11 พ.ย. – มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิงจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวนกลับมาติดธงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รอบชิงชนะเลิศศึกยูโร 2020 ขณะที่ มาร์โก รอยส์ และติโม แวร์เนอร์ พลาดช่วยเยอรมนีลุยฟุตบอลโลก
แกเรธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ประกาศรายชื่อนักเตะสิงโตคำรามชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ออกมาแล้ว โดยมีชื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิงจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวนกลับมาติดธงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รอบชิงดำศึกยูโร 2020
ด้าน ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี ที่อยู่ระหว่างพักรักษาอาการบาดเจ็บ ก็ถูก เซาธ์เกต หนีบไปด้วย เช่นเดียวกับ คัลวิน ฟิลลิปส์ มิดฟิลด์เพื่อนร่วมสโมสร ที่เพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บเช่นเดียวกับเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ๊กตัวเก่งของลิเวอร์พูล ส่วนดาวดังรายอื่นก็ติดทีมชุดนี้ ทั้ง เจมส์ แมดดิสัน จากเลสเตอร์ ซิตี, บูกาโย ซากา จากอาร์เซนอล, ราฮีม สเตอร์ลิง จากเชลซี และคัลลัม วิลสัน ที่ทำผลงานได้ดีกับนิวคาสเซิล
แฟร์นันโด ซานโตส เฮดโค้ชทีมชาติโปรตุเกส เปิดเผยรายชื่อ 26 นักเตะชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก ออกมาแล้วเช่นกัน นำทัพโดย คริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงทีมจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นอกจากนี้ดาวดังอย่าง บรูโน แฟร์นันด์ส จอมทัพผีแดง รวมทั้ง แบร์นาร์โด ซิลวา มิดฟิลด์ตัวกลั่นของแมนเชสเตอร์ ซิตี และราฟาเอล เลเอา ปีกเนื้อหอมของ เอซี มิลาน ก็มีชื่อพร้อมดาวดังราอื่น เช่น ชูเอา กานเซโล จากแมนฯ ซิตี, รูเบน เนเวส จากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส, วิตินญา จากรีส แซงต์ แชร์กแมง, อันเดร ซิลวา จากไลป์ซิก, ชูเอา เฟลิกซ์ จากแอตฯ มาดริด และ ริคาร์โด ฮอร์ตา จากบรากา
ขณะที่ “อินทรีเหล็ก”เยอรมนี ก็ประกาศรายชื่อผู้เล่น 26 คนออกมาเช่นกัน ปรากฏว่า มาร์โก รอยส์ ดาวดังโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต้องพลาดอีกครั้ง เนื่องจากหายเจ็บไม่ทัน เช่นเดียวกับ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าไลป์ซิก ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ นิคลาส ฟูลล์ครูก กองหน้าฟอร์มแรงของแวร์เดอร์ เบรเมน และยุสซูฟา มูโกโก กองหน้าดาวรุ่งดอร์ตมุนด์ ต่างได้รับโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่หนแรกในชีวิต
ส่วนรายชื่ออื่นนั้น โธมัส มุลเลอร์ ผู้ยิงประตูในฟุตบอลโลกเยอะสุดนับเฉพาะที่ยังค้าแข้งในปัจจุบัน 10 ประตู รวมถึงผู้รักษาประตูจอมเก๋า มานูเอล นอยเออร์ ที่ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บ ทั้งคู่ยังได้รับการเรียกตัวมาเช่นเดิม นอกจากนี้ มาริโอ เกิตเซ ฮีโร่ผู้ยิงประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2014 ทำให้เยอรมนีคว้าแชมป์ ก็คัมแบ็กทีมชาติเช่นกัน เป็นการกลับมาในรอบ 5 ปี หนสุดท้ายที่ติดธงต้องย้อนไปถึงปี 2017 เลยทีเดียว. – สำนักข่าวไทย