fbpx

รมว.แรงงาน เตือนหญิงไทยระวังถูกหลอกทำงานนวดสปาใน UAE

ก.แรงงาน 18 ก.ค. – “สุชาติ” รมว.แรงงาน เตือนนายหน้าเถื่อนระบาดโซเชียล หลอกคนไทยใช้วีซ่าท่องเที่ยว เดินทางเข้า UAE ก่อนบังคับขายบริการทางเพศ


นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการโฆษณาชักชวนไปทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทางสื่อออนไลน์ ผ่านเพจ Facebook จำนวนมาก เช่น “แรงงานไทยในประเทศดูไบ” “หางานนวดต่างประเทศ” ชักชวนให้ไปทำงานในตำแหน่งนวดสปา งานการตลาด งานแอดมินดูแลเว็บไซต์การพนันออนไลน์ และพนักงานฝ่ายบุคคล โดยอ้างว่าจะได้รับค่าจ้างสูง และจะเป็นผู้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ก่อน พร้อมทั้งจะออกค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่าให้ โดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) หรือวีซ่าเยี่ยมเยือน (Visit Visa) เดินทางเข้าไปในยูเออี และเมื่อเดินทางไปถึงจะมีคนมารับที่สนามบินให้เซ็นสัญญาการรับสภาพหนี้ และพาไปทำงานอื่นที่ไม่ได้ตกลงไว้ อาทิ งานในร้านนวดที่มีการลักลอบขายบริการทางเพศ งานด้านการพนันออนไลน์ ระหว่างนี้จะยึดหนังสือเดินทางไว้เพื่อไม่ให้เหยื่อหนี ซึ่งการโฆษณารับสมัครงานดังกล่าว เป็นโฆษณาชักชวนคนไทยให้เดินทางเข้ามาทำงานในธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และมีหญิงไทยจำนวนมากตกเป็นเหยื่อถูกบังคับค้าประเวณี และถูกทำร้ายร่างกาย

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ห่วงใยคนไทยที่ถูกหลอกลวงไปทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างยิ่ง โดยเน้นย้ำมาตลอดว่า แต่ละประเทศมีกฎหมาย ไปทำงานประเทศใดต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายประเทศนั้นอย่างเคร่งครัด กรณีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้นมีกฎหมายที่เข้มงวดและรุนแรง ซึ่งการค้าประเวณีถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับหรือตามที่ศาลพิจารณาและจะถูกเนรเทศ ซึ่งผมไม่เคยนิ่งนอนใจ ได้มอบหมายกรมการจัดหางาน ซึ่งมีภารกิจในการให้ความคุ้มครองคนไทยที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศและมีสำนักงานจัดหางานจังหวัดอยู่ทั่วประเทศ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับคนหางานในพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รู้ทันเล่ห์กลของนายหน้าเถื่อน สามารถช่วยสอดส่องผู้มีพฤติการณ์น่าสงสัยที่เข้ามาหลอกลวงคนในชุมชน และแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ได้” รมว.แรงงาน กล่าว


ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขอให้คนไทยที่กำลังหางานในต่างประเทศ ทำความเข้าใจว่าหากสาย-นายหน้ามีพฤติการณ์ชักชวนให้ทำงานผิดกฎหมาย แนะนำให้ลักลอบเข้าประเทศ หรือไปทำงานต่างประเทศโดยไม่แจ้งการทำงานต่างประเทศกับกรมการจัดหางาน ให้สันนิษฐานเป็นลำดับแรกว่าท่านกำลังถูกหลอกลวง โปรดอย่าหลงเชื่อ สำหรับยูเออีตำรวจเข้มงวดอย่างมากในการจับกุมผู้ใช้วีซ่าผิดประเภทในการลักลอบทำงานผิดกฎหมาย และผู้ถือวีซ่าหมดอายุ จนมีคนไทยหลายคนถูกจับกุม ติดคุกและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายท้องถิ่นจำนวนมาก และการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มคนดังกล่าวให้ได้เดินทางกลับประเทศไทยกระทำได้ยาก เนื่องจากสถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่สามารถไปก้าวก่ายกระบวนการทางกฎหมายและยุติธรรมของทางการยูเออีได้ จะต้องรอจนกว่ากระบวนการทางศาลสิ้นสุด โดยไม่สามารถเรียกร้องสิทธิประโยชน์ใด ๆ ได้เนื่องจากเป็นการกระทำผิดกฎหมายตั้งแต่แรก นอกจากนี้ ผู้ลักลอบไปทำงานอย่างผิดกฎหมายหากประสบปัญหาใด ๆ จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศไทยเอง

“กรณีผู้ที่เดินทางเข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) หรือวีซ่าเยี่ยมเยือน (Visit Visa) และลักลอบทำงานมีโทษปรับ 50,000 ดีแรห์ม หรือประมาณ 475,000 บาท หากกระทำผิดซ้ำจะถูกปรับสองเท่าและถูกเนรเทศ หากไม่มีเงินค่าปรับ ต้องจำคุกแทนค่าปรับวันละ 100 ดีแรห์ม กรณีอยู่เกินวีซ่า (Overstay) จะโดนปรับวันแรก 200 ดีแรห์ม หรือ 1,900 บาท และวันต่อไปวันละ 100 ดีแรห์ม หรือ 950 บาท และค่าธรรมเนียมอีก 100 ดีแรห์ม” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศสามารถศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการหลอกลวงได้ที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th หรือ www.doe.go.th/overseas เว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ สำนักงานจัดหางานจังหวัดที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายโทรศัพท์ 0 2245 6708 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช.อีกรอบ สอบตำรวจทำคดีเว็บพนันออนไลน์

“บิ๊กโจ๊ก” บุกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกครั้ง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษหัวหน้าและคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดในคดีเว็บพนันออนไลน์ที่มีการทำคดีโดยมิชอบ