16 แผนสู้ฝุ่น PM 2.5 ตั้งทีมร่วม ทส.-กทม. คาดปีหน้าเห็นผล

กรุงเทพ 25 ก.ค. – ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผย 16 แผนสู้ฝุ่น PM 2.5 ตั้งทีมร่วม ทส.-กทม. คาดปีหน้าเห็นผล เล็งเพิ่มค่าตอบแทนครูอาสาศูนย์เด็กเล็ก-กรรมการชุมชน พร้อมเฝ้าระวังฝีดาษวานรในพื้นที่


(25 ก.ค. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 14/2565 โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมและวางแผน (WAR ROOM) ชั้น 35 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้มีเรื่องที่ต้องพิจารณาตามนโยบาย เช่นระเบียบเกี่ยวกับกรรมการชุมชน ซึ่งจะมีเบี้ยประชุมเพิ่มเติมเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ปัจจุบันประธานชุมชนกับเลขาฯ ที่ได้เบี้ยประชุม แต่คณะกรรมการชุมชนทุกคนยังไม่มีเบี้ยประชุม เหมือนเป็นอาสาสมัคร เราต้องกระจายอำนาจลงชุมชนให้เข้มแข็ง ถ้าเรามีเครือข่ายกรรมการที่เข้มแข็ง ก็สามารถช่วยดูแลชุมชนได้ จะทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งขึ้น ดูว่าทางไหนปรับเบี้ยประชุม หรือมีเครื่องแบบให้กับกรรมการชุมชน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีการร้องขอมาแทบทุกชุมชนที่ลงไป แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป กำลังพิจารณาความเหมาะสม


ในส่วนของศูนย์ดูแลเด็กก่อนวัยเรียน 2-6 ขวบ มีค่าอาหารอยู่ที่ 20 บาท กำลังพิจารณาค่าอาหารให้เหมาะสม โดยกรรมการเสนออยู่ที่ 32 บาท และเรื่องอัตราของครูอาสาที่มาสอน จะปรับให้เหมาะสมตามวุฒิ ซึ่งถ้ากรรมการสรุปแล้วก็สามารถประกาศได้ทันที รวมทั้งมีนโยบายที่จะเพิ่มค่าหนังสือค่าอุปกรณ์ด้วย ปัจจุบันให้หัวละ 100 บาท ต่อปี ซึ่งไม่พอ ที่กรรมการเสนอมาคือ 600 บาท สามารถทำให้ดูแลเด็กก่อนวัยเรียนได้ดีขึ้น ปัจจุบันกรุงเทพมหานครดูแลเด็กก่อนวัยเรียนประมาณ 19,000 คน ไม่เยอะเนื่องจากปีนึงจะมีเด็กประมาณ 60,000 คน เด็กส่วนหนึ่งอยู่ในสถานศึกษาที่กรุงเทพมหานครไม่ได้ดูแล ทำอย่างไรให้เด็กกลุ่มนี้เข้ามาสู่ระบบมากขึ้น

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำหรับนโยบายเกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 เริ่มดำเนินการจากที่ได้ไปคุยกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มา ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกัน มีปลัด ทส. กับ ปลัด กทม. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีทั้งหมด 16 แผนปฏิบัติการ (Action Plan) คือ 1. วินิจฉัยหาต้นเหตุ คือตอนนี้เราไม่มีงานวิจัยเรื่องฝุ่นที่ต่อเนื่อง 2. ทำโครงการนักสืบฝุ่น 3. การแจกอุปกรณ์ป้องกันฝุ่น เพราะมีกลุ่มเปราะบางที่ต้องการหน้ากาก 4. การตรวจโรงงานทั้งหมด แหล่งที่มาของฝุ่นหลัก ๆ คือมาจากรถยนต์ โรงงาน จากการเผาชีวมวล การก่อสร้าง 5. การใช้ CCTV ในการจับรถปล่อยควันดำ สามารถไปดูทะเบียนได้ เป็นตัวช่วยในการหารถที่มีปัญหา 6. การพัฒนาโครงการและผู้ประกอบการ โดยในเดือนตุลาคมจะมีการออกประกาศหรือเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตการก่อสร้าง ต้องไม่ใช้รถที่ปล่อยมลพิษทางอากาศ ให้เป็นมาตรการเข้มข้น ซึ่งเมื่อก่อนไม่มีมาตรการนี้ ผู้ประกอบการจึงต้องเตรียมตัว โดยรถบรรทุกวัสดุก่อสร้างที่เข้ามาในไซต์งานจะต้องไม่ก่อให้เกิดมลพิษ 7. มีการแจ้งเตือนฝุ่น PM 2.5 มีการใช้การพยากรณ์ที่แม่นยำ ร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 8. Traffy Fondue เป็นตัวแจ้งเหตุ 9. เฝ้าระวังกิจกรรมที่สำนักงานเขตดำเนินการ เช่น กิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่น การเผาศพ เรื่องการจุดธูป 10. มี Open Data ข้อมูลฝุ่นให้ประชาชนเห็นได้ชัดเจน มีการตรวจวัดรถควันดำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 12. พยายามให้รถราชการใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น 13. การตรวจควันดำในสถานที่ก่อสร้าง/แพลนท์ปูน 14. การตรวจควันดำของรถราชการทั้งหมด 15. ขยายระบบตรวจวัดแต่เดิมมีอยู่ประมาณ 70 จุดของกทม ขยายเพิ่มเป็น 1,000 จุด โดยร่วมกับภาคส่วนต่างๆ มีเครือข่ายของบริษัท NT มาร่วม รวมถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งตอนนี้มีอยู่ 12 จุด และ 16. กำหนดพื้นที่ BKK Clean Air Area คือพื้นที่ที่มีความหนาแน่น พยายามจะลดฝุ่นลง จำกัดเรื่องการเข้าพื้นที่ หาแรงจูงใจในการลดการเข้าพื้นที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 มาก

“แผนปฏิบัติการย่อย 16 แผน ได้ดำเนินการแล้วเพราะว่าการทำเรื่องฝุ่นต้องเตรียมตัวนาน ช่วงปลายปีหน้าฝุ่นน่าจะบรรเทาลงไปได้ ต่อไปคงมีหน่วยงานอื่นมาร่วม เป็นตำรวจหรือกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว


กรณีโรคฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิง องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศยกระดับเตือนภัย โรคติดต่อระหว่างประเทศ ให้การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern) ต่อจากโรคโควิด-19 จากโควิด การดำเนินงานที่ผ่านมาของสำนักอนามัย กทม. คือ ให้ความรู้แก่บุคลากรทางด้านสาธารณสุข เพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์ ทำหนังสือแจ้งศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิก โรงพยาบาล หากพบผู้ต้องสงสัยให้แจ้งไปยังกรมควบคุมโรค สำนักอนามัย ประสานสมาคมโรงแรมไทย เพื่อแจ้งโรงแรมทุกแห่งใน กทม. หากพบผู้ป่วยสงสัยให้รายงานไปที่สำนักงานเขต/และหรือ ศูนย์บริการสาธารณสุข โดยมีแผนที่จะจะดำเนินการต่อไป คือ ประสานร้านขายยาในพื้นที่ กทม. เพื่อช่วยเฝ้าระวัง ประสานกับองค์กรภาคประชาสังคมเพื่อให้ความรู้และร่วมเฝ้าระวัง และสังเกตอาการของคนที่ติดเชื้อฝีดาษลิง ซึ่งจะมีผื่นนูนแดง ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง และสะเก็ด โดยอาจจะไปดูชุมชนไนจีเรียที่เขาอยู่รวมกันว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ซึ่งจะได้ดำเนินการในเชิงรุกต่อไป

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเตรียมทำงบประมาณปี 67 ได้เตรียมทำตามนโยบาย คือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการออกแบบงบประมาณ และทำเรื่องงบประมาณฐานศูนย์ พยายามใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด มีการออกแบบกระบวนการพอถึงเวลาที่เริ่มทำงบประมาณปี 67 ก็จะสามารถทำตามนโยบายได้

ส่วนเรื่องการเปิดให้จองบัตรชมการประชันวงดุริยางค์ระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดนครราชสีมา ในวันอาทิตย์นี้ (31 ก.ค.65) จำนวน 1,500 ใบ หมดแล้ว เต็มภายใน 26 นาที ในการจัดกิจกรรมมีการตรวจ ATK ทุกคน และมีมาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มข้น หากจองไม่ทันก็สามารถชมการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เพจกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงนประชาสัมพันธ์ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย