โอมิครอน BA.4 และ BA.5 มีผลต่อวัคซีน

สธ. 29 มิ.ย. – กรมควบคุมโรค ชี้แแม้โควิดป่วยพุ่ง แต่อัตราตาย 0.07% น้อยกว่าหวัดใหญ่ รับโอมิครอน BA.4 และ BA.5 ทำวัคซีนทุกยี่ห้อประสิทธิภาพลด แต่ยังป้องกันป่วยหนักได้ ย้ำกลุ่มเปราะบาง 608 คนที่มีอาชีพพบปะผู้คนเยอะควรรับวัคซีนต่อเนื่องทุก 4 เดือน


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ว่า คาดว่าการติดเชื้อที่มีการรายงานทั่วโลก 550 ล้านคน ไม่ใช่ตัวเลขติดเชื้อจริง เนื่องจากบางคนก็ไม่แสดงอาการ จึงคาดการณ์ว่า น่าจะมีตัวเลขผู้ป่วยสูงกว่ารายงานประมาณ 7-8 เท่า ส่วนในประเทศไทย แนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นจริง หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ  แต่ไม่ได้รุนแรงเหมือนการระบาดช่วงสายพันธุ์เดลตา และโอมิครอนในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อขณะนี้ไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับตัวเลขผู้ป่วยอาการหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ ปอดอักเสบ ผู้เสียชีวิต ซึ่งจะสะท้อนสถานการณ์ว่าจริงๆ แล้วโรครุนแรงหรือไม่ ระบบสาธารณสุขรองรับได้หรือไม่ โดยอัตราเสียชีวิตของโควิดอยู่ที่ 0.07 % เทียบกับไข้หวัดใหญ่ อยู่ที่ 0.1 % ดังนั้น โควิดยังถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าอีกหลายๆ โรค

นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนการพบโอมิครอน BA.4 และ BA.5 ต้องยอมรับทุกครั้งที่ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพวัคซีนทุกชนิดเป็นธรรมดา อัตราป้องกันการติดเชื้อย่อมลดลง แต่ในส่วนอัตราป้องกันการป่วยหนักรุนแรง แม้ลดลงแต่ก็ยังป้องกันได้ดีอยู่ ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องมีการรับวัคซีนเข็มกระตุ้นต่อเนื่อง โดยคนที่ควรรับ คือ คนกลุ่ม 608 คนที่ทำงานพบปะคนจำนวนมาก แพทย์ ตำรวจ ทหาร คนเหล่านี้จำเป็นต้องรับวัคซีนป้องกัน


ทั้งนี้ สำหรับคำแนะนำสำหรับประชาชนปฏิบัติตัวหลังพ้นการระบาดใหญ่ คือ 1.ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ควรรับทุกๆ 4 เดือน 2.แม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แต่การสวมหน้ากากอนามัยถือว่ายังมีประโยชน์โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่รวมกับคนหมู่มาก

นพ.โอภาส ยังกล่าวว่า สำหรับแนวทางการฉีด Evusheld  (อีวูชีลด์) ของแอสตราเซเนกา เพื่อป้องกันโควิด-19 ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันแบบสำเร็จ ซึ่ง อย. อนุมัติไปแล้วนั้น กรมควบคุมโรคได้จัดซื้อแล้ว เบื้องต้นจำนวน 2 แสนโดส แต่ไม่ได้เพิ่มงบประมาณเพื่อจัดซื้อ แต่จะขอเปลี่ยนแปลงสัญญากับทางบริษัทผู้ผลิตเพื่อเปลี่ยนจากวัคซีน มาเป็นยาดังกล่าวแทน ส่วนการนำไปใช้นั้น คณะกรรมการวิชาการในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบให้นำมาใช้ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกัน คือ ผู้ป่วยโรคไต ผู้เปลี่ยนไต ฟอกไต และเนื่องจากเป็นยาใหม่ จึงมีข้อเสนอว่าให้ทำการศึกษาด้วย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง