fbpx

เตรียมถก ศบค.19 ส.ค.นี้ ปรับโควิดเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง

สธ.16 ส.ค.- สธ.เตรียมนำเรื่องปรับลดระดับโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง หารือ ศบค.ชุดใหญ่ 19 ส.ค.นี้ พร้อมปรับลดวันรักษาจาก 7+3 วัน เป็น 5+5 วัน และโมลนูพิราเวียร์จะเป็นยาหลักในการรักษา


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันที่ 19 ส.ค.65 จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ทาง สธ.ก็จะนำเสนอมติการประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เรื่องประกาศลดระดับโรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งจะรายงานให้ ศบค.รับทราบ เพื่อให้มีความเห็นต่างๆ

ส่วนเรื่องบทบาท ศบค. หลังจากโควิดเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง จะเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตนอยากให้มองว่าทุกคนมาทำงานร่วมกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านเสียสละลงมาบัญชาการ รวบรวมหน่วยงานต่างๆ เข้าด้วยกัน เราก็มาดูว่าหากทุกอย่างกลับไปเป็นปกติแล้ว กระทรวงสาธารณสุขมั่นใจว่าไม่ต้องพึ่งพาอำนาจของหน่วยงานไหน ท่านนายกฯ ก็คงพิจารณาตามสถานการณ์ ตามรายงานที่เราให้ความมั่นใจกับท่าน


ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข (อีโอซี) โรคโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีการปรับการประชุมเป็นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง มีประเมินสถานการณ์รายวันและรายสัปดาห์ และแจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติปรับโรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะต้องวางแผนการบริหารจัดการโรคโควิด-19 จนถึงเดือน ธ.ค.2565 ทั้งเรื่องการควบคุมโรค การดูแลรักษา วัคซีน และการประชาสัมพันธ์ โดยรูปแบบการรักษานั้น จะต้องให้ยารักษาลงไปถึงระดับร้านขายยา เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาได้มากขึ้น โดยใช้ใบสั่งแพทย์ไปสั่งซื้อยา

ส่วนการรักษานั้น มีการทบทวนระยะเวลาการรักษา เพื่อผู้ติดเชื้อที่มีอาการซึ่งถือว่าเป็นผู้ป่วย จากที่ใช้อยู่คือ การรักษาตัวคือ 7 วัน และแยกกักตัวเพื่อสังเกตอาการ 3 วัน หรือ 7+3 ที่ประชุมได้พิจารณาปรับแนวทางการรักษาใหม่ให้เป็น 5+5 คือ รักษาตัว 5 วัน แยกกักเพื่อสังเกตอาการ 5 วัน ส่วนเรื่องยา โมลนูพิราเวียร์จะเป็นยาหลักในการรักษา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร