กรุงเทพฯ 14 พ.ย. – กกท.รอคำตอบจาก “ฟีฟ่า” ในการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกน้อยกว่า 1,600 ล้านบาท หากลดราคาไม่ได้ คนไทยคงต้องอดดูบอลโลกครั้งนี้
หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อนุมัติเงินให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคม 2565 ในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท จากจำนวนเต็มที่ กกท. เสนอขอรับการสนับสนุนไป 1,600 ล้านบาท ทำให้ กกท. ต้องหาภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนอีก 1,000 ล้านบาทนั้น วันนี้ (14 พ.ย.65) ทั้ง 2 หน่วยงานได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนเข้าถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกได้อย่างเท่าเทียม
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า กสทช. มีมติภายใต้กรอบงบประมาณไม่เกิน 600 ล้านบาท ซึ่ง กกท. มีหน้าที่ดำเนินการหาค่าใช้จ่ายที่เหลือ ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ถึงจะเบิกงบประมาณส่วนนี้ได้ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ด้อยโอกาส รับชมและเข้าถึงฟุตบอลโลกได้อย่างเท่าเทียม ภายใต้แพลตฟอร์มที่อยู่ภายใต้ กสทช. เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพ
ขณะที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า แม้ กกท.จะได้เงินสนับสนุนจาก กสทช. จำนวน 600 ล้านบาท แต่ กกท. ก็ยังต้องหาเงินเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท จากผู้สนับสนุนภาคเอกชน โดยขณะนี้มีภาคเอกชนหลายรายยืนยันให้การสนับสนุน และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
นอกจากนี้ ข้อสรุปเรื่องทั้งหมดขึ้นอยู่กับคำตอบของฟีฟ่า ว่าจะตกลงราคาที่เหมาะสมอย่างไร โดยจะได้คำตอบชัดเจนจากตัวแทนของฟีฟ่า ภายในวันนี้ (14 พ.ย.65) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กกท.พยายามเต็มที่ในการตกลงกับฟีฟ่าให้ได้ข้อยุติเร็วที่สุด และได้ส่งเงื่อนไขต่างๆ ไปที่ฟีฟ่าครบทุกเงื่อนไขแล้ว เช่น เรื่องขอให้ฟีฟ่าพิจารณาราคาเหมาะสม เงื่อนไขต่างๆ ที่จะแบ่งแยกเป็นแพ็กเกจเล็กลง เป็นต้น ซึ่งหากได้คำตอบแล้ว กกท.จะเร่งดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
ส่วนเรื่องเงินที่ยังขาดอีกเท่าไหร่นั้น เราคงยังตอบไม่ได้ เพราะทางฟีฟ่ายังไม่ได้ตอบมาเรื่องจำนวนที่ชัดเจน ซึ่งทาง กกท.จะพยายามต่อรองให้ฟีฟ่าลดราคาให้ได้ ซึ่งราคา 1,600 ล้านบาท คงไม่จ่ายราคานี้ เพราะเป็นตัวเลขที่มากเกินควรในสายตาของประชาชนและ กกท. ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านซื้อ ถ้าราคาดังกล่าวก็ถือว่าสูงเกินไป ขณะที่เวลาเดดไลน์ คือ ก่อนวันที่ 20 พ.ย.นี้ ถ้าคุยไม่ลงตัวก่อนวันที่ 20 พ.ย. และฟีฟ่าไม่ยอมลดราคาจริงๆ คงต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ถ้าเป็นราคาที่สูงเกินไปคงรับไม่ได้ ครั้งนี้ก็อาจจะไม่มีการถ่ายทอดสดเกิดขึ้น ถ้าการผ่อนผันเรื่องราคาของฟีฟ่าไม่เกิดขึ้น แต่ยังเชื่อว่าทางฟีฟ่าคงจะมีทางออกหรือข้อเสนออื่นๆ ให้ได้พิจารณา เพราะฉะนั้น แฟนฟุตบอลชาวไทยต้องอดใจรอคำตอบที่แน่ชัดอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย