กรุงเทพฯ 31 ก.ค. – ไทยรอด! ไม่ได้รับผลกระทบจากชิ้นส่วนจรวดลองมาร์ช 5บี น้ำหนัก 21 ตัน ล่าสุด GISTDA เผยชิ้นส่วนจรวดตกในเขตทะเลซูลู ของฟิลิปปินส์ กลางดึกที่ผ่านมา
กรณี GISTDA แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังชิ้นส่วนจรวด Longmarch-5B (ลองมาร์ช 5บี) ของจีน จะตกลงสู่พื้นโลกเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) ซึ่งต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษกว่าทุกครั้ง เนื่องจากจรวดดังกล่าวมีน้ำหนักมากถึง 21 ตัน อาจไม่สามารถเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศได้หมดก่อนตกลงสู่พื้นโลก อีกทั้งยังมีวงโคจรเคลื่อนผ่านพื้นที่ประเทศไทยด้วย ทาง GISTDA จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ทำการวิเคราะห์และคาดการณ์ทุกระยะ เพื่อแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมการรับมือ เพื่อลดความเสี่ยงและความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
ล่าสุด GISTDA โดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีอวกาศ หรือ S-TREC ยืนยันว่าเศษชิ้นส่วนจรวดลองมาร์ช 5บี ได้ตกลงสู่พื้นโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ใดๆ ของประเทศไทย เนื่องจากชิ้นส่วนจรวดดังกล่าวไปตกในเขตทะเลซูลู ของฟิลิปปินส์
โดยเศษชิ้นส่วนของจรวดลองมาร์ช 5บี เริ่มเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศตั้งแต่อยู่เหนือน่านฟ้าของมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ ก่อนตกลงไปในทะเลซูลู ของประเทศฟิลิปปินส์ (จุดสีเหลือง) เมื่อช่วงเวลา 23.53 น. ของวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินแต่อย่างใด
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากจรวดลองมาร์ช 5บี ได้เสร็จสิ้นภารกิจการนำเวิ่นเทียน (Wentian) ซึ่งเป็นโมดูลที่ 2 เชื่อมต่อกับสถานีอวกาศเทียนเหอ (Tianhe) เพื่อสนับสนุนให้นักบินอวกาศทำการทดลองวิจัยในอวกาศ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2565 ซึ่ง GISTDA ได้ติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนชิ้นส่วนของจรวดดังกล่าว จะตกสู่พื้นโลกเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
สำหรับการแจ้งเตือนชิ้นส่วนจรวดตกสู่โลกในครั้งนี้ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีอวกาศของ GISTDA ได้ใช้ระบบการจัดการจราจรอวกาศ (Space Traffic Management System) หรือ ZIRCON ที่ทีมนักวิจัยของ GISTDA พัฒนาขึ้น ทำการวิเคราะห์และคาดการณ์ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล.-สำนักข่าวไทย