รัฐสภา 27 ก.ค.-“ชัชชาติ” ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมรับมือน้ำหนุน และโรคฝีดาษวานร ขอให้ประชาชนพักผ่อนอย่างมีความสุขในช่วงวันหยุดยาว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการรับมือสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงปลายเดือนนี้ไปจนถึงต้นเดือนสิงหาคมว่า จะมีการสร้างเขื่อนริมน้ำ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 88 กิโลเมตร กทม.ดำเนินการ 80 กิโลเมตร เอกชนดำเนินการ 8 กิโลเมตร มีจุดที่เป็นฟันหลอประมาณ 20 กว่าจุด ซึ่งปีนี้ได้งบประมาณดำเนินการ 13 จุด อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเตรียมกระสอบทรายไว้อุดจุดที่ฟันหลอแล้ว พร้อมยอมรับว่ามีบางจุดที่ยังมีปัญหา เช่น จุดทรงวาด ตลาดน้อยเลยวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร และจุดฟันหลอทั้งสองฝั่งทั้งฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนคร รวมถึงที่ของเอกชนที่ยังไม่ได้เข้าไปดำเนินการในการเตรียมความพร้อม ก็ต้องเร่งดำเนินการ โดยได้สั่งการไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว
เมื่อช่วงเช้า อธิบดีกรมชลประทานมีการรายงานสถานการณ์ประจำวันว่า มีปริมาณ 1,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ปกติ ไม่มีปัญหา และสั่งการเน้นย้ำให้เฝ้าระวังจุดฟันหลอแล้ว เพราะทุกจุดที่ฟันหลอถึงแม้สถานการณ์น้ำน้อย ก็สามารถเอ่อท่วมได้ ซึ่งฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนครต้องเร่งดำเนินการ โดยปริมาณน้ำเหนือที่หนุน ที่เป็นวิกฤตจริง ๆ อยู่ที่ประมาณ 2,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ที่จะทำให้น้ำล้นถึงแนวคัน ซึ่ง กทม.เสริมคันกันน้ำให้สูงขึ้นโดยมีความสูงเฉลี่ย 2.80-3.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือแล้ว
“สำหรับข้อห่วงใยประชาชนในช่วงวันหยุดยาวนั้น ก็ขอให้หยุดพักผ่อนกันให้เต็มที่ ส่วนเรื่องฝน กทม.ก็ป้องกันเต็มความสามารถ การพร่องน้ำก็ทำเต็มที่ ตอนนี้ก็ได้กองทัพเข้ามาช่วยในการลอกท่อแล้ว ตั้งแต่พื้นที่คลองลาดพร้าวไปจนถึงคลองบางบัว โดยจะพร่องน้ำช่วงกลางคืน และตอนเช้าก็ปล่อยให้เดินเรือ แต่แค่หยุดปั๊มน้ำ ระดับน้ำก็ขึ้นมา 20 เซนติเมตรแล้ว เพราะฉะนั้นช่วงที่เรือไม่เดินก็จะพร่องน้ำได้มากที่สุด คิดว่าหากฝนตกหนักไม่มากแบบที่ผ่านมาก็ไม่น่ามีปัญหา สามารถรับมือได้” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวให้ความมั่นใจในการรับมือน้ำท่วม
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว โดยมีการตั้งประชาคมเขตแทน แต่จากการประชุมสภากรุงเทพมหานครพบว่า ส.ก.ต้องการให้มี ส.ข. เนื่องจาก ส.ข.เป็นผู้ที่จะดูในรายละเอียดของแต่ละพื้นที่เขตของกรุงเทพฯ เพราะว่าในแต่ละเขตของกรุงเทพฯ มีจำนวนประชากรมากเป็นหลัก 200,000-300,000 คน เทียบเท่ากับ 1 จังหวัด การมี ส.ก.แค่คนเดียว อาจไม่เพียงพอ ทำให้การดูแลไม่ทั่วถึง
ส่วนแนวคิดเรื่องการตั้งประชาคมเขตที่มาจากคนบางกลุ่ม ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ก็ต้องพิจารณาความเห็นของแต่ละฝ่ายให้รอบด้าน ผู้บริหาร กทม.มีหน้าที่นำเสนอสื่อสารความเห็นจากสภา กทม.ให้คณะกรรมาธิการฯ ได้รับทราบ ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้ามีการเลือกผู้แทนจากประชาชนมามาก ๆ เป็นตัวแทนจากประชาชนจริง ๆ และสร้างประโยชน์ให้ประชาชน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากเป็นการแต่งตั้งจากคนแค่เพียงบางกลุ่ม ไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชน ก็อาจจะสร้างปัญหาในอนาคตได้ ซึ่งเรื่องนี้ กทม.ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ ต้องรอการประกาศใช้จากพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องก่อน
ส่วนเรื่องฝีดาษวานร ตรวจสอบแล้วไม่พบอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามที่ข่าวลือที่แพร่กระจายออกไป ซึ่ง กทม.เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ เพราะขณะนี้มีการแพร่ระบาดในประเทศต่าง ๆ เช่น อิสราเอลพบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 100 ราย เพราะฉะนั้นชุมชนที่มีความเสี่ยงต้องมีการตรวจเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งโรคฝีดาษลิงไม่ได้มีการติดเชื้อจากการแพร่กระจายในอากาศเหมือนโควิด-19 แต่มีการติดเชื้อจากการสัมผัสและเรื่องเพศสัมพันธ์ โดยมีกลุ่มเสี่ยงที่มาจากต่างประเทศที่มีการแพร่ระบาดอยู่ ซึ่งขณะนี้สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ให้ความรู้กับศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง พร้อมเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไว้พร้อมแล้ว.-สำนักข่าวไทย