ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ให้กำลังใจบุคลากรการแพทย์

กทม. 14 ก.ค.-ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ช่วงหยุดยาว พร้อมติดตามสถานการณ์โควิดและโรคมือเท้าปาก แนะให้นำบทเรียนจากโควิดครั้งก่อนมาพัฒนาระบบสาธารณสุข กทม. ให้ดีขึ้น

เวลา 10.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในช่วงวันหยุดยาว พร้อมติดตามสถานการณ์โควิด-19 และโรคมือเท้าปาก โดยมี นพ.ภูริทัต แสงพานิชกุล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลให้การต้อนรับและให้ข้อมูล ณ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ เขตบางแค


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวว่า วันนี้เป็นวันหยุดราชการ แต่จริง ๆ แล้วมีอีกหลายหน่วยงานที่ไม่ได้หยุด เพราะว่าไม่สามารถจะรอได้ เช่น เรื่องขยะ เรื่องกวาดถนน และเรื่องสาธารณสุข ซึ่งหยุดไม่ได้อยู่แล้ว วันนี้ได้มาที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแนวหน้า จริง ๆ แล้วโรงพยาบาล กทม. มีทั้งหมด 11 โรงพยาบาล มีเปอร์เซ็นต์เตียงแค่ 11% ของทั้งหมด เรายังมีทั้งสาธารณสุข โรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลทหาร-ตำรวจ ฉะนั้นในส่วนโรงพยาบาลของ กทม. ไม่ได้มีเยอะ แต่กทม.จะเน้นปฐมภูมิ คือศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ที่กระจายอยู่ตามชุมชน โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ก็เป็นโรงพยาบาลหลักที่ช่วยดูแลผู้ป่วยโควิด-19

นพ.ภูริทัต ได้รายงานข้อมูลว่า สถิติปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อในกทม. ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา RT-PCR ประมาณวันละ 2,000-3,000 คน กลุ่ม ATK วันละประมาณ 5,000-6,000 คน โดยผู้ติดเชื้อสามารถรับยาได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกอบอุ่น และโรงพยาบาล แต่ในวันหยุดหรือนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลจะมีบุคลากรมากกว่า


สำหรับผู้ที่ตรวจ ATK แล้วพบว่าขึ้น 2 ขีด สามารถขอรับยาที่ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกอบอุ่น หรือโรงพยาบาลที่ตนเองมีสิทธิ์ได้เลย เหตุที่ต้องดูตามสิทธิ์เพราะว่าแต่ละที่จะได้ดูแลผู้ป่วยได้ทั่วถึง สำหรับ รพ.ราชพิพัฒน์ สิทธิ์บัตรทองสามารถรับบริการได้ กลุ่มที่ทำ ATK มาแล้วเป็นบวกให้นำผลมายื่น เจ้าหน้าที่จะอธิบายข้อมูลเพื่อเข้าขั้นตอนการรับยา ส่วนกลุ่มที่ไม่มั่นใจหรือตรวจด้วยตัวเองไม่เป็น สามารถมาขอตรวจ ATK ได้เช่นกัน

สำหรับกลุ่มเสี่ยง 608 ถ้ามีผลบวกมา จะมีพยาบาลคัดกรอง ถ้ามีอาการมาก แพทย์ประเมินแล้วจะให้นอนโรงพยาบาล โดยแบ่งเตียงเขียว เตียงเหลือง เตียงแดง ตามอาการ ปัจจุบันมีเตียงเหลือง-แดง 1,200 เตียง เตียงเขียว ประมาณ 300 เตียง และขยายเป็น 500 เตียง ตอนนี้ครองเตียงไม่ถึง 50% แต่ก็ไม่ประมาท ปัจจุบันก็ติดกันคล้าย ๆ โรคหวัด แต่ก็ต้องระวังตัว โดยเฉพาะกลุ่ม 608 และควรแยกกักตัวจากคนในบ้าน กลุ่มสีเขียว รักษาตามอาการ ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการมากขึ้น จะให้ยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ติดเชื้อโควิดยังให้รักษาอาการ 10 วัน และสามารถขอใบรับรองแพทย์ได้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการรักษา

จากคาดการณ์สถิติที่คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุข และองค์การเภสัชกรรม ได้ประสานกับ กทม. เตรียมจัดยาไว้พร้อม ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์จะสตอกยาล่วงหน้าไว้ประมาณ 10 วัน บริการผู้ป่วยนอกได้วันละ 300-400 คน สำหรับการเดินทางมาก็จะต้องป้องกันทั้งตนเองและผู้อื่น และเมื่อกลับบ้านไปก็ต้องแยกกับคนในบ้าน ระวังการติดกลุ่มเสี่ยง 608 รวมถึงกลุ่มเด็ก สำหรับการป้องกันนั้น เราสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ถ้ารู้ตัวว่าไปใกล้ชิดสัมผัสกลุ่มเสี่ยง กลับบ้านมาก็ควรใส่หน้ากากอนามัยด้วย แม้ตรวจ ATK ไม่พบ ก็อาจจะแพร่เชื้อได้ สำหรับ Hospitel ตอนนี้ยังปิด เพราะว่ากลุ่มสีเขียวสามารถดูแลตัวเองได้ค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็มีโรงพยาบาลสนามให้ ถ้าใครติดเชื้อตอนนี้ก็อย่าไปตกใจแต่ต้องตระหนักว่าเราสามารถแพร่เชื้อให้กลุ่มเปราะบางได้ อย่าลืมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ


จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เยี่ยมชมศูนย์วิทยุและหน่วยกู้ชีพ และคลินิกประกันสังคม พร้อมชูโมเดล Sandbox มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนระบบสาธารณสุข การจัดบริการปฐมภูมิ การส่งต่อ การดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง โดยประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเชื่อมโยงข้อมูลด้านบริการ การส่งต่อและการดูแลต่อเนื่องอย่างเป็นระบบในพื้นที่พิเศษเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ คือ เขตบางแค เขตหนองแขม เขตทวีวัฒนา เขตตลิ่งชัน และเขตภาษีเจริญ (Sandbox area base) ให้ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงง่าย ทั่วถึง และครอบคลุมอย่างเป็นองค์รวม ตั้งแต่การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การดูแลรักษา ฟื้นฟู และดูแลต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ จะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพและลดภาระของโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ได้ ประชาชนในทุกชุมชนจะได้รับการรักษาที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพและเท่าเทียมกัน ส่งผลให้สุขภาพชุมชนดีขึ้นตามวัตถุประสงค์ของระบบนี้ คือเน้นความเข้มแข็งของระบบปฐมภูมิ ทำให้ระบบเส้นเลือดฝอยกระจายไปทั่วและประชาชนสามารถเข้าถึงการสาธารณสุขได้ง่าย ซึ่งระบบปฐมภูมิจะมีความเข้มแข็ง ยกตัวอย่างเช่น โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกอบอุ่นมี telemedicine คือ การให้บริการด้านสาธารณสุขกับประชาชน โดยบุคลากรทางการแพทย์ ผ่านทางเทคโนโลยีและการสื่อสารแบบ Video conference เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัย การรักษา และการป้องกันโรค โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่ ซึ่งในภาษาไทยจะเรียกว่า โทรเวชกรรม หรือระบบแพทย์ทางไกล คนไข้ไม่ต้องเดินทางจากคลินิกอบอุ่นไปโรงพยาบาล สามารถคุยกันผ่าน telemedicine ได้ ซึ่งเริ่มทำแล้วตอนนี้ นอกจากนี้ยังมีรถ telemedicine สำหรับตรวจสุขภาพ เข้าไปยังชุมชนที่อาจจะเข้าถึงยาก หรือมีผู้ป่วยติดเตียงจำนวนมากที่เดินทางลำบาก

“หน้าที่ผมคือเตรียมทรัพยากรให้คุณหมอ ขาดเหลืออะไรก็ต้องบอกเลย เราก็อุ่นใจที่มีทีมงานเข้าใจระบบ และทำงานร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขอื่นได้ เป็นแม่งานในการจ่ายยา ต้องคุย ต้องแบ่งงานกัน อย่างวันหยุดหมอก็ไม่ได้หยุดหรอก 5 วัน สิ่งสำคัญคือต้องเราบทเรียนมาพัฒนา อย่าให้ทุกอย่างกลับไปเหมือนก่อนโควิด ทุกอย่างเป็นบทเรียนราคาแพง ต้องปรับปรุงระบบของ กทม. ให้ดี โรคอุบัติใหม่มันจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นเราต้องรับมือ และนำมาเป็นบทเรียน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

ในส่วนของเรื่องวัคซีนเข็มกระตุ้น ของกรุงเทพมหานครสามารถไปฉีดได้ทั้งศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ ซึ่งมีทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นา โดยสามารถจองทาง QueQ และ walk in ได้ด้วย หากมีระยะห่างเข็มล่าสุดเกิน 4 เดือนจากเข็มสุดท้ายควรฉีดเข็มกระตุ้น การที่เราฉีดเพื่อให้เรามีภูมิคุ้มกัน เมื่อเราติดโควิดเราจะได้มีอาการไม่มาก เราจะได้เป็นกลุ่มเขียว ถ้ากลุ่มสีเหลืองและกลุ่มสีแดงมีไม่มากระบบสาธารณสุขและระบบเศรษฐกิจก็จะไปด้วยกันได้หมด สำหรับคนที่ติดโควิดแล้วจะฉีดเข็มกระตุ้นต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งภูมิคุ้มกันจะเริ่มตก สามารถฉีดเข็มกระตุ้นได้ แต่ผู้เข้ารับการฉีดจะต้องมีการเซ็นยินยอม เนื่องจากแต่ละที่จะมีคำแนะนำไม่เหมือนกัน

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีโรคมือเท้าปากว่า นอกจากโควิด-19 แล้ว ตอนนี้เราเริ่มเห็นจำนวนการติดเชื้อโรคมือเท้าปากในเด็กเพิ่มขึ้น ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะเด็กเล็กจะติดเยอะ ต้องระวังแต่อย่าตระหนัก ยังไม่ได้แพร่ระบาดรุนแรงมาก

นพ.ภูริทัต กล่าวเสริมว่า สำหรับโรคมือเท้าปาก คือการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง คือเอนเตอโรไวรัส (Enterovirus) เด็กจะมีอาการไข้ ตุ่มที่ปาก แผลที่ปาก ที่ลิ้น กระพุ้งแก้ม มีตุ่มใส ๆ ที่มือ อาการคล้ายเป็นไข้หวัด เจ็บคอ น้ำมูกได้เล็กน้อย ปัจจุบันเน้นการป้องกันและคัดกรองทั้งผู้ปกครองและโรงเรียนซึ่งได้มีมาตรการการคัดกรองอยู่แล้ว หารใครเป็นต้องหยุดเรียนและเข้าสู่กระบวนการรักษาเพื่อป้องกันการติดต่อไปสู่คนอื่น ส่วนการป้องกันโรคมือเท้าปากนั้นต้องรักษาสุขอนามัย กินร้อนช้อนกลาง และล้างมือ ป้องกันการติดต่อทางสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย ซึ่งการติดต่อของโรคมือเท้าปากยากกว่าโควิด-19 สามารถป้องกันและสังเกตอาการได้ง่าย สามารถรักษาได้ มีอัตราการเสียชีวิตจากโรคน้อย ซึ่งการเสียชีวิตจะเกิดจากภาวะแทรกซ้อน โดยภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายทำให้เสียชีวิตได้ คือ โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ส่วนภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ผู้ปกครองต้องดูแล คือ เมื่อมีไข้สูงให้เช็ดตัวป้องกันการชัก ถ้ามีอาการไอร่วมด้วยให้เข้าตรวจที่โรงพยาบาล ปัจจุบันโรงพยาบาลราชพิพัฒน์พบผู้ป่วยประมาณ 3-5 คน จากเด็กที่เข้าตรวจทั่วไปประมาณ 50 คน

กรณีเกี่ยวกับผู้ป่วยจากกัญชา ที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ยังไม่พบ แต่โรงพยาบาลได้มีคลินิกแพทย์ทางเลือก มีการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายกลุ่มอาการปวดแต่เดิมใช้มอร์ฟีน ถ้าเกิดนำกัญชามาใช้ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์กับกลุ่มที่เหมาะสมก็จะเป็นประโยชน์ ถือเป็นทางเลือกที่ดี ส่วนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ก็ไม่ให้มีการใช้กัญชาโดยเด็ดขาด

จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจความพร้อมของห้องความดันลบ (Modular ICU) สำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดที่อาการรุนแรง (สีแดง) ณ ชั้น 1 โรงพยาบาลสนามราชพิพัฒน์ 1 (ศูนย์การเรียนรู้ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์) ซึ่งมีทั้งหมด 4 อาคาร รองรับผู้ป่วยได้โควิดได้ทั้งหมด 40 เตียง พร้อมทั้งขอบคุณและให้กำลังบุคลากรทางการแพทย์อย่างเป็นกันเองอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

สหรัฐเรียกร้องไทย-กัมพูชาหยุดยิงทันที

วอชิงตัน 25 ก.ค. – สหรัฐเรียกร้องไทยและกัมพูชาหยุดยิงทันที หลังความขัดแย้งตามแนวชายแดนทวีความรุนแรง จนเกิดความสูญเสียต่อพลเรือน ส่วนจีนส่งเสริมให้เจรจาสันติภาพ ยันยันวางตัวเป็นกลางในความขัดแย้งระหว่างสองชาติพันธมิตรของจีนในอาเซียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ขยายวงกว้าง และแสดงความเสียใจต่อรายงานความสูญเสียของพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้หยุดยิงทันที พร้อมปกป้องชีวิตพลเรือนและแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงในกรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน และเป็นสมาชิกที่สำคัญของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน มิตรภาพอันดีระหว่างเพื่อนบ้านและการจัดการความแตกต่างอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานและผลประโยชน์ระยะยาวของทั้งสองฝ่าย จีนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างถูกต้องผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ จีนจะยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ กรณีพิพาทชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงธรรม เขากล่าวอีกว่า จากมุมมองของผลประโยชน์ร่วมกันและความต้องการของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค จีนยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเป็นกลาง และยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพในแบบของตนเองต่อไป เพื่อมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการลดระดับและลดความตึงเครียดลง ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายระมัดระวังต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่อาจได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง รักษาช่องทางการสื่อสารให้เปิดกว้าง และพยายามลดความตึงเครียดลงโดยเร็ว แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่า ฟิลิปปินส์ ไม่ได้มีจุดยืนฝักใฝ่ฝ่ายใดในข้อพิพาทนี้ แต่ขอย้ำถึงความสำคัญของการคงไว้ซึ่งการสื่อสารที่เปิดกว้าง และการลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ พร้อมแสดงความหวังว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยสันติ ใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นกรอบในการเจรจาและยุติข้อพิพาทด้านสถานทูตต่างชาติหลายแห่ง ออกคำเตือนประชาชนของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น สถานทูตของสหรัฐในประเทศไทย เตือนพลเมืองของตัวเองที่อาจจะทำงานหรืออาศัยอยู่ในจังหวัดที่ติดกับชายแดน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด ขณะที่เว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สำนักงานต่างประเทศ […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย