กรุงเทพฯ 12 ส.ค. – กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือพายุ “มู่หลาน” แนะ 6 วิธีเตรียมพร้อมก่อนน้ำท่วม อาทิ เตรียมน้ำ อาหารแห้ง ยาสามัญประจำบ้าน ยาโรคประจำตัว สามารถยังชีพได้อย่างน้อย 3-5 วัน พร้อมจดเบอร์โทรหมายเลข 1669 กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน, หมายเลข 1784 ด้านสาธารณภัย และ 1422 สายด่วนกรมควบคุมโรค ปรึกษากรณีเจ็บป่วย เพื่อความปลอดภัยของชีวิต และลดการสูญเสีย
วันนี้ (12 สิงหาคม 2565) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเรื่องพายุดีเปรสชัน “มู่หลาน” ทำให้ช่วงนี้ในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมหรือน้ำป่าไหลหลาก ประชาชนจึงควรมีการเตรียมความพร้อมก่อนน้ำท่วมจากฝนตกหนัก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีประวัติน้ำท่วมมาก่อน ซึ่งการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้เราสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ดี โดยวิธีเตรียมพร้อมก่อนน้ำท่วม 6 ประการ ดังนี้
1.ติดตามข่าวและสถานการณ์น้ำท่วมจากกรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งสัญญาณเตือนความผิดปกติต่างๆ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน อย่างสม่ำเสมอ
2.จัดเตรียมน้ำสะอาด อาหารกระป๋องหรืออาหารแห้ง ยาที่จำเป็นต่างๆ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ ยาหยอดตา ยาใส่แผล ผงน้ำตาลเกลือแร่ ยาประจำตัวของผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังต่างๆ อุปกรณ์ที่จำเป็นในการใช้ชีวิต เช่น อุปกรณ์การสื่อสาร พร้อมแบตเตอรี่สำรอง อุปกรณ์ชูชีพ เช่น ห่วงยาง ไฟฉายหรือเทียนไข ไม้ขีดไฟ ถุงใส่ขยะหรือถุงพลาสติก ให้เพียงพอ ให้สามารถยังชีพได้อย่างน้อย 3-5 วัน
3.ศึกษาแผนปฏิบัติในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินของหมู่บ้านหรือในชุมชน เกี่ยวกับสัญญาณเตือนภัยต่างๆ การติดต่อสื่อสาร เส้นทางอพยพและสถานที่ตั้งที่พักฉุกเฉินหรือศูนย์อพยพในพื้นที่
4.จัดเตรียมช่องทาง หรือเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกับหน่วยงานกู้ภัยในท้องถิ่น ชุมชน ในกรณีต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะบ้านที่มีกลุ่มเสี่ยงได้รับอันตรายจากน้ำท่วม เช่น เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ เบอร์โทรฉุกเฉินที่จำเป็นไว้ คือ หมายเลข 1669 ขอความช่วยเหลือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สายด่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หมายเลข 1784 และสายด่วนกรมควบคุมโรค หมายเลข 1422 ปรึกษากรณีเจ็บป่วย ตลอด 24 ชั่วโมง
5.หากมีสัตว์เลี้ยง ให้จัดเตรียมสิ่งของจำเป็นสำหรับการดูแลสัตว์ เช่น อาหาร พื้นที่หลบภัยสำหรับสัตว์ รวมทั้งการป้องกันโรคที่อาจเกิดมาจากสัตว์สู่คน เช่น โรคฉี่หนู เป็นต้น
6.การจัดเตรียมความพร้อมด้านระบบไฟฟ้าภายในบ้าน หรือระบบไฟสำรอง รวมทั้งถุงบรรจุทราย เพื่อป้องกันน้ำท่วมหากจำเป็น
นายแพทย์โอภาส กล่าวต่ออีกว่า เมื่อฝนตกหนักและมีโอกาสเกิดน้ำท่วม สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน ควรยกระดับปลั๊กไฟฟ้าให้สูงขึ้นจากพื้นที่ที่คิดว่าอาจเสี่ยงต่อน้ำท่วมประมาณ 1-2 เมตร หากไม่สามารถยกระดับปลั๊กไฟได้ ให้ใช้วิธีตัดวงจรไฟฟ้าที่เต้ารับหรือสวิตช์หลักที่น้ำท่วมถึง รวมทั้งตัดวงจรไฟฟ้า โคมไฟที่รั้วบ้าน โคมไฟที่สนาม ไฟกริ่ง และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่เดินสายไฟฝังอยู่ใต้ดิน ในกรณีที่ประเมินความเสี่ยงแล้วว่าน้ำอาจท่วมถึง เพื่อป้องกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไฟดูดขณะเกิดน้ำท่วม.-สำนักข่าวไทย