fbpx

อนามัยโพล ชี้คนพื้นที่แดงเข้ม 26.8% ไม่สวมหน้ากาก-ยังสวมผิดวิธี

กทม. 25 ส.ค.-กรมอนามัย เผยผลอนามัยโพล ประชาชนในพื้นที่แดงเข้ม 26.8% ไม่สวมหน้ากาก หรือสวมผิดวิธี ห่วงนำเชื้อกลับมาสู่คนในครอบครัว แนะสวมหน้ากากแบบถูกวิธีในทุกกลุ่มวัย ย้ำออกนอกบ้านยังคงปฏิบัติตามหลัก DMHTT

​นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า โรคติดเชื้อโควิด-19 สามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านละอองน้ำมูก น้ำลาย เวลาไอหรือจาม แต่ถ้าทุกคนสวมหน้ากากป้องกัน จะสามารถลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อทั้งตัวเองและผู้อื่นได้ ซึ่งจากผลสำรวจของอนามัยโพล ประเด็น “พฤติกรรมการป้องกันโรคโควิด 19 ของประชาชนตามหลัก DMHTT และการสังเกตเห็นคนในชุมชนละแวกที่พักสวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน” ณ วันที่ 19 กรกฎาคม – 20 สิงหาคม 2564 จำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม 6,087 คน พบว่า พฤติกรรมการป้องกันโรคที่ประชาชนปฏิบัติได้มากที่สุดคือ การสวมหน้ากากตลอดเวลาในที่สาธารณะ ร้อยละ 98.1 รองลงมาคือ ล้างมือเป็นประจำร้อยละ 94.3 รักษาระยะห่าง ร้อยละ 91.7 ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสถานที่ต่าง ๆ ร้อยละ 91 และแสกนไทยชนะ ร้อยละ 64.4 ตามลำดับ แต่ผลโพลประเด็นการสังเกตเห็นคนในชุมชนละแวกที่พักสวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน ยังได้สะท้อนให้เห็น อีกด้านหนึ่งว่า ประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัดนั้น พบเห็นผู้คนสวมหน้ากากและสวมถูกต้อง ร้อยละ 73.2 ขณะที่ร้อยละ 26.8 ยังสวมหน้ากากกันน้อยและสวมไม่ถูกต้อง


นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยขอเน้นย้ำให้ประชาชนสวมหน้ากากตลอดเวลาและสวมให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันการติดและแพร่เชื้อ โดยต้องสวมให้ปิดจมูก ปาก คาง และกระชับกับใบหน้า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องและเป็นวงกว้าง การสวมหน้ากากจึงต้องยกระดับการเข้มงวดด้วยการสวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้านตลอดเวลา และเมื่ออยู่ภายในบ้านเวลาทำกิจกรรมใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะช่วงที่ดูทีวีร่วมกัน พูดคุยกัน หรืออยู่ในห้องปรับอากาศร่วมกัน รวมทั้งเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียง

“สำหรับประชาชนที่ยังมีความจำเป็นต้องเดินทางออกจากบ้าน ขอให้ยึดหลัก DMHTT เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสถานที่ต่าง ๆ สแกนไทยชนะ และประเมินตนเอง ผ่านไทยเซฟไทย รวมถึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนอยู่แออัด หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ และเมื่อกลับถึงบ้านแล้วต้องทำความสะอาดร่างกายทันที เพื่อลดโอกาสการนำเชื้อเข้ามาติดต่อสู่คนในครอบครัว” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

นายกฯ เผย 4 แบงก์รับลดดอกเบี้ยช่วยกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารคุยเรื่องลดดอกเบี้ยช่วยกลุ่มเปราะบาง ไม่ได้กดดัน ให้เกียรติแต่ละธนาคารตัดสินใจ ไม่กำหนดกรอบเวลาว่าจะลดเมื่อไหร่

ครม.ฉลุยหลักการดิจิทัล วอลเล็ต

นายกฯ นำ รมต.แถลงยืนยันทุกพรรคเห็นชอบหลักการของโครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท พร้อมถามกฤษฎีกา ประเด็นอำนาจหน้าที่ ธ.ก.ส.

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่