สธ. 24 ก.ค.-“อนุทิน” เผยพรุ่งนี้ (25 ก.ค.65) ถกผู้เชี่ยวชาญ ยกระดับฝีดาษวานร เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงหรือไม่ หลัง WHO ยกระดับเป็นโรคติดต่อระหว่างประเทศ จับตานักท่องเที่ยวมาจากพื้นที่เสี่ยงระบาดมาก ส่วนการเฝ้าระวังในคนใกล้ชิดชายไนจีเรียรายแรก ไม่มีใครป่วยเพิ่ม ประสาน รพ.เอกชน เฝ้าระวังคัดกรอง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมหารือหลัง องค์การอนามัยโลก ยกระดับฝีดาษวารนร เป็นโรคติดต่อระหว่างประเทศ ว่า วันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และระดับสาธารณสุขจังหวัดได้แก่ สระแก้ว สมุทรปราการ และ ภูเก็ต ว่า ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) จะได้มีการหารือในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญว่า จะมีการทบทวนยกระดับโรคฝีดาษวานร เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรง เหมือนโควิดหรือไม่ เนื่องจากการประกาศขององค์การอนามัยโลก ทำให้เกิดการเฝ้าระวัง ซึ่งไทยจะเน้นเฝ้าระวังในผู้เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงตาม WHO ระบุ โดยให้ผู้เดินทางกรอกข้อมูลขณะเข้าที่สนามบิน เช่นมีตุ่มหนอง ผื่นตามตัว หรือไม่ พร้อมเปลี่ยนจากการประชุมหารือใน EOC ระดับกรมควบคุมโรคและ EOC ของกระทรวงสาธารณสุข โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ย้ำโรคฝีดาษวานรไม่ได้ติดต่อง่ายเหมือนกับโควิด-19 และไม่มีการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ส่วนเรื่องยาและเวชภัณฑ์ จากการสอบถามกรมการแพทย์ เตรียมยารักษาตามอาการ ส่วนเรื่องวัคซีนที่มีผงฝีดาษ ที่เก็บไว้ของ อภ. ก็มีความพร้อมในการใช้ป้องกัน หากจำเป็น
นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับการติดตามผู้ป่วยฝีดาษวานรเพิ่มเติมจากชายไนจีเรีย ที่ติดเชื้อรายแรก ก็ยังไม่พบการติดเชื้อเพิ่ม แต่ขอให้เน้นเรื่องมาตรการเฝ้าระวัง การล้างมือ ระยะห่าง ไม่เข้าใกล้คนที่มีตุ่มหนอง เพราะโรคนี้ติดได้จากการสัมผัสเชื้อตามบาดแผล และก็ให้ระวังหรือของเพศสัมพันธ์ด้วย เนื่องจากเป็นช่องทางการติดต่อของโรค โดยฝีดาษวานรติดยากกว่าโรคเอดส์ แต่ต้องระวังเช่นกัน ทั้งนี้ยังได้มอบหมายให้ พญ.นฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ฉุกเฉิน มาดูแลเรื่องนี้และตอบคำสอบสื่อมวลชนโดยตรง และให้ด่านควบคุมโรค ระหว่างประเทศ ร่วมติดตามเฝ้าระวังผู้ป่วยด้วย
นพ.ธเรศ กรัษนัยริวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ที่ประชุมได้กำชับให้ประสานกับ รพ.เอกชน เพื่อเฝ้าระวังโรคฝีดาษวานร เนื่องจากพบการติดเชื้อในผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และที่ผ่านมาพบการประสานส่งต่อข้อมูลและการเฝ้าระวังในนักท่องเที่ยวรวม 18 คน และเพิ่งพบนักท่องเที่ยวชาวไนจีเรียติดเชื้อเป็นรายแรก
ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันนี้ ทางกรมควบคุมโรค จะมีการประสานกับทางสาธารณสุขกัมพูชา เพื่อติดตามข้อมูลและขยายผลในการสอบสวนจากชายไนจีเรีย ที่ติดเชื้อเป็นรายแรกของไทย และ หลบหนีไปกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย