รปภ.ติดโควิด ไม่รู้จะไปไหน กลัวแพร่เชื้อให้คนอื่น ตัดสินใจนอนข้างถนน

กทม.21 ก.พ. – รปภ.ติดโควิด ติดต่อหน่วยงานรับเข้ารักษาตัวไม่ได้ ต้องมานอนริมถนน ไม่กล้ากลับเข้าบ้าน เพราะกลัวแพร่เชื้อไปให้ครอบครัว เบื้องต้นอาสาเส้นด้ายนำส่งศูนย์พักคอยเราต้องรอด คันนายาวเรียบร้อยแล้ว


เพจเส้นด้าย-Zendai โพสต์ว่า พบผู้ติดเชื้อนอนอยู่ข้างถนน พร้อมข้อความ …“ในวันที่ฮอสพิเทลหลายที่เริ่มปิดรับคนไข้ โรงพยาบาลหลายแห่งเตียงเริ่มเต็ม คนไข้หลายคนยังรอคอยยาอยู่ที่บ้าน…ภาพเดิมๆ เริ่มกลับมา .. วันนี้ที่เราเจอ รปภ.ท่านหนึ่งต้องมานอนบริเวณหน้าธนาคาร เพราะที่ห้องเช่ามีเมีย และลูกเพื่อนบ้านอีกหลายชีวิตต้องใช้ห้องน้ำรวม หลังจากพยายามติดต่อเข้ารับการรักษา รพ.ประกันสังคมและเบอร์ต่างๆ ไม่สำเร็จ เนื่องจากติดวันหยุด จึงตัดสินใจเก็บข้าวของเสื้อผ้ามานอนรอการรักษา เบื้องต้นอาสาเส้นด้ายนำส่งศูนย์พักคอยเราต้องรอด คันนายาวเรียบร้อยแล้ว”

เหตุการณ์นี้กลุ่มเส้นด้ายได้รับการประสานจากตำรวจพื้นที่บุคคโล ตรวจสอบผลยืนยันว่าติดเชื้อจริง แต่อยู่ในกลุ่มไม่มีอาการ เมื่อคืนจึงพาไปนอนที่ศูนย์พักคอย “เราต้องรอด คันนายาว” และเตรียมจะประสานส่งโรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคมในวันนี้


ส่วนชายวัย 47 ปี ผู้ติดเชื้อ เล่าว่า ทำงานเป็น รปภ. และก่อนตัดสินใจมานอนตรงนี้ มีอาการคล้ายเป็นหวัด จึงไปซื้อชุดตรวจ ATK มาตรวจ ปรากฏว่าขึ้น 2 ขีด ติดโควิด เบื้องต้นพยายามประสานโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม และโทรเบอร์สายด่วน แต่ไม่มีคนรับสาย คาดว่าเป็นวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่หยุดทำการ ด้วยความที่ไม่รู้จะไปที่ไหน และเครียดมาก เพราะครอบครัวอาศัยอยู่ในห้องเช่าแถวคลองสาน ใช้ห้องน้ำรวมกับเพื่อนบ้าน ห่วงว่าจะแพร่เชื้อให้คนอื่น ตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าแยกจากครอบครัว มานอนข้างถนน หน้าธนาคารย่านบุคคโล

เร่งคุมคลัสเตอร์ร้านเกมสายไหม ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม
ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้ ยังเพิ่มต่อเนื่อง ผู้เสียชีวิต 32 คน เร่งคุมการระบาดของคลัสเตอร์ผู้ร้านเกม ชุมชนพูนทรัพย์ เขตสายไหม ส่งเจ้าหน้าที่คัดกรองเชิงรุก ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ประสานสถานศึกษาในพื้นที่เขตสายไหม ตรวจนักเรียนชุมชนพูนทรัพย์

หลังพบคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อโควิดจากร้านเกมในชุมชนพูนทรัพย์ ตรวจหาเชื้อประชาชนด้วยชุดตรวจ ATK 2 ครั้ง พบผู้ติดเชื้อแล้วรวม 32 ราย เป็นเด็ก 13 ราย ผู้ใหญ่ 19 ราย วันนี้ สำนักงานเขตสายไหมและศูนย์บริการสาธารณสุข 61 สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อเชิงรุกให้กับประชาชนในชุมชน เพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อฯเพิ่ม


นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตสายไหม เปิดเผยว่า เช้านี้เจ้าหหน้าที่ระดมตรวจเชิงรุกได้แล้วกว่า 100 คน พบผู้ติดเชื้อเพิ่มบางส่วนแต่ยังสรุปจำนวนแน่นอนไม่ได้ ว่าเพิ่มจาก 32 คน เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) จำนวนเท่าใด โดยจะสรุปอีกครั้งหลังคัดกรองเสร็จเย็นนี้ สำหรับผู้ที่ตรวจแล้วพบเชื้อ ได้แยกกักตัวที่บ้าน และส่งศูนย์พักคอย ในรายที่บ้านไม่สะดวกที่จะกักตัว ส่วนร้านเกมที่เป็นจุดเริ่มการระบาดขณะนี้ ได้ออกคำสั่งปิดไปจนถึงวันที่ 25 ก.พ. และให้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในร้านตามมาตรการด้านการสาธารณสุข

ผู้อำนวยการเขตสายไหม กล่าวว่า ได้ประสานสั่งการไปยังผู้อำนวยสถานศึกษาในเขตพื้นที่สายไหมทั้งหมด ให้ตรวจสอบข้อมูลนักเรียนที่อยู่ในชุมชนพูนทรัพย์ และคัดกรอง ATK โดยเฉพาะเด็กที่ติดเชื้อคลัสเตอร์นี้ส่วนใหญ่เรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดเกาะสุวรรณาราม เพื่อเร่งควบคุมการแพร่ระบาดต่อไป ทั้งนี้ จำนวนประชากรในชุมชนนี้มี 216 ครัวเรือน จำนวนกว่า 900 คน

สำหรับตัวเลขวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 18,883 คน และติดเชื้อเข้าข่าย ATK 15,010 คน รวมติดเชื้อ 33,893คน และเสียชีวิต 32 คน รักษาหาย 14,914 คน กำลังรักษา166,397 คน อยู่ในโรงพยาบาล 77,071 คน โรงพยาบาลสนาม 89,326 คน แบ่งเป็นใน Hospitel 49,374 คน และกักตัวที่บ้าน 38,931 คน อาการหนัก 796 คน และใช้เครื่องช่วยหายใจ 202 คน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]