5มิ.ย.-วธ. เปิดพื้นที่ให้เด็ก-เยาวชน แต่งเพลงแรปประกวด หัวข้อ “บอกรักษ์ภาษาไทย” ปี 3 สร้างสรรค์สื่อรักษาความงดงามของภาษาไทย เปิดรับผลงานถึงวันที่ 28 มิถุนายน 2567
นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมจัดกิจกรรมการประกวดสื่อสร้างสรรค์ เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 หัวข้อ “บอกรักษ์ภาษาไทย” ในรูปแบบคลิปวิดีโอเพลงแรป ต่อเนื่องเป็นปีที่ ๓ เนื่องจากได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากสองปีที่ผ่านมา เพื่อให้คนไทยโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย ตลอดจนร่วมมือกันสนับสนุน ส่งเสริม และอนุรักษ์ภาษาไทยให้คงอยู่คู่ชาติไทย รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน ให้เด็กและเยาวชนได้ผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และถ่ายทอดความงดงามของภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติผ่านสื่อสร้างสรรค์
ทั้งนี้ วธ. ขอเชิญชวนเด็กและเยาวชน อายุไม่เกิน 25 ปี ส่งผลงานในนามบุคคล หรือทีม และหากเป็นทีม ๆ ละไม่เกิน 3 คน โดยส่งผลงานได้จำนวน 1 ผลงาน ต่อ 1 ท่าน หรือ 1 ทีม เท่านั้น ซึ่งจะต้องจัดทำเนื้อร้อง แนวเพลงแรปที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ “บอกรักษ์ภาษาไทย” และสื่อให้เห็นถึงคุณค่า ความสำคัญของภาษาไทย รวมถึงการส่งเสริม อนุรักษ์ สืบสานและถ่ายทอดภาษาไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ โดยสร้างทำนองและดนตรีตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่ละเมิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา จากนั้นถ่ายทำคลิปวิดีโอ (Music Video) ความยาวไม่น้อยกว่า 2 นาที และไม่เกิน 3 นาที โดยไม่จำกัดวิธีการนำเสนอและวิธีการถ่ายทำ สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไข การเข้าร่วมกิจกรรม อาทิ ผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งหมดจะต้องไม่มีลักษณะลบหลู่ ดูหมิ่น หมิ่นประมาทต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่สร้างความแตกแยก รวมถึงต้องไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง และผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งหมดจะต้องผลิตขึ้นใหม่ และไม่เคยเผยแพร่ ส่งประกวด หรือได้รับรางวัลใด ๆ มาก่อน เป็นต้น ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล เกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัลจากกระทรวงวัฒนธรรม
ผู้สนใจสามารถส่งผลงานคลิปวิดีโอและใบสมัครการประกวดทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ culture.scm02@gmail.com ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2567 เวลา 16.30 น.สอบถามข้อมูลและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม 1765 และแฟนเพจเฟซบุ๊ก กองเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม เว็บไซต์ https://surveillance.m-culture.go.th และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย