สื่อมวลชนขนทัพรับคำท้า ลงแปลงปลูกกับผู้ว่าฯ ชัชชาติ

เขตบางบอน 10 ก.ค.- ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขอบคุณสื่อมวลชน 30 สำนัก ร่วมกิจกรรม Kick off ผู้ว่าฯ ท้าสื่อ ปลูกต้นไม้ล้านต้น ระบุถ้าไม่ทำวันนี้ อนาคตก็ไม่มีต้นไม้ให้ลูกให้หลานเรา


“เราเห็นต้นไม้ที่เห็นสูงพวกนี้ คือ คนในอดีตปลูกทั้งนั้น เมื่อสิบปีก่อน ยี่สิบปีก่อน ถ้าเราไม่ทำวันนี้ อนาคตก็ไม่มีต้นไม้ให้ลูกให้หลานเรา ที่จะให้ร่มเงา ที่จะกรองฝุ่น ที่จะดูดซับก๊าซเรือนกระจก ก็เป็นนิมิตหมายอันดี และเป็นโครงการระยะยาว ต้องขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนจาก 30 สำนักข่าว ที่มาร่วมปลูกต้นไม้ในวันนี้” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม Kick off ผู้ว่าฯ ท้าสื่อ ปลูกต้นไม้ล้านต้น

สำหรับกิจกรรม “Kick off ผู้ว่าฯ ท้าสื่อ ปลูกต้นไม้ล้านต้น” ในวันนี้ (10 ก.ค. 65) เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมพลังคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเขตบางบอน ทีมนักประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานครจากสำนักและสำนักงานเขต พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักข่าว สื่อมวลชน และประชาชน ร่วมปลูกต้นไม้จำนวน 1,000 ต้น ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เขตบางบอน (สวน 9 เนิน เดินตามรอยพ่อ)


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าสำหรับนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น ช่วงแรกอาจจะมีคนคิดว่าทำไม่ได้จริง แต่เพียง 1 เดือนผ่านไป หลายคนก็เปลี่ยนความคิด เพราะไม่ใช่เพียง กทม.เป็นผู้ปลูก แต่เป็นความร่วมมือร่วมใจกันของทุกคนในกรุงเทพฯ ซึ่งโครงการปลูกต้นไม้ไม่ใช่โครงการระยะสั้น แต่เป็นโครงการระยะยาว วันนี้ก็มีสื่อมวลชนหลายสำนักยินดีมาร่วมกัน ซึ่งเรื่องจำนวนไม่ใช่สำคัญ ที่สำคัญคือการมีส่วนร่วม การปลูกฝังจิตสำนึกของการดูแลเมือง การร่วมมือกันทำเมืองให้ดีขึ้น นี่คือมิติที่สำคัญที่อยากจะส่งต่อออกไป เพราะกรุงเทพมีสิ่งดี ๆ สิ่งที่สวยงามอีกเยอะ เพียงแค่เราช้าลงสักนิดหนึ่ง มองสิ่งดี ๆ สิ่งสวยงามรอบตัวเรา และมีสื่อมวลชนช่วยกันเผยแพร่สิ่งเหล่านี้ ก็จะสร้างพลังบวกให้กับเมือง เราจะเปลี่ยนเมืองได้หากเราร่วมมือร่วมใจกัน แค่ปลูกคนละต้น ให้เราก็โตไปพร้อมกับต้นไม้ ก็จะทำให้เมืองเราดีขึ้นแล้ว

สำหรับนโยบาย “ปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง” ได้มีการเชิญชวนภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การปลูกต้นไม้ล้านต้นร่วมกับกรุงเทพมหานคร ซึ่ง “สื่อมวลชน” คืออีกหนึ่งกลุ่มที่เห็นถึงประโยชน์ในการปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวให้เมืองหลวง จึงได้ร่วมแสดงความจำนง “รับคำท้า” ของผู้ว่าฯ ชัชชาติ กันอย่างล้นหลาม โดยขณะนี้มีสื่อมวลชนแจ้งความประสงค์ร่วมปลูกต้นไม้กับกทม.แล้ว 19,090 ต้น ดังนี้ Thai PBS 1,000 ต้น / ช่อง 3 1,000 ต้น / Voice TV 1,390 ต้น / เดลินิวส์ 1,000 ต้น / บ้านและสวน 1,000 ต้น / THE STANDARD 5,000 ต้น / WORKPOINT GROUP 1,500 ต้น / Nation Group 2,200 ต้น / sanook.com (สนุกดอทคอม) 1,000 ต้น / The Reporters 1,000 ต้น / ไทยรัฐ 3,000 ต้น โดยต้นไม้ที่สำนักข่าวต่าง ๆ แสดงความประสงค์ร่วมบริจาค จะทยอยปลูกจนครบในช่วงระยะเวลา 4 ปี

ในส่วนของกิจกรรม “Kick off ผู้ว่าฯ ท้าสื่อ ปลูกต้นไม้ล้านต้น” ในวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ ที่มีหมุดหมายสำคัญเพื่อแสดงพลังแห่งความร่วมมือร่วมใจของกรุงเทพมหานครและพี่น้องสื่อมวลชนกว่า 300 ชีวิต ที่ทุ่มเทสรรพกำลัง แรงกายและแรงใจร่วมกันปลูกต้นไม้ จำนวน 1,000 ต้น ประกอบด้วยต้นกล้า 11 ชนิด ได้แก่ ต้นประดู่ป่า ต้นประดู่ ต้นอินทนิลน้ำ ต้นตะเคียนทอง ต้นมะค่าโมง ต้นพะยูง ต้นแคนา ต้นยางนา ต้นพยอม ต้นมะฮอกกานี และต้นมะฮอกกานีใบใหญ่ ในพื้นที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เขตบางบอน (สวน 9 เนิน เดินตามรอยพ่อ) ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่แห่งเดียวของเขตบางบอน มีพื้นที่ 100 ไร่ อยู่ในพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ปัจจุบันกรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแล โดยนอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มีต้นไม้ร่มรื่นแล้ว ยังเป็นสถานที่ออกกำลังกาย มีสนามกีฬา สนามเด็กเล่น แหล่งเรียนรู้ตามวิถีธรรมชาติ อีกทั้งยังมีแก้มลิง การบำบัดน้ำตามธรรมชาติ การทำเกษตร และสวนสุขภาพ


โดยในวันนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ปลูกต้นแคนา ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง มีความสูงของต้นประมาณ 10-20 เมตร ทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี เหมือนดั่งผู้ว่าฯ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตามความเชื่อของคนไทย หากปลูกต้นแคนาไว้หน้าบ้านจะช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต จะมีผู้คอยอุปถัมภ์ค้ำชูเพราะคำว่า แค หมายถึง การดูแลเอาใจใส่ หากทำมาค้าขายก็จะเจริญรุ่งเรืองด้วย

ทั้งนี้ นโยบาย “ปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง” มีเป้าประสงค์ 5 ประการ ได้แก่ 1. ปลูกเพื่อลดฝุ่นและมลพิษ 2. ปลูกให้เกิดร่มเงาในการใช้ชีวิต 3. ปลูกเพื่อส่งเสริมความหลากหลายของระบบนิเวศเมือง 4. ปลูกให้ชุมชนมีรายได้ สนับสนุนชุมชนเกษตรกรรมในกรุงเทพฯ และ 5. ปลูกให้คนและต้นไม้โตไปพร้อม ๆ กัน โดยกำหนดจัดกิจกรรมร่วมกันปลูกต้นไม้ทุกวันอาทิตย์ ให้วันอาทิตย์เป็นวันปลูกต้นไม้กรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันมีผู้แสดงความจำนงร่วมปลูกต้นไม้กับกรุงเทพมหานครแล้วมากกว่า 1 ล้าน 3 แสนต้น ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้จัดทำแดชบอร์ด “ศูนย์รายงานการปลูกต้นไม้” ทางเว็บไซต์ www.bkk1milliontrees.com สำหรับติดตามผลการดำเนินโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น แผนที่แสดงจุดและจำนวนต้นไม้ที่ได้ปลูกไปแล้ว และรายงานการปลูกต้นไม้ ซึ่งประกอบด้วย ต้นไม้ทั้งหมดที่ปลูกแล้ว ยอดจองปลูกต้นไม้ ประเภทต้นไม้ที่ปลูกไปแล้ว (ไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้เลื้อย) รวมถึงมีช่องทางแจ้งความประสงค์ร่วมโครงการของหน่วยงานและภาคเอกชน ส่วนช่องทางการร่วมโครงการสำหรับประชาชน อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนเปิดให้ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบเร็ว ๆ นี้ โดยจะมีการเพิ่มปฏิทินกิจกรรมการปลูกต้นไม้ล่วงหน้า 2 เดือน (8 สัปดาห์) เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาดูตารางกิจกรรมและแสดงความประสงค์ขอร่วมกิจกรรมได้ต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]