กรมควบคุมโรค เตือนระวังโรคที่มากับหนู

กรุงเทพฯ 7 ก.ค. – กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนให้ระวังภัยอันตรายที่มากับหนู เช่น การถูกหนูกัดตามร่างกาย การกัดแทะทำลายข้าวของ และการติดโรคที่มากับหนู ได้แก่ โรคฉี่หนู กาฬโรค (จากหมัดหนู) สครับไทฟัส (จากไรหนู) เป็นต้น โดยเฉพาะโรคฉี่หนู ซึ่งติดต่อจากสัตว์สู่คนที่มักพบการระบาดในช่วงฤดูฝนและพื้นที่น้ำท่วมขัง


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าจากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปฝูงหนูท่อจำนวนนับร้อยตัวบุกแฟลตดินแดงนั้น อาจมีหลายปัจจัยที่ทำให้หนูชุกชุม เช่น มีเศษอาหารหรือกองขยะที่เป็นแหล่งอาหารมากมายสำหรับหนู ประกอบกับช่วงนี้มีฝนตกต่อเนื่องเกิดน้ำท่วมขัง ทำให้หนูมีการย้ายที่อยู่ขึ้นมาข้างบนพื้นผิวถนนเพื่อหนีน้ำ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ขอเตือนประชาชนให้ระวังภัยอันตรายและโรคที่มากับหนู ได้แก่ โรคฉี่หนู (จากตัวหนู) กาฬโรค (จากหมัดหนู) สครับไทฟัส (จากไรหนู) ฮันตาไวรัส โรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หนูกัด รวมทั้งโรคพยาธิต่าง ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะโรคฉี่หนู ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน พบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด เช่น โค กระบือ สุกร สุนัข และหนู ซึ่งเป็นพาหะนำโรคที่สำคัญ

โรคไข้ฉี่หนูสามารถติดต่อได้ทั้งทางตรง ได้แก่ การสัมผัสกับปัสสาวะหรืออวัยวะของสัตว์ที่ติดเชื้อ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักติดโรคทางอ้อม ได้แก่ การกินน้ำหรืออาหารที่มีเชื้อปนเปื้อน การเดินลุยน้ำย่ำดินที่ชื้นแฉะและมีเชื้อปนเปื้อน โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน น้ำฝนจะชะล้างพาเชื้อโรคที่มากับปัสสาวะของสัตว์ไหลมาร่วมกันในบริเวณน้ำท่วมขัง ทำให้คนที่อยู่บริเวณนี้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เมื่อคนรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จะมีระยะฟักตัวประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยเริ่มแรกจะมีไข้เฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่น่อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ตาแดง ต่อมาจะมีอาการรุนแรง เช่น ตัวเหลือง ตาเหลือง ไตวาย ไอเป็นเลือด หายใจลำบาก และเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งโรคนี้มียารักษาที่เฉพาะเจาะจง หากได้รับการรักษาทันท่วงทีจะป้องกันการเสียชีวิตได้ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักซื้อยามากินเอง เนื่องจากอาการเริ่มแรกคล้ายกับโรคไข้หวัดหรือโรคติดเชื้ออื่น ๆ กว่าจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องก็มีอาการรุนแรงมากจนนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด


ทั้งนี้ จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคเลปโตสโรสิส กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบผู้ป่วยเฉลี่ยปีละ 2,500 ราย เสียชีวิต 40 ราย โดยพบผู้ป่วยมากที่ภาคใต้ รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ตามลำดับ กลุ่มเสี่ยงส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร เช่น ชาวนา ชาวสวน คนหาปลาตามแหล่งน้ำ คนเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งผู้ประสบอุทกภัยหรืออยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง สำหรับสถานการณ์โรคปี 2565 ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-3 ก.ค.65 พบผู้ป่วย 615 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด เรียงตามลำดับ คือ 45-54 ปี (ร้อยละ 18.21) 35-44 ปี (ร้อยละ 17.72) และ 55-64 ปี (ร้อยละ 14.80) อาชีพส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร (ร้อยละ 35.6) อาชีพรับจ้าง(ร้อยละ 29.3) และกลุ่มนักเรียน (ร้อยละ 15.9)

นพ.โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า หนูถือเป็นสัตว์ตัวการสำคัญที่ทำให้เชื้อโรคฉี่หนูหมุนเวียนอยู่ในคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมได้ อย่างกรณีหนูท่อบุกแฟลตดินแดงนั้น เราต้องมีการควบคุมประชากรหนูโดยยึดหลัก 3 กำจัด คือ 1.กำจัดหนูหรือดักหนูด้วยวิธีต่าง ๆ 2.กำจัดแหล่งอาหารของหนู ได้แก่ หมั่นทำความสะอาดบ้าน อาคาร และบริเวณโดยรอบไม่ให้มีเศษอาหารหรือขยะ ปิดฝาถังขยะให้มิดชิด กำจัดกองขยะเป็นประจำหรือนำไปทิ้งในบริเวณที่เตรียมไว้ ทำความเข้าใจกับประชาชนในการงดให้อาหารหนู หากมีความจำเป็นสามารถใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องควบคุมได้ 3.กำจัดที่อยู่อาศัยของหนู เช่น ปิดรูซอกอาคาร หรือปิดฝาท่อ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีวิธีการป้องกันตนเองจากโรคฉี่หนูและโรคที่มากับหนูได้ ดังนี้ 1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือเดินเข้าใกล้หนู หากถูกหนูกัดให้รีบไปพบแพทย์ 2.หลีกเลี่ยงการแช่น้ำหรือลุยน้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นให้สวมรองเท้าบู๊ทหรือถุงพลาสติกหุ้มเท้า เมื่อกลับถึงบ้านให้ทำความสะอาดร่างกายทันทีเพื่อลดการสัมผัสเชื้อ 3.กินอาหารสุกใหม่ เก็บอาหารให้มิดชิด หลีกเลี่ยงการกินอาหารค้างคืนโดยไม่มีภาชนะปิด 4.หากมีอาการสงสัยโรคฉี่หนูให้รีบไปพบแพทย์ทันที จะช่วยป้องกันการเสียชีวิตได้ กรณีมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น