม่แฮงเป็นชุมชนที่อยู่ค่อนข้างห่างไกลจากเมือง การเดินทางไม่สะดวก ทำให้เด็ก และเยาวชนไม่ค่อยได้รับโอกาสและการช่วยเหลือจากภายนอกมากนัก ก่อนที่เด็กๆ และชาวบ้านแม่แฮง ได้ร่วมกันแสดง “จะคึ” การแสดงพื้นเมืองของชนเผ่าละหู่ และเจ้าหน้าที่สโมสรกีฬาบีบีจีร่วมกิจกรรมกีฬาหรรษา

สำหรับลานกีฬาอเนกประสงค์สโมสรกีฬาบีบีจีแห่งนี้ มีขนาดพื้นที่ 15×38 เมตร หนา 0.10 เมตร ประกอบด้วย สนามกีฬาแบดมินตัน 1 สนาม ขนาด 6.10 × 13.40 เมตร / สนามฟุตซอล 1 สนาม ขนาด 15×25 เมตร โดยมีวัตถุประสงค์ของการก่อสร้างลานกีฬาอเนกประสงค์คือ ประการแรกเพื่อให้เป็นสถานที่สำหรับออกกำลังกาย ของคนในชุมชน และรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ และประการต่อมาคือ เพื่อให้คนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง ได้ใช้เป็นสถานที่ทำกิจกรรมต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชนส่วนรวม

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]