แนะสถานดูแลผู้สูงอายุ เข้มปลอดภัย ลดสูงวัยเสี่ยงโควิด

สธ. 31 ก.ค.- กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะสถานดูแลผู้สูงอายุคุมเข้มความปลอดภัย เนื่องจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่ มีโรคประจำตัว หากพบมีผู้ติดเชื้อ ต้องแยกออกจากที่พักทันที เพราะหากอยู่รวมกันหวั่นเกิดการระบาด พร้อมย้ำผู้ดูแล ต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ลดความเสี่ยงต่อการติดและแพร่เชื้อโควิด-19


นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีการนำเสนอข่าว พบผู้ติดเชื้อที่สถานสงเคราะห์คนชราบ้านภูเก็ต จำนวนรวม 23 ราย โดยได้นำส่งโรงพยาบาลถลางเพื่อรักษาตัวนั้น สำหรับสถานดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่อื่น ๆ หากพบผู้ติดเชื้อ ควรให้ผู้สูงอายุที่ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษา และกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงให้กักตัวเพื่อป้องกันการระบาดของโรค โดยขอความร่วมมือสถานดูแลผู้สูงอายุทุกแห่งประเมินตนเองตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขโดยใช้แพลตฟอร์ม Thai Stop COVID 2 Plus ซึ่งเป็นข้อแนะนำทางด้านสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาด ประกอบด้วยมาตรการ และแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการ ผู้ปฏิบัติงาน และแนวทางการปฏิบัติกรณีพบผู้ติดเชื้อ ส่วนผู้ดูแลผู้ป่วย ถ้าอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหรือติดเชื้อ ต้องงดเข้าใกล้ หรือดูแลผู้สูงอายุโดยเด็ดขาด ซึ่งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในผู้สูงอายุ นับเป็นหนึ่งกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากส่วนใหญ่ มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินหายใจ ทำให้เสี่ยงมีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มวัยอื่น

​นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า การปฏิบัติเพื่อป้องกันโควิด-19 ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดในทุกด้าน ตั้งแต่ 1) จัดให้มีจุดคัดกรองสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ผู้มาติดต่อและญาติ 2) ทำความสะอาดจุด หรือบริเวณที่ใช้ร่วมกัน โดยเน้นที่จุดเสี่ยงต่าง ๆ ได้แก่ โถส้วม ที่กดชักโครกหรือโถปัสสาวะ สายฉีดชำระกลอนหรือลูกบิดประตู ฝารองนั่ง 3) จัดให้มีภาชนะรองรับมูลฝอยที่เกิดจากการดูแล หรือให้การพยาบาลผู้สูงอายุ ที่มีฝาปิดมิดชิด 4) โรงครัวหรือโรงอาหาร ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลอาหาร และล้างมืออย่างสม่ำเสมอ ด้วยสบู่และน้ำก่อนหยิบหรือจับอาหาร สวมหน้ากากขณะปฏิบัติงาน 5) จัดให้มีภาชนะและของใช้ส่วนตัวสำหรับผู้สูงอายุ และ 6) งดหรือหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการชุมนุมของผู้สูงอายุ ในกรณีที่มีการรับบริจาคเงินควรบริจาคผ่านระบบออนไลน์ เพื่อเป็นการลดการแพร่และกระจายเชื้อโควิด-19


“นอกจากนี้ ผู้ปฏิบัติงานและเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรหมั่นทำความสะอาดเตียงนอน เครื่องใช้ ราวจับ อุปกรณ์ช่วยเดินอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยน้ำยาทำความสะอาด เข้มงวดเรื่องการคัดกรองผู้ปฏิบัติงาน และผู้มาติดต่อ โดยใช้ระบบประเมินตนเองผ่านระบบ “ไทยเซฟไทย” ก่อนเข้าปฏิบัติงาน เพื่อประเมินความเสี่ยงรายบุคคล ส่วนการให้บริการต้องดูแลตามมาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุ ควบคู่กับการดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นสังเกตตนเอง หากพบว่ามีความเสี่ยง ให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK ทันที” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย