ผู้ว่าฯ กทม. กำชับทุกเขตตรวจความเสี่ยงอัคคีภัยทุกสถานบริการ

กทม. 5 ส.ค. – ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ชี้ระบบสาธารณสุขดีถ้าเส้นเลือดฝอยและปฐมภูมิเข้มแข็ง กำชับเฝ้าระวังฝีดาษลิง สังเกตอาการ 21 วัน กำชับให้ทุกเขตลงไปตรวจเรื่องทางหนีไฟ เรื่องความเสี่ยงอัคคีภัยของทุกสถานบริการ


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต้อนรับคณะศึกษาดูงานผู้เข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ (ปทพ.) รุ่นที่ 9 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร ซึ่งแพทยสภาร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า จัดการศึกษาอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 9 เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้การแพทย์ไทยทั้งจากสังกัดต่าง ๆ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ กรุงเทพมหานคร การแพทย์ทหารและตำรวจ และการแพทย์เอกชน เพื่อบูรณาการร่วมกันในการแก้ปัญหานำไปสู่การพัฒนาของวงการแพทย์และสาธารณสุขของไทย โดยในโอกาสนี้ รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้บรรยายพิเศษ เรื่องนโยบายสาธารสุขของกรุงเทพมหานคร และนางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร บรรยาย เรื่องระบบการแพทย์และสาธารณสุขภายใต้สังกัด กรุงเทพมหานคร ตลอดจนหน้าที่ความรับผิดชอบของสำนักการแพทย์และสำนักอนามัย รวมถึงปัญหาและระบบสุขภาพคนเมือง

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในอนาคตนโยบายสาธารณสุขต้องละเอียดขึ้น ต้องตอบโจทย์ เพราะเรามีคนที่แตกต่าง เรามี Niche Market (ตลาดเฉพาะกลุ่ม) จะใช้นโยบายแบบ Universal policy (นโยบายสากล) ไม่กี่ข้อครอบคลุมคนทั้งประเทศไม่ได้ คนหมายเลขศูนย์ คนที่ไม่มีบัตรประชาชน คนไร้บ้าน ก็เป็นกลุ่มที่ต้อง Address ผมว่าในอนาคตนโยบายสาธารณสุขต้องละเอียดขึ้น ต้องตอบโจทย์ Niche Market มากขึ้น สมัยก่อนเป็นอนาล็อกพิมพ์นโยบายลงกระดาษ อาจมี 4-5 นโยบาย ตอบโจทย์คนกลุ่มหนึ่งที่มีความต้องการของนโยบายเยอะ แต่พอมี Digital platform สามารถมีนโยบายได้เยอะ ไม่อั้น บางนโยบายอาจจะไม่มีคนต้องการเยอะ แต่ว่ามีความหลากหลาย เช่น นโยบายแจกผ้าอนามัย นโยบายกลุ่มหลากหลายทางเพศ ในอนาคตเราจะเห็นนโยบายที่ละเอียดขึ้น ที่ตอบโจทย์ของ Niche Market มากขึ้น เพราะ Digital platform ไม่มีปัญหาเรื่องความจุของนโยบาย แต่ก่อนนโยบายต้องพิมพ์ใส่หนังสือ ปัจจุบันเอาเป็นแสนนโยบายก็ได้ เพราะ Digital platform มันใหญ่


เชื่อว่ากรุงเทพฯ คล้ายกับหลอดเลือด ร่างกายคนมีทั้งหลอดเลือดใหญ่และเส้นเลือดฝอย ที่ผ่านมาเรา Impress (ประทับใจ) กับโรงพพยาบาลขนาดใหญ่เยอะมาก พื้นที่กรุงเทพฯ มีโรงพยาบาลระดับโลก เช่น รพ.ศิริราช รพ.จุฬาฯ แต่เส้นเลือดฝอยเราบอบบางมาก และชีวิตคนอยู่ที่เส้นเลือดฝอยด้วย หัวใจคือการ Balance (สมดุล) กันระหว่างเส้นเลือดใหญ่กับเส้นเลือดฝอยในทุกระบบ ไม่ใช่เฉพาะสาธารณสุข ระบบในกรุงเทพฯ คล้ายกับโซ่ มันไม่ได้แข็งแรงเท่ากับข้อที่อ่อนที่สุด เรามีโรงพยาบาลขนาดใหญ่เยอะแยะ มีศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ถ้าเส้นเลือดฝอย หรือปฐมภูมิอ่อนแอ จะไม่มีทางที่จะอยู่รอดเลย เพราะทุกคนจะวิ่งมาที่ ทุติยภูมิ ตติยภูมิ หมด เพราะฉะนั้นด่านแรกที่ปะทะต้องเข้มแข็ง หน้าที่หลักของ กทม. คือต้องดูปฐมภูมิ กทม. มีเตียงในระบบอื่นแค่ 10% กทม. อย่าไปคิดว่าจะสร้างเตียงอีกเพราะยังไงก็ไม่พอ ยังไงเตียงก็ไม่พอ ถ้าปฐมภูมิไม่เข้มแข็งประชาชนไม่ไว้ใจ สาธารณสุขต้องเน้นเรื่องปฐมภูมิ

“หน้าที่ กทม. มี 3 อย่าง คือ เพิ่ม Productivity (การเพิ่มประสิทธิภาพของเมือง) เพิ่มคุณภาพชีวิต และสร้างโอกาสให้คน กทม. มีหน้าที่อำนวยความสะดวก ไม่ได้สร้างภาระ สร้างประสิทธิภาพของเมือง เมืองแข่งกันที่การดึงคนเก่ง เพราะเมืองคือเศรษฐกิจ เมืองอยู่ได้เพราะงาน คนที่จะสร้างงานคือคนเก่ง อนาคตเมืองต้องดึงดูดคนเก่ง เมืองต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะคนเก่งเลือกที่จะอยู่ในที่ต่าง ๆ ได้ และเมืองต้องสร้างโอกาส เมืองเป็นศูนย์รวมที่ปฏิเสธความเหลื่อมล้ำไม่ได้ เมืองมีหน้าที่เกลี่ยความมั่งคั่งอย่างเหมาะสม สาธารณสุขก็เป็นรูปแบบหนึ่ง คนมีเงินในกรุงเทพฯ ไม่ได้สนใจระบบสาธารณสุขใน กทม. เพราะไม่เคยมาใช้บริการศูนย์บริการสาธารณสุข ไม่ต้องการ อสม. ไม่ต้องการ อสส. เพราะมีโรงพยาบาลเอกชน แต่จะเกลี่ยความมั่งคั่งอย่างไรให้คนที่เป็นเครื่องจักร เป็นคนสำคัญในการขับเคลื่อนเมืองอยู่ได้ มีสวัสดิการให้คนมีรายได้น้อย เป็นหัวใจของระบบสาธารณสุขให้อยู่ได้” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

ภายหลังการต้อนรับคณะศึกษาดูงาน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีไฟไหม้ที่สัตหีบ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิด กังวลเรื่องนี้มาตั้งแต่ มิ.ย. ที่มีเหตุการณ์ไฟไหม้ที่สีลมซอย 2 ได้สั่งกำชับให้ทุกเขตลงไปตรวจเรื่องทางหนีไฟ เรื่องความเสี่ยงอัคคีภัยของทุกสถานบริการ จริง ๆ แล้วได้ไล่ตรวจมาเป็นเดือนแล้ว แต่คงต้องไปเร่งรัดกำชับให้มากขึ้น เมื่อเช้าได้แจ้ง พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ไปกำชับเรื่องนี้ให้เข้มข้นขึ้น ต้องลงตรวจให้มากขึ้น เป็นจังหวะที่เริ่มเปิดเมือง นักท่องเที่ยวกลับมา กิจกรรมพวกนี้จะมีคนเข้ามาเที่ยวมากขึ้น อย่างน้อยก็ได้สั่งการไปเดือนกว่าแล้ว ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้รับบาดเจ็บทุกคน ทางกรุงเทพมหานครเอากรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ที่ต้องเร่งดำเนินการ วันนี้จะติดตามความคืบหน้าว่า ที่ลงไปตรวจแล้วมีปัญหาอะไร แล้วก็มีข้อขัดข้องอย่างไรหรือไม่ ส่วนกรณีฝีดาษลิงก็ขอบคุณโรงพยาบาลจุฬารัตน์ที่อยู่ในเขตสมุทรปราการ ที่สามารถระบุผู้ที่ป่วยได้ ต้องระวัง เป็นโรคที่แพร่เชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ ถ้ามีเพศสัมพันธ์ต้องมีการป้องกัน ต้องใส่ถุงยางอนามัย แต่มันก็อาจจะแพร่เชื้อได้ ต้องระวัง เพราะเริ่มมีเคสเกิดขึ้น ต้องระมัดระวังตัว ทุกหน่วยก็คงต้องเดินหน้าเต็มที่


รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวเสริมกรณีพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษวานรเพิ่มเติมว่า พบผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา แล้วก็พบข้อสงสัยในอาการ ทางโรงพยาบาลได้เก็บตัวแล้วคัดกรองเลย ผลเพิ่งออกมาสักครู่ใหญ่ ๆ ว่า เป็นผู้ป่วยรายที่ 2 ของกรุงเทพมหานคร แต่ก็อยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ขอขอบคุณโรงพยาบาลจุฬารัตน์ แม้ว่าจะอยู่ในสมุทรปราการ ก็ Detect ได้ รวมถึงส่งข่าว สื่อสารร่วมมือกับทางศูนย์บริการสาธารณสุข และทางกรุงเทพมหานครรวดเร็วมาก ก็เลยทำให้เรารอบคอบขึ้น สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใกล้ชิด ตอนนี้อยู่ในความดูแล มีการคัดกรอง แล้วก็ให้ดูแลตัวเองอยู่ในพื้นที่ เบื้องต้นทราบว่ามีผู้ป่วยสัมผัสเสี่ยงสูง 2 ราย เป็นเพื่อนคนไทยที่อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้าน ส่วนที่ไปสัมผัสสัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติยังหาตัวไม่เจอ

นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวเสริมว่า การสัมผัสโรคมีโอกาสที่ติดเชื้อได้หลังจากสัมผัสโรคภายใน 21 วัน ต้องแจ้งเตือนประชาชนให้ลองย้อนเวลากลับไปว่า 21 วันที่ผ่านมาได้มีประวัติไปสัมผัสโรคนี้มาหรือไม่ หากมีการสัมผัสโรคมาหรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อให้สังเกต เฝ้าระวัง และดูอาการตนเองให้ครบ 21 วัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

กกต. ออกหมายเรียกอีก 22 สว. แจงคดีฮั้ว สว.

กทม. 30 พ.ค.-หมายเรียก สว.ฮั้วลอต 5 ออกแล้ว คณะกรรมการสืบสวนฯ กกต. เรียกอีก 22 สว.แจง รวมเรียกทั้งหมด 127 คน มีรายงานแจ้งว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เรียกสมาชิกวุฒิสภา เข้ารับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 22 คน กรณีถูกกล่าวหาว่าอาจพัวพันกับกระบวนการฮั้วเลือก สว. ประกอบด้วย 1.นางจุฑารัตน์ นิลเปรม 2.นางเจียระไน ตั้งกีรติ 3.นางมยุรี โพธิแสน 4.น.ส.จารุณี ฤกษ์ปราณี 5.น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ 6. นายกิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ 7.นายธนภัทร ตวงวิไล 8.น.ส.ภาวนา ว่องอมรนิธิ 9.นายกัมพล สุภาแพ่ง 10.นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11.นายอัครวินท์ ขำขุด 12.นางธารณี ปรีดาสันติ์ 13.นางรจนา เพิ่มพูน 14.น.ส.ปุณณภา จินดาพงษ์ […]

ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาชายแดน

กองทัพบก 30 พ.ค.-ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาพิพาทชายแดน ยันทหาร 2 ฝ่ายถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบกแล้ว วอนประชาชนรับฟังข้อมูลสื่อหลัก ขอเชื่อมั่นทหารปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้ว กองทัพบก ออกหนังสือแถลงการณ์ผลการเจรจาระหว่าง ผบ.ทบ.ไทย – ผบ.ทบ.กัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ 1.ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธีในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตยหรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ 2.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้ตกลงที่จะเคลื่อนออกจากพื้นที่ ถือเป็นการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องในการใช้กลไกคณะกรรมการร่วมมือรักษาความ สงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน หรือ Reqional Border Committee (RBC) เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่อาจค้างคา และส่งเสริมกลไก JBC ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น […]

ทบ. จ่อออกแถลงการณ์ ห้ามทหารกัมพูชาเข้าใช้พื้นที่เนิน 745

กองทัพบก 30 พ.ค.-ทบ. เตรียมออกแถลงการณ์จุดปะทะช่องบก ไม่ให้ทหารกัมพูชาเข้ามาใช้พื้นที่เนิน 745 – ต้นสัตบรรณ ถึงสามแยกลาว เล็งพูดคุยจัดชุดลาดตระเวนร่วม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พิธีไถ่ชีวิตกระบือ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระราชินี 3 มิ.ย. โดยในวันนี้ กองทัพบกเตรียมออกแถลงการณ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อย่างเป็นทางการ ภายหลังวานนี้ (29 พ.ค.) พล.อ.พนา ได้หารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน กรณีเกิดเหตุปะทะช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี จนได้ข้อสรุป 3 ข้อ 1.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทย และกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ 2.ปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้เคลื่อนออกจากพื้นที่แล้ว คลี่คลายความตึงเครียด […]

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย