กรมวิทย์ฯ แจงอาการสายพันธุ์ BA.2.75 ที่ตรัง ไม่ต่างจากสายพันธุ์อื่น

สธ. 21 ก.ค.- กรมวิทย์ฯ แจงสุ่มตรวจ BA.2.75 ที่ จ.ตรัง เป็นเรื่องปกติของระบบ อาการไม่ได้แตกต่างจากสายพันธุ์ย่อยอื่น ขณะนี้ผู้ป่วยรักษาทานยาตามอาการและกักตัวจนครบแล้ว เนื่องจากเจอตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.


นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2.75 ที่จังหวัดตรัง ว่า เป็นการตรวจตามระบบเฝ้าระวังป้องกันสายพันธุ์ตามปกติของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อยู่แล้ว ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้พบว่ามีความผิดปกติอะไร แต่เป็นรอบการสุ่มตรวจสายพันธุ์ตามปกติ เมื่อตรวจเบื้องต้นแล้วพบว่าไม่เข้ากับสายพันธุ์ BA.4 หรือ BA.5 ที่มีในไทยจึงต้องส่งถอดพันธุกรรมทั้งตัว ก็พบว่าเป็นสายพันธุ์ BA.2.75 จึงได้รายงานไปยังกรมควบคุมโรคเพื่อสำการสอบสวนโรคต่อไป พร้อมทั้งรายงานไปยังฐานข้อมูล GISAID เพราะสายพันธุ์ดังกล่าว ทางองค์การอนามัยโลกจัดให้อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวลที่ต้องจับตาดู (VOC-LUM) ส่วนอาการของผู้ติดโควิดสายพันธุ์ BA.2.75 ที่จังหวัดตรัง 1 คน นั้น ยังไม่มีอาการที่แตกต่างไปจากสายพันธุ์อื่น ๆ

ส่วนความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์ BA.2.75 กับ BA.4 หรือ BA.5 และจะมาแทนที่กันหรือไม่นั้น นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดมากนัก เพราะในประเทศอินเดียซึ่งมีการระบาดของสายพันธุ์ BA.2.75 จำนวนมาก เป็นเพราะที่อินเดียไม่มีสายพันธุ์ BA.4 หรือ BA.5 จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ BA.2.75 ระบาดมากก็ได้ อย่างไรก็ตาม ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอีกสักระยะ ระหว่างนี้ขอความร่วมมือประชาชนให้ไปรับวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้ออาการรุนแรง ลดความเสี่ยงการเสียชีวิต


นพ.ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวตรวจพบและเข้าสู่กระบวนการรักษาตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยตรวจเจอติดเชื้อจาก ATK สำหรับอาการมีแค่เจ็บคอ ไอ ไม่มีปอดอักเสบ ตรวจสอบประวัติ พบว่า มีโรคประจำตัวคือโรคภูมิแพ้ โรคอ้วน ได้รับยารักษาตามอาการ มีประวัติการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 3 เข็ม ซึ่งอาการที่ปรากฏนั้นเป็นอยู่ 2-3 วันก็หาย แต่ก็ให้ดูแลตัวเองที่บ้านจนครบกำหนดตามเกณฑ์ ทั้งนี้ คิดว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นมีส่วนสำคัญอย่างมากที่ช่วยให้ไม่มีอาการรุนแรง ส่วนเรื่องการสอบสวนโรคนั้น คนที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อทั้งหมด 4 คน ไม่มีใครติดเชื้อแต่อย่างใด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.