fbpx

สธ.ย้ำจ่ายยาโควิดตามเกณฑ์

รพ.ราชวิถี 10 ส.ค. – กรมการแพทย์ร่วม รพ.รามาธิบดี ย้ำจ่ายยาต้านไวรัสรักษาโควิดตามเกณฑ์ ไม่จำเป็นไม่อยากให้ใช้พร่ำเพรื่อ เตือนแพกซ์โลวิดแรง หากใช้ร่วมกับยาอื่น เช่น ไมเกรน ทำให้ปลายนิ้วดำ เสี่ยงตัดนิ้ว ส่วนคนป่วยลิ่มเลือดอาจเกิดภาวะเลือดออกในสมอง แนะใช้ยาและอยู่ในความดูแลของแพทย์


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์​ พร้อมด้วย พญ.นฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์ และ ผศ.นพ.กำธร มาลาธรรม รองผู้อำนวยการ รพ.รามาธิบดี และในฐานะที่ปรึกษาสมาคมโรคติดเชื้อ แถลงเกณฑ์แนวทางการรักษาโควิด-19 ว่า สถานการณ์การติดเชื้อวันนี้ พบติดเชื้อ 2,335 คน โดยเป็นผู้ป่วยใน กทม.รักษาตัวใน รพ.จำนวนมาก แต่อัตราการใส่ท่อช่วยหายใจน้อย ผิดกับต่างจังหวัดที่มีอัตราใส่ท่อช่วยหายใจมากกว่า ฉะนั้นสถานการณ์ใน กทม.ทรงตัวและดีขึ้นนิดหน่อย ส่วนผู้เสียชีวิต 32 คน ที่เห็นว่าจำนวนมาก เพราะใช้เวลานอนรักษาตัวใน รพ.นานกว่าเสียชีวิต ซึ่งเกณฑ์การจ่ายยาต้านไวรัสในผู้ป่วยยังคงเหมือนเดิม และใช้ตามแนวทางการรักษาที่ปรับปรุงฉบับล่าสุด คือ ฉบับที่ 24 ผู้ที่ไม่มีอาการ ไม่มีปัจจัย ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัส และโรคนี้สามารถหายเองได้ โดยไม่ต้องรับยา และสาเหตุที่ไม่จ่ายยาต้านไวรัสโมลนูพิราเวียร์และแพล็กซ์โลวิดให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และหญิงตั้งครรภ์ เพราะเกิดปัญหาการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส และอาจทำให้ผู้ป่วยได้รับผลกระทบ เพราะยาใช้แค่ปีเดียว และเป็นการใช้ในภาวะฉุกเฉิน และไหนจะมีภาวะรีบาวด์เกิดขึ้นอีก พร้อมยืนยันยาโมลนูพิราเวียร์ไม่ได้ขาดแคลนมีการสั่งซื้อเพิ่มโดยองค์การเภสัชกรรม

พญ.นฤมล กล่าวว่า สำหรับเกณฑ์การรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิดยังคงเดิม แม้ในอนาคตวันที่ 1 ตุลาคม 2565 โควิดจะกลายเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง จากเดิมเป็นโรคติดต่ออันตราย แต่เกณฑ์การให้จ่ายยาอาจมีการปรับเปลี่ยนในอนาคต หากมีผลการศึกษาวิจัยพบว่ายาตัวไหนอันตรายหรือเกิดผลกระทบกับผู้ป่วย หรือหากมียาตัวใหม่ที่ดีกว่าเดิม ก็อาจมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ทั้งนี้ เกณฑ์การรักษายึด 7+3  วัน ได้แก่ ผู้ป่วยไม่มีอาการ ไม่ปัจจัย หรืออาการเล็กน้อย แยกกักที่บ้าน ส่วนคนที่มีปัจจัยเสี่ยง ทั้ง 608 หรือโรคร่วม ปอดอักเสบเล็กน้อยจนถึงปอดเสบ ออกซิเจนในเลือดต่ำว่า 94% ให้รักษาที่ รพ.  


แนวทางจ่ายยาไม่มีอาการ ไม่ให้ยาต้านไวรัส อาจพิจารณาฟ้าทะลายโจร มีอาการไม่รุนแรง ปอดปกติ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง โรคร่วม อาจให้ยาฟาวิพิราเวียร์ ควรให้เร็วที่สุด มีอาการรุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงโรคร่วมสำคัญหรือปอดอักเสบเล็กน้อย-ปานกลาง ให้ยาต้านไวรัสตัวใดตัวหนึ่ง เช่น โมลนูพิราเวียร์ เรมดิซิเวียร์ แพกซ์โลวิด และฟาวิพิราเวีย์ยังจำเป็นสำหรับเด็ก ปอดอักเสบ ระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 94 ให้ยาเรมดิซิเวียร์ ทั้งนี้ การให้จ่ายทุกประเภทต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์

ผศ.นพ.กำธร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่กังวลเรื่องเชื้อดื้อยา หากการจ่ายยาอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ แต่ที่ห่วงคือผลข้างเคียง เนื่องจากยาใช้ในภาวะฉุกเฉิน ดังนั้น คนที่ไม่ได้ประโยชน์จากการใช้ยา ก็ไม่สมควรใช้ รวมถึงการซื้อหายามาเก็บไว้ แนวทางการให้จ่ายยาต้านไวรัส ถูกพิจารณาโดยผู้เชี่ยวชาญ แล้วเห็นว่ากลุ่มไหนสมควรได้รับยา เพราะโควิดขณะนี้สามารถหายได้เอง โดยไม่ต้องรับยา พร้อมยอมรับห่วงเรื่องกระแสเรียกร้องการจ่ายยาโดยยึดความถูกใจเป็นที่ตั้ง โดยไม่ยึดความถูกต้อง เพราะยาเหล่านี้ยังไม่รู้ผลข้างเคียงในระยะยาว ยกตัวอย่างยาแพกซ์โลวิดมีผลกระทบกับยาหลายตัว หากใช้ร่วมกับคนที่เป็นไมเกรน โดยไม่อยู่ความดูแลของแพทย์​อาจทำให้ปลายนิ้วดำ หรือเกิดเนื้อตาย และอาจต้องตัดนิ้วทิ้ง กลายเป็นสูญเสียอวัยวะ หรือการใช้ยาร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด มีโอกาสเกิดภาวะเลือดออกในสมอง และเสียชีวิต จึงไม่อยากแนะนำให้ซื้อยามาใช้เอง

ส่วนโมลนูพิราเวียร์ออกฤทธิ์หยุด RNA ของไวรัส ซึ่งอาจทำให้ยีนส์ของคนแบ่งตัวผิด แม้โอกาสเกิดน้อย แต่ไม่มีใครรู้ผลระยะยาว จึงไม่อยากให้ใช้ยาพร่ำเพรื่อ และเป็นสาเหตุที่ไม่จ่ายยาให้กับเด็กเล็กและหญิงตั้งครรภ์ การใช้จ่ายยาเหล่านี้ต้องถึงประโยชน์ของคนที่จะได้ และความจำเป็น นอกจากนี้ ยังเกิดภาวะรีบาวด์ โดย รพ.รามาธิบดี เริ่มพบผู้ป่วยภาวะรีบาวด์หรือกลับมาป่วยโควิดซ้ำในกลุ่มคนที่ได้รับยา 2 ตัวนี้ ได้แก่ โมลนูพิราเวียร์ และแพกซ์โลวิด จากการติดตามพบประมาณ 1-2% ของผู้ป่วย อย่างไรก็ตามภาวะรีบาวด์ จะหายภายใน 2 สัปดาห์ แม้หายเองได้ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใคร เพราะวุ่นวาย ผลกระทบกับใช้ชีวิต และการทำงาน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว