สปสช.ย้ำเปลี่ยนแหล่งเงินดูแลโควิด ไม่กระทบการให้บริการ ปชช.

กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – สปสช.ย้ำการเปลี่ยนแหล่งงบประมาณสำหรับโรคโควิด-19 จาก พ.ร.ก.เงินกู้ มาเป็นงบปกติของ สปสช. ไม่กระทบกับการให้บริการประชาชน แนะถ้ามีอาการให้ติดต่อหน่วยบริการใกล้บ้านรับการรักษาตามระบบปกติ ส่วนโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกเครือข่ายบัตรทองให้ไปเมื่อมีอาการฉุกเฉิน


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 65 เป็นต้นมา สปสช. ได้มีการปรับระบบการจ่ายชดเชยค่าบริการเกี่ยวกับโรคโควิด-19 โดยเปลี่ยนแปลงที่มาของงบประมาณที่จ่ายสำหรับโรคนี้ จากเดิมที่จัดสรรมาจาก พ.ร.ก.เงินกู้ เป็นใช้เงินจากงบประมาณประจำของ สปสช. ที่ยังเหลืออยู่ แต่จะไม่กระทบกับการให้บริการประชาชน รวมทั้งขอแนะนำให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไปรับการรักษาตามระบบที่ตนมีสิทธิ หากเป็นผู้ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท นอกจากจะเข้ารับบริการที่หน่วยบริการประจำของตนแล้ว ยังเข้ารักษาที่หน่วยบริการปฐมภูมิทุกแห่งตามนโยบาย 30 รักษาทุกที่ รวมถึงเข้ารับบริการในหน่วยบริการที่อยู่ในเครือข่ายระบบบัตรทอง ซึ่งก็คือโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง ส่วนโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกระบบ ควรเข้ารับบริการในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินเป็นหลัก

“เหตุที่ต้องเปลี่ยนแหล่งที่มาของงบประมาณเกี่ยวกับโควิด-19 เพราะตอนเกิดการระบาด หน่วยบริการเตรียมเตียงไว้สำหรับผู้ป่วยโควิดและเลื่อนการให้บริการผู้ป่วยปกติออกไป ทำให้มีงบปกติที่จัดเตรียมไว้เหลืออยู่ และเราก็รู้ว่าการใช้เงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ เป็นภาระของรัฐบาล ดังนั้น เมื่อ สปสช.มีงบเหลือพอจะใช้จ่ายได้ เราจึงเปลี่ยนมาใช้งบประมาณปกติแทน และในกรณีที่งบประมาณปกติไม่เพียงพอ รัฐบาลก็ยินดีสนับสนุนเพิ่มเติมให้ ดังนั้น ประชาชนจึงไม่ต้องกังวลและไม่กระทบกับการให้บริการ” นพ.จเด็จ กล่าว


นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า การกลับมาใช้งบปกติสำหรับโรคโควิด-19 จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงการให้บริการในบางรายการ เช่น การยกเลิกการจ่ายค่าตรวจคัดกรองโควิด-19 แก่โรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกระบบ ส่วนโรงพยาบาลในระบบ ยังคงให้บริการเหมือนเดิม ถ้ามีอาการสงสัยหรือเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงตามหลักเกณฑ์ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ต้องการตรวจ ATK หรือตรวจแล้วติดเชื้อโควิด-19 ต้องไปรับการรักษา สปสช.ยังคงตามจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แก่หน่วยบริการ

“ส่วนโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกระบบจะเรียกเก็บเงินจาก สปสช.ได้ในกรณีการให้บริการฉุกเฉิน ซึ่งส่วนใหญ่คืออาการเชื้อลงปอด แต่ถ้าไม่มีอาการ เราแนะนำให้ประชาชนรักษาตามระบบ ใครใช้ประกันสังคมก็ใช้สิทธิตามระบบประกันสังคม ถ้าสิทธิบัตรทอง โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งอยู่ในระบบบัตรทองทั้งหมด รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชนอีกบางส่วน สามารถเข้าไปรับบริการได้ตามระบบ ซึ่งจะมีสถานบริการใกล้บ้านที่ผู้ใช้สิทธิลงทะเบียนไว้อยู่แล้ว หรือถ้าไม่รู้ว่าไปที่ไหนได้บ้างก็สามารถโทรมาที่สายด่วน 1330 หรือถ้าบ้านอยู่ที่หนึ่งแล้วมาทำงานอีกที่ ก็ไปใช้บริการในพื้นที่นั้นได้ตามนโยบายยกระดับบัตรทองซึ่งสามารถไปรับบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้” นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า สำหรับความพร้อมของระบบบริการหลังจากเปลี่ยนมาใช้สิทธิตามระบบ กระทรวงสาธารณสุขได้ยืนยันว่ามีความพร้อม ขณะนี้ผู้ป่วยที่มารับบริการส่วนมากจะเป็นแบบ “เจอ แจก จบ” แต่เพื่อความมั่นใจ สปสช. ยังคงเตรียมงบประมาณสำหรับการดูแลแบบ Home Isolation หรือ Home Ward สำหรับกรณีที่ต้องนอนโรงพยาบาลแล้วเตียงในโรงพยาบาลไม่พอ หรือผู้ป่วยไม่สะดวกนอนโรงพยาบาล แพทย์สามารถสั่งให้ไปรับการรักษาแบบ Home Isolation หรือ Home Ward ที่บ้านได้ สปสช.จะตามจ่ายให้เช่นเดิม


“ขณะที่สายด่วน สปสช. 1330 ยังให้บริการช่วยเหลือประชาชน อย่างไรก็ตามเมื่อติดโควิดแล้วไม่จำเป็นต้อง โทร.แจ้งสายด่วน 1330 แต่หากมีข้อสงสัยว่าเมื่อติดเชื้อโควิดจะต้องทำอย่างไร โทร.มาสอบถามขั้นตอนได้ หรือหากมีอาการแย่ลง ต้องการประสานหาเตียงเข้ารักษาในโรงพยาบาลก็โทรมาได้เช่นกัน” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]

พนังกั้นน้ำขาด ทะลักท่วมนาข้าว-ถนนถูกตัดขาด

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – ผลพวงอุทกภัยจากพายุหนองฟ้า ทำพนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทรุดตัวและขาด ส่งผลมวลน้ำทะลักท่วมนาข้าวเกือบพันไร่ เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ภาพนาทีน้ำจากตอนบนในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ทำให้พนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ ถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดและขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร และเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้าน 3 ตำบล คือ ต.ขวาว, ต.นางาม และ ต.นางาม ชาวบ้านและผู้นำชุมชนต้องระดมเครื่องจักรกล ถุงบิ๊กแบ็ก เข้าอุดพนังที่ขาด เพราะวิตกว่ามวลน้ำจำนวนมากจะทำให้นาข้าวที่กำลังหว่านปุ๋ยรับรวง จำนวนเกือบ 1,000 ไร่ เสียหาย จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ ปภ. ประสานนำเครื่องจักรกลหนักเข้าเสริมกั้นน้ำ นำถุงบิ๊กแบ็ก 280 ถุง เข้า จัดวาง […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย