กาตาร์ 7 ธ.ค. – โมร็อกโก เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรก พลิกล็อกชนะสเปน ส่วนโปรตุเกสถล่มสวิตเซอร์แลนด์ 6-1 เข้ารอบได้เช่นกัน ด้าน “เอ็นริเก้” ยอมรับยังไม่รู้อนาคต หลังพาสเปนตกรอบฟุตบอลโลก
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม ทีมชาติสเปน แชมป์โลกปี 2010 ชุดสีขาว พบโมร็อกโก ตัวแทนทีมสุดท้ายจากทวีปแอฟริกา ครึ่งแรกสเปนพยายามครองบอลตามสไตล์ถนัด และหาช่องเข้าโจมตี แต่ยังยิงไม่ผ่านมือ ยาสซีน บูนู ผู้รักษาประตูสิงโตแห่งแอตลาส ครึ่งหลังขณะที่สเปนบุกโจมตี โมร็อกโกก็มีเกมโต้กลับที่น่ากลัว และโต้กลับไปได้จบ แต่ยังไม่เป็นประตูจบ 90 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที ครบ 120 นาที ก็ยังเสมอกัน 0-0 ต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ ปรากฏว่า ผู้เล่นสเปน 3 คนแรก คือ ปาโบล ซาราเบีย, คาร์ลอส โซแลร์, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ยิงไม่เข้าทั้งหมด ก่อนที่ อาชราฟ ฮาคิมี จะยิงประตูชัยให้โมร็อกโก เอาชนะสเปนในการดวลจุดโทษ 3-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
หลังจบเกมการแข่งขัน แฟนบอลบางส่วนไปรอรับนักเตะในโรงแรมในกรุงโดฮา และต่างร้องเพลงเชียร์ร่วมกับเหล่านักเตะที่ฉลองชัยชนะกันแบบสุดเหวี่ยง ก่อนกลับเข้าที่พักไป ส่วนแฟนบอลที่ออกมารวมตัวกันที่คาซาบลังกา เพื่อชมฟุตบอล ต่างออกมาเฉลิมฉลองกับชับชนะของทีม และเป็นครั้งแรกที่ทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการลูกหนังของประเทศสำเร็จ แฟนบอลชื่นชมการวางแผนของวาลิด เรกรากุย กุนซือของทีม และเชื่อมั่นในนักเตะว่าจะทำผลงานได้ดีอีกในรอบต่อไป
หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือกระทิงดุสเปน แถลงหลังจบเกม ยอมรับว่าขาดการสร้างสรรค์โอกาสในแดนหน้า เพราะเจอกับเกมรับที่ยอดเยี่ยมของโมร็อกโก อีกทั้งแนวรุกยังมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ยังพอใจกับผลงานของลูกทีม และยินดีกับโมร็อกโกที่ทำได้ดีกว่าในการดวลจุดโทษ พร้อมกันนี้ เอนริเก้ยังบอกด้วยว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเป็นหัวหน้าโค้ชทีมชาติสเปนต่อไปหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะในการคุยเรื่องอนาคต
อีกคู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามลูซาอิล ไอคอนิก สเตเดียม ทีมชาติโปรตุเกส ในชุดสีแดงพบ สวิตเซอร์แลนด์ เกมนี้ทีมฝอยทองดร็อป คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้ากัปตันทีมที่ฟอร์มไม่ดีนักใน 3 นัดแรก เป็นเพียงตัวสำรอง และส่ง กอนซาโล รามอส กองหน้าดาวรุ่งวัย 21 ปีจากเบนฟิกาเป็นตัวจริง และรามอส ก็ยิงมุมแคบให้โปรตุเกสนำ 1-0 นาทีที่ 17 เปเป้ เติมขึ้นมาโขกลูกเตะมุมเป็นประตูที่ 2 ให้โปรตุเกสนำห่าง นาทีที่ 33 ครึ่งหลังเกมรับของทีมฝอยทองยังคงไหลรื่น ดิโอโก ดาโลต์ เปิดให้ กอนซาโล รามอส ยิงประตูที่ 3 นาทีที่ 51 จากนั้นเป็น ราฟาเอล เกร์เรยโร เติมขึ้นมาบวกประตูที่ 4 ในนาทีที่ 55 และนาทีที่ 58 สวิตเซอร์แลนด์ ตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 1-4 ได้จากการเข้าชาร์จหน้าประตูของของ มานูเอล อคานจี แต่โปรตุเกสยังไม่ผ่อนเกม เจา เฟลิกซ์ ไหลบอลให้ กอนซาโล รามอส หลุดเข้าไปทำประตูที่ 3 ทำแฮตทริกได้สำเร็จ โปรตุเกสนำ 5-1 ก่อนที่ ราฟาเอล เลเอา ตัวสำรองลงมายิงประตูปิดท้ายนาทีที่ 90+2 ส่งท้ายให้โปรตุเกสถล่มสวิตเซอร์แลนด์ 6-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเจอกับ โมร็อกโกต่อไป
หลังจบเกม กอนซาโล รามอส กองหน้าที่ยิงคนเดียว 3 ประตู เปิดเผยว่า การยิง 3 ประตู ไม่เคยคิดมาก่อนแม้ในฝันที่ดีที่สุดในชีวิต เพราะคิดเพียงแค่การได้เป็นตัวจริงรอบน็อกเอ้าท์ อย่างไรก็ตาม หลังจากทีมยังคงต้องโฟกัสแบบเต็มร้อยในเกมกับโมร็อกโกรอบต่อไป แน่นอนว่าหนึ่งในต้นแบบของเขาคือ คริสเตียโน โรนัลโด , รวมถึง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี และสลาตัน อิบราฮิโมวิช
ด้านแฟนบอลโปรตุเกสที่มาเชียร์ที่สนามต่างดีใจกับผลงานของทีมที่ทะลุเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และยังคงให้กำลังใจโรนัลโด กองหน้ากัปตันทีม แม้ว่าเกมล่าสุดจะเป็นตัวสำรองก็ตาม และหวังว่าจะชนะโมร็อกโกในรอบต่อไป. – สำนักข่าวไทย