สน.จักรวรรดิ 29 มิ.ย.- ตัวแทนการไฟฟ้านครหลวง รุดมอบเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหตุเพลิงไหม้สำเพ็ง พร้อมรับปากพัฒนาแก้ไขปัญหาสายรุงรังเสาไฟ
นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง และโฆษกการไฟฟ้านครหลวง ได้ไปมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับกลุ่มร้านค้ารถเข็น ซึ่งได้แจ้งความและประเมินค่าเสียหายในขณะเกิดเหตุไว้ที่ สน.จักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ เป็นพ่อค้าแม่ค้า จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายลำไพร จำนวน 17,000 บาท นางสาวสมใจ จำนวน 6,000 บาท และนางแพง จำนวน 13,000 บาท โดยมีพลตำรวจตรีสรเสริญ ใช้สถิตย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 และพันตำรวจเอกนนท์ นุ่มบุญนำ รักษาการผู้กำกับการ สน.จักรวรรดิ ช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวก ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นรายละ 50,000 บาทแล้วเช่นกัน
เบื้องต้นมีผู้เสียหายหลายรายมาแจ้งกับการไฟฟ้านครหลวง เบื้องต้นมีเจ้าของอาคาร 3 ราย ผู้เสียชีวิต 2 ราย เจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 8 ราย และพ่อค้าแม่ค้า อีก 4 ราย หากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมก็สามารถมาแจ้งความประสงค์กับการไฟฟ้านครหลวงได้ ซึ่งจะทยอยช่วยเหลือเยียวยาเป็นราย ๆ ไป
นายจาตุรงค์ ได้กล่าวขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และได้ดำเนินมาตรการเยียวยาเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ประสบเหตุได้รับความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยไม่รอกระบวนการพิสูจน์หลักฐาน
ล่าสุด นอกจากผู้เสียหายในกลุ่มร้านค้ารถเข็นแล้ว ได้ติดต่อให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อให้ความช่วยเหลือกับผู้ได้รับผลกระทบในกลุ่มอื่น ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่สามารถดำเนินการได้และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ
ส่วนกระบวนการทางกฎหมาย ยังต้องรอผลการตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ และมูลค่าความเสียหาย เพื่อให้ความเป็นธรรมสูงสุดต่อผู้ได้รับผลกระทบ โดยขอยืนยันว่าการไฟฟ้านครหลวงจะปรับปรุงแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้นอีก โดยมีมาตรการทบทวนแผนการบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์ เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ นำนวัตกรรมการแจ้งเตือนเหตุสำหรับหม้อแปลงไฟฟ้ามาใช้เพิ่มเติมจากระบบเดิมที่มีอยู่ พร้อมเร่งตรวจสอบดูแลระบบไฟฟ้ารวมถึงจุดเสี่ยงต่าง ๆ และจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปกติแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยว่าหม้อแปลงจะเกิดควันพวยพุ่งออกมา เพราะหม้อแปลงจะมีระบบป้องกัน โดยใช้หม้อแปลงระบบโลลอส ซึ่งมีมาตรฐานและราคาสูง ควันที่เกิดขึ้นอาจมาจากจุดอื่นก็เป็นได้ แต่ก็ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ หรือปฏิเสธความบกพร่องของอุปกรณ์ ซึ่งต้องรอผลตรวจสอบที่แน่ชัดก่อน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อไป
ส่วนเมื่อวานที่เกิดประกายไฟที่สายไฟใกล้หม้อแปลงไฟฟ้าอีกอันที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ก่อนหน้านี้ บริเวณปากซอยวานิช 1 ห่างจากจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ย่านตลาดสำเพ็ง เขตสัมพันธวงศ์ ไปประมาณ 50 เมตร เป็นเหตุชำรุดที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งมีเกิดขึ้นอยู่เป็นรายวัน สาเหตุมาจากมีการเชื่อมสายไฟต่อจากอาคารหนึ่งไปยังอีกอาคารหนึ่ง ซึ่งการต่อเชื่อมต่อโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งมีการลักลอบเชื่อมต่อสายไฟอยู่เป็นจำนวนมาก ที่เล็ดลอดสายตาจากเจ้าหน้าที่ จึงเป็นสาเหตุที่มีการใช้ไฟฟ้าเกินปริมาณ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้
ด้านนางลำไพร 55 ปี แม่ค้าขายกาแฟด้านล่างหม้อแปลงไฟฟ้าจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุเห็นควันลอยออกมาจากหม้อแปลงดังกล่าว ก่อนมีคนตะโกนบอกว่า มีน้ำรั่วไหลออกมาจากตู้ ตนจึงรีบเข็นรถออกจากบริเวณดังกล่าว แต่ก็เกิดระเบิดขึ้นเสียก่อน เลยทิ้งรถเข็นวิ่งหนีออกมาทันที สำหรับหม้อแปลงดังกล่าวมีการใช้งานมานานแล้ว โดยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนมีคนในละแวกมาเล่าว่าเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นทำให้ไฟฟ้าดับทั้งช่วงตึก
จากนั้นรองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง ได้นำสื่อมวลชน สำรวจเสาไฟในย่านจักรวรรดิ สำเพ็ง พร้อมกับซักถามตัวแทนบริษัทเอกชนที่มาต่อสายสื่อสารจากสายที่พาดอยู่กับเสาไฟฟ้า พร้อมกับเปิดเผยว่า สายที่พบว่ารกรุงรังกับเสาไฟฟ้านั้น เป็นสายไฟของการไฟฟ้านครหลวงแค่ 4-7 เส้นต่อต้นเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นสายสื่อสารของบริษัทเอกชนต่าง ๆ ยอมรับว่ามีผู้ประกอบการบางรายลักลอบวางสายพาดผ่านเสาไฟฟ้า ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นสายที่ไม่ได้มีการใช้งานแล้วกลายเป็นการสะสมวัสดุติดไฟ ซึ่งอย่างเหตุการณ์ไฟไหม้สำเพ็งที่มีความรุนแรงส่วนหนึ่งก็เพราะมีสายสื่อสารเป็นเชื้อไฟ.-สำนักข่าวไทย