รมว.แรงงาน เตือนหญิงไทยระวังถูกหลอกทำงานนวดสปาใน UAE

ก.แรงงาน 18 ก.ค. – “สุชาติ” รมว.แรงงาน เตือนนายหน้าเถื่อนระบาดโซเชียล หลอกคนไทยใช้วีซ่าท่องเที่ยว เดินทางเข้า UAE ก่อนบังคับขายบริการทางเพศ


นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการโฆษณาชักชวนไปทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทางสื่อออนไลน์ ผ่านเพจ Facebook จำนวนมาก เช่น “แรงงานไทยในประเทศดูไบ” “หางานนวดต่างประเทศ” ชักชวนให้ไปทำงานในตำแหน่งนวดสปา งานการตลาด งานแอดมินดูแลเว็บไซต์การพนันออนไลน์ และพนักงานฝ่ายบุคคล โดยอ้างว่าจะได้รับค่าจ้างสูง และจะเป็นผู้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ก่อน พร้อมทั้งจะออกค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่าให้ โดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) หรือวีซ่าเยี่ยมเยือน (Visit Visa) เดินทางเข้าไปในยูเออี และเมื่อเดินทางไปถึงจะมีคนมารับที่สนามบินให้เซ็นสัญญาการรับสภาพหนี้ และพาไปทำงานอื่นที่ไม่ได้ตกลงไว้ อาทิ งานในร้านนวดที่มีการลักลอบขายบริการทางเพศ งานด้านการพนันออนไลน์ ระหว่างนี้จะยึดหนังสือเดินทางไว้เพื่อไม่ให้เหยื่อหนี ซึ่งการโฆษณารับสมัครงานดังกล่าว เป็นโฆษณาชักชวนคนไทยให้เดินทางเข้ามาทำงานในธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และมีหญิงไทยจำนวนมากตกเป็นเหยื่อถูกบังคับค้าประเวณี และถูกทำร้ายร่างกาย

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ห่วงใยคนไทยที่ถูกหลอกลวงไปทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างยิ่ง โดยเน้นย้ำมาตลอดว่า แต่ละประเทศมีกฎหมาย ไปทำงานประเทศใดต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายประเทศนั้นอย่างเคร่งครัด กรณีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้นมีกฎหมายที่เข้มงวดและรุนแรง ซึ่งการค้าประเวณีถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับหรือตามที่ศาลพิจารณาและจะถูกเนรเทศ ซึ่งผมไม่เคยนิ่งนอนใจ ได้มอบหมายกรมการจัดหางาน ซึ่งมีภารกิจในการให้ความคุ้มครองคนไทยที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศและมีสำนักงานจัดหางานจังหวัดอยู่ทั่วประเทศ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับคนหางานในพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รู้ทันเล่ห์กลของนายหน้าเถื่อน สามารถช่วยสอดส่องผู้มีพฤติการณ์น่าสงสัยที่เข้ามาหลอกลวงคนในชุมชน และแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ได้” รมว.แรงงาน กล่าว


ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขอให้คนไทยที่กำลังหางานในต่างประเทศ ทำความเข้าใจว่าหากสาย-นายหน้ามีพฤติการณ์ชักชวนให้ทำงานผิดกฎหมาย แนะนำให้ลักลอบเข้าประเทศ หรือไปทำงานต่างประเทศโดยไม่แจ้งการทำงานต่างประเทศกับกรมการจัดหางาน ให้สันนิษฐานเป็นลำดับแรกว่าท่านกำลังถูกหลอกลวง โปรดอย่าหลงเชื่อ สำหรับยูเออีตำรวจเข้มงวดอย่างมากในการจับกุมผู้ใช้วีซ่าผิดประเภทในการลักลอบทำงานผิดกฎหมาย และผู้ถือวีซ่าหมดอายุ จนมีคนไทยหลายคนถูกจับกุม ติดคุกและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายท้องถิ่นจำนวนมาก และการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มคนดังกล่าวให้ได้เดินทางกลับประเทศไทยกระทำได้ยาก เนื่องจากสถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่สามารถไปก้าวก่ายกระบวนการทางกฎหมายและยุติธรรมของทางการยูเออีได้ จะต้องรอจนกว่ากระบวนการทางศาลสิ้นสุด โดยไม่สามารถเรียกร้องสิทธิประโยชน์ใด ๆ ได้เนื่องจากเป็นการกระทำผิดกฎหมายตั้งแต่แรก นอกจากนี้ ผู้ลักลอบไปทำงานอย่างผิดกฎหมายหากประสบปัญหาใด ๆ จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศไทยเอง

“กรณีผู้ที่เดินทางเข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) หรือวีซ่าเยี่ยมเยือน (Visit Visa) และลักลอบทำงานมีโทษปรับ 50,000 ดีแรห์ม หรือประมาณ 475,000 บาท หากกระทำผิดซ้ำจะถูกปรับสองเท่าและถูกเนรเทศ หากไม่มีเงินค่าปรับ ต้องจำคุกแทนค่าปรับวันละ 100 ดีแรห์ม กรณีอยู่เกินวีซ่า (Overstay) จะโดนปรับวันแรก 200 ดีแรห์ม หรือ 1,900 บาท และวันต่อไปวันละ 100 ดีแรห์ม หรือ 950 บาท และค่าธรรมเนียมอีก 100 ดีแรห์ม” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศสามารถศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการหลอกลวงได้ที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th หรือ www.doe.go.th/overseas เว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ สำนักงานจัดหางานจังหวัดที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายโทรศัพท์ 0 2245 6708 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งกลาโหมประสานผู้ว่าฯ ช่วยน้ำท่วมเชียงราย

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-นายกฯ สั่งกลาโหม ประสานความร่วมมือ ผู้ว่าฯ จัดกำลังพลและอุปกรณ์ช่วยน้ำท่วมเชียงราย ขอ ประชาชนติดตามข่าวสาร Cell Broadcast ยัน รัฐบาลเตรียมแผนงานไว้แล้ว ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียล ระบุเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย ขณะนี้ฝ่ายปกครอง ปภ.เขต/จังหวัด และนายอำเภอได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งการขนย้ายสิ่งของสำคัญขึ้นที่สูง อพยพประชาชนไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ ดิฉันได้สั่งการเพิ่มเติมให้กระทรวงกลาโหม ประสานความร่วมมือช่วยเหลือด้านกำลังพลและอุปกรณ์ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างรวดเร็ว ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ปภ. ดูแลจัดเตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภค ให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงดีอี โดยเฉพาะกรมอุตุนิยมวิทยา ประเมินสถานการณ์และแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบเป็นระยะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะผ่านทั้งทาง Cell Broadcast และการแจ้งข่าวโดยตรงจากในพื้นที่ค่ะ ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่กำลังประสบภัยและเจ้าหน้าที่ทุกท่านขณะนี้ รัฐบาลจะดูแลทุกชีวิตอย่างดีที่สุดค่ะ และนี่เป็นอีกครั้งที่ยืนยันว่าการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบจะต้องเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งรัฐบาลเตรียมแผนงานไว้แล้ว.-316.-สำนักข่าวไทย

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

“ภูมิธรรม” บอกไม่ฟัง “ฮุน เซน” วอนคนไทยอย่าให้เขาปั่น

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” บอกไม่ฟัง “ฮุน เซน” ไม่รู้จะฟังทำไม แปลไม่ออก วอนคนไทยอย่าให้เขาปั่น เป็นสงครามข่าวสาร-จิตวิทยา หวังต่างชาติสนใจ เผย กต.ติดตามอยู่ หากกระทบไทย พร้อมเอาผิดตามกฎหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการไลฟ์ของสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า ยังไม่ได้ฟังคลิปเสียงของสมเด็จฯ ฮุน เซน และ ตนไม่สนใจฟัง เพราะหลายอย่างก็พูดกลับไปกลับมา เช่น เรื่องปิดด่าน ซึ่งถ้ามีความจริงใจ หรือซื่อตรง กับสิ่งที่ได้กระทำก็คงพูดให้ชัดเจน ก็เห็นว่าท่านก็ว่าของท่านไป ตนก็ฟังไม่ออกด้วย ไม่รู้จะไปฟังทำไม เพราะฟังไม่ออก ส่วนถ้ามีการเปิดคลิปเสียงลับที่อ้างว่ามีหลายเรื่องที่กระทบกับประเทศไทยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่สนใจเลย เพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐบาล และเราก็ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร สิ่งที่ชัดเจนขณะนี้เขากำลังเล่นสงครามข่าวสารและสงครามจิตวิทยา และสิ่งต่างๆที่เขาทำอยู่เพื่อจะบั่นทอนศักยภาพและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทย ซึ่งถ้ารัฐบาลไทยสั่นคลอนเขาจะได้ประโยชน์สูงสุด นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการและหวังไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดินหรือชายแดนต่างๆ ซึ่งเขาจะสามารถดำเนินการได้ ในขณะที่รัฐบาลไทยมีปัญหา จึงอยากขอความวิงวอน เรายืนอยู่บนหลักของเราและดำเนินการต่างๆ ถ้าอยากจะเปิดอะไรออกมาก็เปิด ถ้าอะไรมีปัญหาก็ว่าไปตามกฎหมาย แต่ตนเชื่อว่าไม่มีอะไรเลย […]

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]