เปิด 8 บทเรียนออนไลน์ “MOOC” หลักสูตร โควิด-19

กรุงเทพฯ 20 ส.ค.-กองทุนสื่อฯ-ม.เกษตร ร่วมพัฒนาสื่อ เปิด 8 บทเรียนออนไลน์ “MOOC” หลักสูตร โควิด-19 และระบาดวิทยาโดย2 ผู้เชี่ยวชาญ “ศ.นพ.ยง-รศ.ยืน ภู่วรวรรณ” นำองค์ความรู้ แก้ปัญหาประเทศชาติ “ดูแล ปกป้อง ป้องกัน”หยุดโรค-การระบาดของโรค ถ่ายทอดความรู้ ส่งตรงถึงมือประชาชนในรูปแบบคลิป-วิดีโอ


สำนักบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดแถลงข่าวและเปิดการใช้งานบทเรียนออนไลน์ ภายใต้ “โครงการพัฒนาสื่อบทเรียนออนไลน์ และดำเนินการสำหรับนักเรียนและประชาชน หลักสูตร โควิด-19 และระบาดวิทยา” จากการสนับสนุนของ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ และ รองศาสตราจารย์ ยืน ภู่วรวรรณ หัวหน้าโครงการฯ และคณะทำงานโครงการฯ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ และประสบการณ์ตรงเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ในรูปสื่อบทเรียนออนไลน์ “MOOC” (Massive Open Online Course) บนเว็บไซต์ที่ทุกคนสามารถเข้ามาเรียนได้โดยง่าย

นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และประธานอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลได้ให้ทุกหน่วยงานทำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด รวมถึงออกมาตรการป้องกัน ควบคุม เยียวยาและแก้ปัญหาผลกระทบ
กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้จัดทำโครงการสื่อสารรณรงค์ ป้องกัน เพื่อลดความเสี่ยงของโควิด-19 และรณรงค์เพื่อป้องกันการระบาดรอบใหม่ ผลิตสื่อรณรงค์เฉพาะกลุ่มที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และยังมีการระบาดอยู่ทั่วโลก จำเป็นต้องมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง


“โครงการบทเรียนออนไลน์ “MOOC” หลักสูตร โควิด-19 และระบาดวิทยา เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทางกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการจัดทำบทเรียนออนไลน์ เพื่อเตรียมพร้อมให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ให้มีความรู้ ความเข้าใจ จากแหล่งความรู้ที่ถูกต้อง เกี่ยวกับ โรคโควิด-19 และการระบาดวิทยาเบื้องต้น โดยมีผู้เชี่ยวชาญถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์ตรงผ่านบทเรียนออนไลน์ ซึ่งทุกคนสามารถเข้ามาเรียนได้ง่าย รวมถึงเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในการเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้อง แยกแยะข่าวลวง ข่าวหลอกได้ ทำให้การป้องกัน ลดความเสี่ยง และบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19 ในประเทศไทย โดยเน้นการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นแบบออนไลน์ พร้อมทั้งบูรณาการการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อการเรียนรู้ รวมทั้งเป็นการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสู่สังคมอย่างถูกต้องและมีคุณธรรม โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี และมีประโยชน์ต่อนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปอย่างมาก” ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว

นางวรินรำไพ ปุณย์ธนารีย์ รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์กล่าวว่า โครงการพัฒนาสื่อบทเรียนออนไลน์ ดำเนินการสำหรับนักเรียนและประชาชน หลักสูตร โควิด-19 และระบาดวิทยา เป็นโครงการที่ตอบโจทย์ได้ตรงกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของกองทุนฯ อีกทั้ง ยังเป็นการแสดงพลังความร่วมมือในการทำงานเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาของประเทศชาติในขณะนี้ ดังนั้น ในฐานะองค์กรที่มีบทบาทโดยตรงในการทำให้ประชาชนเข้าถึง เข้าใจ และฉลาดใช้สื่ออย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ จึงต้องสร้างความร่วมมือที่ก่อเกิดพลังออกมาในรูปขององค์ความรู้ที่เชื่อถือได้ โดยการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุข การแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี โดยการนำองค์ความรู้ที่เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ ไปสื่อสารบนแพลตฟอร์มที่ทรงพลังและปลอดภัย ให้เกิดการนำไปใช้ได้ง่ายและทันทีทันใด เท่าทันต่อสถานการณ์ในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New normal)

“ขณะที่โลกกำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม การดำเนินวิถีชีวิตถึงยุคที่ต้องปรับเปลี่ยนให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ที่ก้าวเข้ามาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวทุกเรื่อง โดยเฉพาะภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดเรื่องสุขภาพ ดังที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ “โควิด-19” เห็นผลกระทบเป็นที่ประจักษ์ชัดและรุนแรง ดังนั้น ด้วยสถานการณ์ที่ยังคงรุนแรงอยู่ เป้าหมายเดียวกันที่ทุกคนพยายาม คือวันที่จะชนะเชื้อโรคตัวนี้ ให้หยุดการแพร่ระบาด การดึงพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่เป็นองค์กรให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายตามพันธกิจของกองทุนฯ มาเป็นเครือข่ายในการส่งต่อความรู้ให้กับสังคม เพื่อให้ทุกคนสามารถนำองค์ความรู้ที่เกิดจากความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ในการเรียนรู้เรื่องโควิด-19 มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการป้องกันโรค การดูแลตนเอง ครอบครัว และสังคมได้อย่างรู้เท่าทัน เพื่อการแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ซึ่งต้องอยู่บนพื้นฐานความรู้ที่ถูกต้องและการมีวินัยต่อการนำไปปฏิบัติใช้อย่างจริงจัง” รองผู้จัดการกองทุน กล่าว


ด้าน ศ.นพ. ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในสถานะการณ์ที่ต้องรับมือกับโรคระบาดร้ายแรงโควิด-19 จนถึง 1 สิงหาคม 2563 ทั่วโลก ยังอยู่ในสถานการณ์การระบาดที่รุนแรง ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่อยู่นอกประเทศจีนที่สามารถยืนยันผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนเป็นรายแรก ในวันที่ 13 มกราคม 2563 และมียอดผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในเดือนมีนาคม 2563 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2563 ก็สามารถควบคุมการระบาดได้ดีระดับหนึ่ง แต่ก็ยังอยู่ในสถานะการณ์เสี่ยงที่อาจจะมีการระบาดรอบสองได้
โครงการ พัฒนาบทเรียน หลักสูตร โควิด-19 และระบาดวิทยา ทำในรูปสื่อบทเรียนออนไลน์ แบบ MOOC (Massive Open Online Course) อยู่บนเว็บไซต์ให้ทุกคนเข้ามาเรียนได้ง่าย

“การเรียนออนไลน์ เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่เข้ากับสถานการณ์ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส เพื่อเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด 19 และองค์ความรู้ในการดูแล ปกป้อง ป้องกันโรค และการระบาดของโรค เน้นด้านวิทยาการเกี่ยวกับชีววิทยาไวรัส และโรคโควิด 19 และระบาดวิทยา เป็นความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เพื่อการเสริมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน ประชาชนทั่วไป ในรูปบทเรียนออนไลน์ MOOC เพื่อสร้างสรรค์แบบเปิดให้เข้าถึงแบบกว้างขวาง” ศ.นพ. ยง กล่าว

ด้าน รศ. ยืน ภู่วรวรรณ กรรมการสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะทำงานโครงการฯ กล่าวว่า โครงการนี้จัดทำโดยสำนักบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยจัดออนไลน์บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้รายวิชา: โควิด 19 และระบาดวิทยา บนเว็บไซต์บทเรียน https://learningcovid.ku.ac.th ประกอบด้วย 8 บทเรียน ได้แก่ 1)ความรู้เกี่ยวกับไวรัส 2)รู้จักโรคโควิด 19 3)พื้นฐานการตรวจวินิจฉัยโรคโควิด 19 4)ระบาดวิทยา 5)การป้องกัน 6)เรียนรู้จากข้อมูลและสถิติเกี่ยวกับโควิด 19 7)ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 และ 8)วินัยการปฏิบัติตามมาตรการและทัศนคติที่ดีต่อผู้ป่วย โดยเนื้อหาการเรียนรู้หนึ่งบทมี 4-6 ตอน รวม 39 ตอน แต่ละตอนถ่ายทอดความรู้ในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้น ขนาดความยาว 3- 15 นาที ผสมกับเนื้อหาความรู้ที่อ่านเข้าใจง่าย และมีแบบทดสอบ เพื่อเรียนรู้ด้วยตนเองแบบออนไลน์ เมื่อเรียนผ่านตามเกณฑ์ จะได้รับประกาศนียบัตร ที่ออกให้โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ขอโทษ อ้างป้องกันตัว

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเอามีดฟัน อ้างไม่ใช่คู่กรณี แต่เห็นคนทะเลาะกัน เลยเข้าไปห้าม แต่ “เป๊ก” ปรี่เข้าหา จึงชักมีดพกขึ้นมาป้องกันตัว อยากขอโทษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.30 น. พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกมีดฟันบาดเจ็บในปั๊มน้ำมันซอยรามคำแหง 76 เขตบางกะปิ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับสายตรวจและอาสากู้ภัย พบคนเจ็บคือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง ถูกมีดฟันใต้คางเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือ นายชุติเทพ อายุ 21 ปี ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธมีดยาว 20 เซนติเมตร ที่ใช้ฟันเป๊ก ผลิตโชค ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นนายชุติเทพ ให้การอ้างขับรถไปรับแฟนออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน แต่ขณะแวะปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เห็นมีคนกำลังทะเลาะกัน คล้ายมีอาการมึนเมา อยู่ท้ายรถกระบะ ตนเองจึงเข้าไปช่วยเคลียร์ […]

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

คนร้ายยิง M16 ถล่มกำนัน ต.นาวง ดับคากระบะ

ตรัง 3 ส.ค. – ตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบรถกระบะกำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่ม เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก คืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มรถกระบะนายบัณฑิต กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ประสานพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศรีตรัง เข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืน M16 ยิงใส่รถรวม 15 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก เนื่องจากสภาพศพกระสุนปืนเข้าที่อวัยวะสำคัญ ทั้งศีรษะและลำตัวฝั่งขวาหลายนัด แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้ง ทั้ง รื่องพิพาทผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่วังวิเศษ หรือความเชื่อมโยงกับคดีลอบสังหาร “ทนายเหว่า” ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย