สธ. 27 ก.ค.- สธ.เร่งปรับปรุงประกาศ กำหนดเฉพาะ “ช่อดอกกัญชา” เป็นสมุนไพรควบคุม ลดผลกระทบผู้ใช้ประโยชน์จากกัญชา พร้อมกำหนดปริมาณครอบครองในครัวเรือน คาดสัปดาห์หน้าได้ข้อสรุปก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการฯ จึงนำหนังสือที่ส่งถึง สตช.กลับมาทบทวนเพื่อให้มีความชัดเจนก่อน แล้วจึงหารือทำความเข้าใจร่วมกัน
วันนี้ (27 กรกฎาคม 2565) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวกรณีการขอความร่วมมือตำรวจดำเนินคดีผู้ไม่ขออนุญาตการใช้กัญชา
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องการดำเนินคดีกับผู้ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัย หรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้านั้น นัยของหนังสือฉบับนี้ เพื่อต้องการคุ้มครองผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร แต่จากที่ตรวจสอบหนังสือแล้วและปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข้อสรุปและข้อสั่งการให้อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกทบทวนรายละเอียด โดยได้นำหนังสือฉบับดังกล่าวกลับมาพิจารณาอีกครั้ง ทบทวนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
ด้าน นพ.ยงยศ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 หารือแล้วเห็นว่าการกำหนดกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมต้องมีความชัดเจน 4 เรื่อง คือ 1.ประชาชนที่ใช้ประโยชน์กัญชาในการดูแลสุขภาพต้องไม่ได้รับผลกระทบ 2.ความผิดของประชาชนที่ดำเนินการก่อนจะมีประกาศฉบับนี้ต้องไม่มี 3.การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่จะไปดำเนินการร่วมกับผู้เกี่ยวข้องต้องมีความชัดเจน และ 4.กัญชาจะเป็นพืชสำคัญสร้างเศรษฐกิจ และคุณค่าทางการแพทย์ การให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดหรือถูกด้อยค่าจากการกระทำของคนก็ไม่ควรเกิดขึ้น ดังนั้น คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายฯ จึงเห็นควรให้ปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม ให้มีความชัดเจนขึ้น โดยจะกำหนดเฉพาะช่อดอกกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมเท่านั้น
“ถ้าประกาศทั้งต้นจะมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก แต่การประกาศเฉพาะช่อดอกจะทำให้ผู้ที่ใช้ประโยชน์จากราก ต้น กิ่ง ใบ ยังสามารถใช้ได้ตามปกติ นอกจากนี้ จะกำหนดปริมาณช่อดอกสำหรับครัวเรือนที่เหมาะสมซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาและรับฟังความคิดเห็น คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปปริมาณช่อดอกกัญชา หากไม่เกินที่กำหนดจะไม่เข้าข่าย สามารถใช้ดูแลสุขภาพตนเองได้ หากเกินหรือเพื่อการค้าก็ต้องขออนุญาต ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก เพราะจะอำนวยความสะดวกด้วยการขอทะเบียนออนไลน์ โดยจะกำหนดคุณสมบัติของผู้จำหน่ายไว้ ทั้งนี้ หลังปรับปรุงแล้วจะเสนอให้คณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯ ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานพิจารณา ก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนาม” นพ.ยงยศกล่าว
นพ.ยงยศ กล่าวต่อว่า การออกประกาศฉบับใหม่จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุดเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน และเมื่อมีความชัดเจนจะมีการทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติคือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในฐานะผู้อนุญาตในพื้นที่ และหารือร่วมกันกับทางตำรวจเพื่อทำความเข้าใจ ส่วนประกาศฉบับก่อนหน้านี้ การบังคับใช้เรื่องบทลงโทษน่าจะยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากเราใช้มาตรการป้องปรามและตักเตือนเป็นหลัก และการดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต้องครบกระบวนความ โดยต้องมีเจ้าพนักงานสาธารณสุขที่มีความเชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรนั้นผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขขอเน้นย้ำการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น .-สำนักข่าวไทย