เปิด 8 บทเรียนออนไลน์ “MOOC” หลักสูตร โควิด-19

กรุงเทพฯ 20 ส.ค.-กองทุนสื่อฯ-ม.เกษตร ร่วมพัฒนาสื่อ เปิด 8 บทเรียนออนไลน์ “MOOC” หลักสูตร โควิด-19 และระบาดวิทยาโดย2 ผู้เชี่ยวชาญ “ศ.นพ.ยง-รศ.ยืน ภู่วรวรรณ” นำองค์ความรู้ แก้ปัญหาประเทศชาติ “ดูแล ปกป้อง ป้องกัน”หยุดโรค-การระบาดของโรค ถ่ายทอดความรู้ ส่งตรงถึงมือประชาชนในรูปแบบคลิป-วิดีโอ


สำนักบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดแถลงข่าวและเปิดการใช้งานบทเรียนออนไลน์ ภายใต้ “โครงการพัฒนาสื่อบทเรียนออนไลน์ และดำเนินการสำหรับนักเรียนและประชาชน หลักสูตร โควิด-19 และระบาดวิทยา” จากการสนับสนุนของ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ และ รองศาสตราจารย์ ยืน ภู่วรวรรณ หัวหน้าโครงการฯ และคณะทำงานโครงการฯ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ และประสบการณ์ตรงเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ในรูปสื่อบทเรียนออนไลน์ “MOOC” (Massive Open Online Course) บนเว็บไซต์ที่ทุกคนสามารถเข้ามาเรียนได้โดยง่าย

นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และประธานอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลได้ให้ทุกหน่วยงานทำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด รวมถึงออกมาตรการป้องกัน ควบคุม เยียวยาและแก้ปัญหาผลกระทบ
กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้จัดทำโครงการสื่อสารรณรงค์ ป้องกัน เพื่อลดความเสี่ยงของโควิด-19 และรณรงค์เพื่อป้องกันการระบาดรอบใหม่ ผลิตสื่อรณรงค์เฉพาะกลุ่มที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และยังมีการระบาดอยู่ทั่วโลก จำเป็นต้องมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง


“โครงการบทเรียนออนไลน์ “MOOC” หลักสูตร โควิด-19 และระบาดวิทยา เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทางกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการจัดทำบทเรียนออนไลน์ เพื่อเตรียมพร้อมให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ให้มีความรู้ ความเข้าใจ จากแหล่งความรู้ที่ถูกต้อง เกี่ยวกับ โรคโควิด-19 และการระบาดวิทยาเบื้องต้น โดยมีผู้เชี่ยวชาญถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์ตรงผ่านบทเรียนออนไลน์ ซึ่งทุกคนสามารถเข้ามาเรียนได้ง่าย รวมถึงเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในการเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้อง แยกแยะข่าวลวง ข่าวหลอกได้ ทำให้การป้องกัน ลดความเสี่ยง และบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19 ในประเทศไทย โดยเน้นการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นแบบออนไลน์ พร้อมทั้งบูรณาการการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อการเรียนรู้ รวมทั้งเป็นการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสู่สังคมอย่างถูกต้องและมีคุณธรรม โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี และมีประโยชน์ต่อนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปอย่างมาก” ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว

นางวรินรำไพ ปุณย์ธนารีย์ รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์กล่าวว่า โครงการพัฒนาสื่อบทเรียนออนไลน์ ดำเนินการสำหรับนักเรียนและประชาชน หลักสูตร โควิด-19 และระบาดวิทยา เป็นโครงการที่ตอบโจทย์ได้ตรงกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของกองทุนฯ อีกทั้ง ยังเป็นการแสดงพลังความร่วมมือในการทำงานเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาของประเทศชาติในขณะนี้ ดังนั้น ในฐานะองค์กรที่มีบทบาทโดยตรงในการทำให้ประชาชนเข้าถึง เข้าใจ และฉลาดใช้สื่ออย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ จึงต้องสร้างความร่วมมือที่ก่อเกิดพลังออกมาในรูปขององค์ความรู้ที่เชื่อถือได้ โดยการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุข การแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี โดยการนำองค์ความรู้ที่เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ ไปสื่อสารบนแพลตฟอร์มที่ทรงพลังและปลอดภัย ให้เกิดการนำไปใช้ได้ง่ายและทันทีทันใด เท่าทันต่อสถานการณ์ในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New normal)

“ขณะที่โลกกำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม การดำเนินวิถีชีวิตถึงยุคที่ต้องปรับเปลี่ยนให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ที่ก้าวเข้ามาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวทุกเรื่อง โดยเฉพาะภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดเรื่องสุขภาพ ดังที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ “โควิด-19” เห็นผลกระทบเป็นที่ประจักษ์ชัดและรุนแรง ดังนั้น ด้วยสถานการณ์ที่ยังคงรุนแรงอยู่ เป้าหมายเดียวกันที่ทุกคนพยายาม คือวันที่จะชนะเชื้อโรคตัวนี้ ให้หยุดการแพร่ระบาด การดึงพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่เป็นองค์กรให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายตามพันธกิจของกองทุนฯ มาเป็นเครือข่ายในการส่งต่อความรู้ให้กับสังคม เพื่อให้ทุกคนสามารถนำองค์ความรู้ที่เกิดจากความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ในการเรียนรู้เรื่องโควิด-19 มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการป้องกันโรค การดูแลตนเอง ครอบครัว และสังคมได้อย่างรู้เท่าทัน เพื่อการแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ซึ่งต้องอยู่บนพื้นฐานความรู้ที่ถูกต้องและการมีวินัยต่อการนำไปปฏิบัติใช้อย่างจริงจัง” รองผู้จัดการกองทุน กล่าว


ด้าน ศ.นพ. ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในสถานะการณ์ที่ต้องรับมือกับโรคระบาดร้ายแรงโควิด-19 จนถึง 1 สิงหาคม 2563 ทั่วโลก ยังอยู่ในสถานการณ์การระบาดที่รุนแรง ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่อยู่นอกประเทศจีนที่สามารถยืนยันผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนเป็นรายแรก ในวันที่ 13 มกราคม 2563 และมียอดผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในเดือนมีนาคม 2563 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2563 ก็สามารถควบคุมการระบาดได้ดีระดับหนึ่ง แต่ก็ยังอยู่ในสถานะการณ์เสี่ยงที่อาจจะมีการระบาดรอบสองได้
โครงการ พัฒนาบทเรียน หลักสูตร โควิด-19 และระบาดวิทยา ทำในรูปสื่อบทเรียนออนไลน์ แบบ MOOC (Massive Open Online Course) อยู่บนเว็บไซต์ให้ทุกคนเข้ามาเรียนได้ง่าย

“การเรียนออนไลน์ เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่เข้ากับสถานการณ์ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส เพื่อเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด 19 และองค์ความรู้ในการดูแล ปกป้อง ป้องกันโรค และการระบาดของโรค เน้นด้านวิทยาการเกี่ยวกับชีววิทยาไวรัส และโรคโควิด 19 และระบาดวิทยา เป็นความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เพื่อการเสริมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน ประชาชนทั่วไป ในรูปบทเรียนออนไลน์ MOOC เพื่อสร้างสรรค์แบบเปิดให้เข้าถึงแบบกว้างขวาง” ศ.นพ. ยง กล่าว

ด้าน รศ. ยืน ภู่วรวรรณ กรรมการสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะทำงานโครงการฯ กล่าวว่า โครงการนี้จัดทำโดยสำนักบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยจัดออนไลน์บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้รายวิชา: โควิด 19 และระบาดวิทยา บนเว็บไซต์บทเรียน https://learningcovid.ku.ac.th ประกอบด้วย 8 บทเรียน ได้แก่ 1)ความรู้เกี่ยวกับไวรัส 2)รู้จักโรคโควิด 19 3)พื้นฐานการตรวจวินิจฉัยโรคโควิด 19 4)ระบาดวิทยา 5)การป้องกัน 6)เรียนรู้จากข้อมูลและสถิติเกี่ยวกับโควิด 19 7)ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 และ 8)วินัยการปฏิบัติตามมาตรการและทัศนคติที่ดีต่อผู้ป่วย โดยเนื้อหาการเรียนรู้หนึ่งบทมี 4-6 ตอน รวม 39 ตอน แต่ละตอนถ่ายทอดความรู้ในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้น ขนาดความยาว 3- 15 นาที ผสมกับเนื้อหาความรู้ที่อ่านเข้าใจง่าย และมีแบบทดสอบ เพื่อเรียนรู้ด้วยตนเองแบบออนไลน์ เมื่อเรียนผ่านตามเกณฑ์ จะได้รับประกาศนียบัตร ที่ออกให้โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย