สื่อมวลชนขนทัพรับคำท้า ลงแปลงปลูกกับผู้ว่าฯ ชัชชาติ

เขตบางบอน 10 ก.ค.- ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขอบคุณสื่อมวลชน 30 สำนัก ร่วมกิจกรรม Kick off ผู้ว่าฯ ท้าสื่อ ปลูกต้นไม้ล้านต้น ระบุถ้าไม่ทำวันนี้ อนาคตก็ไม่มีต้นไม้ให้ลูกให้หลานเรา


“เราเห็นต้นไม้ที่เห็นสูงพวกนี้ คือ คนในอดีตปลูกทั้งนั้น เมื่อสิบปีก่อน ยี่สิบปีก่อน ถ้าเราไม่ทำวันนี้ อนาคตก็ไม่มีต้นไม้ให้ลูกให้หลานเรา ที่จะให้ร่มเงา ที่จะกรองฝุ่น ที่จะดูดซับก๊าซเรือนกระจก ก็เป็นนิมิตหมายอันดี และเป็นโครงการระยะยาว ต้องขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนจาก 30 สำนักข่าว ที่มาร่วมปลูกต้นไม้ในวันนี้” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม Kick off ผู้ว่าฯ ท้าสื่อ ปลูกต้นไม้ล้านต้น

สำหรับกิจกรรม “Kick off ผู้ว่าฯ ท้าสื่อ ปลูกต้นไม้ล้านต้น” ในวันนี้ (10 ก.ค. 65) เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมพลังคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเขตบางบอน ทีมนักประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานครจากสำนักและสำนักงานเขต พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักข่าว สื่อมวลชน และประชาชน ร่วมปลูกต้นไม้จำนวน 1,000 ต้น ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เขตบางบอน (สวน 9 เนิน เดินตามรอยพ่อ)


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าสำหรับนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น ช่วงแรกอาจจะมีคนคิดว่าทำไม่ได้จริง แต่เพียง 1 เดือนผ่านไป หลายคนก็เปลี่ยนความคิด เพราะไม่ใช่เพียง กทม.เป็นผู้ปลูก แต่เป็นความร่วมมือร่วมใจกันของทุกคนในกรุงเทพฯ ซึ่งโครงการปลูกต้นไม้ไม่ใช่โครงการระยะสั้น แต่เป็นโครงการระยะยาว วันนี้ก็มีสื่อมวลชนหลายสำนักยินดีมาร่วมกัน ซึ่งเรื่องจำนวนไม่ใช่สำคัญ ที่สำคัญคือการมีส่วนร่วม การปลูกฝังจิตสำนึกของการดูแลเมือง การร่วมมือกันทำเมืองให้ดีขึ้น นี่คือมิติที่สำคัญที่อยากจะส่งต่อออกไป เพราะกรุงเทพมีสิ่งดี ๆ สิ่งที่สวยงามอีกเยอะ เพียงแค่เราช้าลงสักนิดหนึ่ง มองสิ่งดี ๆ สิ่งสวยงามรอบตัวเรา และมีสื่อมวลชนช่วยกันเผยแพร่สิ่งเหล่านี้ ก็จะสร้างพลังบวกให้กับเมือง เราจะเปลี่ยนเมืองได้หากเราร่วมมือร่วมใจกัน แค่ปลูกคนละต้น ให้เราก็โตไปพร้อมกับต้นไม้ ก็จะทำให้เมืองเราดีขึ้นแล้ว

สำหรับนโยบาย “ปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง” ได้มีการเชิญชวนภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การปลูกต้นไม้ล้านต้นร่วมกับกรุงเทพมหานคร ซึ่ง “สื่อมวลชน” คืออีกหนึ่งกลุ่มที่เห็นถึงประโยชน์ในการปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวให้เมืองหลวง จึงได้ร่วมแสดงความจำนง “รับคำท้า” ของผู้ว่าฯ ชัชชาติ กันอย่างล้นหลาม โดยขณะนี้มีสื่อมวลชนแจ้งความประสงค์ร่วมปลูกต้นไม้กับกทม.แล้ว 19,090 ต้น ดังนี้ Thai PBS 1,000 ต้น / ช่อง 3 1,000 ต้น / Voice TV 1,390 ต้น / เดลินิวส์ 1,000 ต้น / บ้านและสวน 1,000 ต้น / THE STANDARD 5,000 ต้น / WORKPOINT GROUP 1,500 ต้น / Nation Group 2,200 ต้น / sanook.com (สนุกดอทคอม) 1,000 ต้น / The Reporters 1,000 ต้น / ไทยรัฐ 3,000 ต้น โดยต้นไม้ที่สำนักข่าวต่าง ๆ แสดงความประสงค์ร่วมบริจาค จะทยอยปลูกจนครบในช่วงระยะเวลา 4 ปี

ในส่วนของกิจกรรม “Kick off ผู้ว่าฯ ท้าสื่อ ปลูกต้นไม้ล้านต้น” ในวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ ที่มีหมุดหมายสำคัญเพื่อแสดงพลังแห่งความร่วมมือร่วมใจของกรุงเทพมหานครและพี่น้องสื่อมวลชนกว่า 300 ชีวิต ที่ทุ่มเทสรรพกำลัง แรงกายและแรงใจร่วมกันปลูกต้นไม้ จำนวน 1,000 ต้น ประกอบด้วยต้นกล้า 11 ชนิด ได้แก่ ต้นประดู่ป่า ต้นประดู่ ต้นอินทนิลน้ำ ต้นตะเคียนทอง ต้นมะค่าโมง ต้นพะยูง ต้นแคนา ต้นยางนา ต้นพยอม ต้นมะฮอกกานี และต้นมะฮอกกานีใบใหญ่ ในพื้นที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เขตบางบอน (สวน 9 เนิน เดินตามรอยพ่อ) ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่แห่งเดียวของเขตบางบอน มีพื้นที่ 100 ไร่ อยู่ในพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ปัจจุบันกรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแล โดยนอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มีต้นไม้ร่มรื่นแล้ว ยังเป็นสถานที่ออกกำลังกาย มีสนามกีฬา สนามเด็กเล่น แหล่งเรียนรู้ตามวิถีธรรมชาติ อีกทั้งยังมีแก้มลิง การบำบัดน้ำตามธรรมชาติ การทำเกษตร และสวนสุขภาพ


โดยในวันนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ปลูกต้นแคนา ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง มีความสูงของต้นประมาณ 10-20 เมตร ทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี เหมือนดั่งผู้ว่าฯ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตามความเชื่อของคนไทย หากปลูกต้นแคนาไว้หน้าบ้านจะช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต จะมีผู้คอยอุปถัมภ์ค้ำชูเพราะคำว่า แค หมายถึง การดูแลเอาใจใส่ หากทำมาค้าขายก็จะเจริญรุ่งเรืองด้วย

ทั้งนี้ นโยบาย “ปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง” มีเป้าประสงค์ 5 ประการ ได้แก่ 1. ปลูกเพื่อลดฝุ่นและมลพิษ 2. ปลูกให้เกิดร่มเงาในการใช้ชีวิต 3. ปลูกเพื่อส่งเสริมความหลากหลายของระบบนิเวศเมือง 4. ปลูกให้ชุมชนมีรายได้ สนับสนุนชุมชนเกษตรกรรมในกรุงเทพฯ และ 5. ปลูกให้คนและต้นไม้โตไปพร้อม ๆ กัน โดยกำหนดจัดกิจกรรมร่วมกันปลูกต้นไม้ทุกวันอาทิตย์ ให้วันอาทิตย์เป็นวันปลูกต้นไม้กรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันมีผู้แสดงความจำนงร่วมปลูกต้นไม้กับกรุงเทพมหานครแล้วมากกว่า 1 ล้าน 3 แสนต้น ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้จัดทำแดชบอร์ด “ศูนย์รายงานการปลูกต้นไม้” ทางเว็บไซต์ www.bkk1milliontrees.com สำหรับติดตามผลการดำเนินโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น แผนที่แสดงจุดและจำนวนต้นไม้ที่ได้ปลูกไปแล้ว และรายงานการปลูกต้นไม้ ซึ่งประกอบด้วย ต้นไม้ทั้งหมดที่ปลูกแล้ว ยอดจองปลูกต้นไม้ ประเภทต้นไม้ที่ปลูกไปแล้ว (ไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้เลื้อย) รวมถึงมีช่องทางแจ้งความประสงค์ร่วมโครงการของหน่วยงานและภาคเอกชน ส่วนช่องทางการร่วมโครงการสำหรับประชาชน อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนเปิดให้ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบเร็ว ๆ นี้ โดยจะมีการเพิ่มปฏิทินกิจกรรมการปลูกต้นไม้ล่วงหน้า 2 เดือน (8 สัปดาห์) เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาดูตารางกิจกรรมและแสดงความประสงค์ขอร่วมกิจกรรมได้ต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]

Los Angeles mayor issues curfew for downtown Los Angeles

นายกฯ เล็กแอลเอประกาศเคอร์ฟิว

ลอสแอนเจลิส 11 มิ.ย.- นางแคเรน แบสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส (LA) ประกาศมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ย่านใจกลางเมือง หลังจากมีการทำลายทรัพย์สินในวงกว้างจากเหตุประท้วงต่อต้านเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง นางแบสส์แถลงว่า เคอร์ฟิวจะมีผลครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 1 ตารางไมล์หรือราว 2.6 ตารางกิโลเมตรจากย่านใจกลางเมือง ตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันที่ 10 มิถุนายนจนถึงเวลา 06.00 น.วันที่ 11 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 14 ชั่วโมง  ก่อนหน้านี้เธอย้ำระหว่างการแถลงข่าวว่า เหตุไม่สงบเกิดขึ้นอย่างจำกัดในบางพื้นที่เท่านั้น ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ประท้วงอย่างสันติ มีเพียงกลุ่มปลุกปั่นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นที่ก่อเหตุรุนแรงและฉกชิงทรัพย์สิน การประท้วงในแอลเอเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐหรือไอซ์ (ICE) กวาดจับผู้อพยพลอบเข้าเมือง กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิแจ้งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนว่า ไอซ์จับกุมผู้ลอบเข้าเมืองได้วันละ 2,000 คน มากกว่าสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนที่จับกุมเฉลี่ยวันละ 311 คนในปีงบประมาณ 2567 ตำรวจแจ้งว่า เมื่อวานนี้จับกุมผู้ชุมนุม 197 คน […]

นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ดอนเมือง 11 มิ.ย.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจกำลังพล กองกำลังสุรนารี และพบปะประชาชนที่ด่านช่องจอม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จากนั้น เวลา 11.05 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปเป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์การคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ณ ห้องประชุมอัมพรพิมาน โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี […]

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]