กรุงเทพฯ 27 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ กทม.เผยข้อสรุปถอดบทเรียนไฟไหม้ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่-สำเพ็ง สั่งทำแผนบูรณาการเผชิญเหตุไฟไหม้ให้เป็นเอกภาพ ร่วมจัดระเบียบอาสาสมัครดับเพลิง เผยประสานเร่งสำรวจหม้อแปลง ทำแผนที่จุดเสี่ยง นัดคุยกับ กฟน.อีกครั้งพรุ่งนี้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 10/2565 ณ ห้องประชุมและวางแผน (War Room) ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง พร้อมด้วยรองผู้ว่าฯ กทม. และคณะผู้บริหาร โดยหลังการประชุมผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมได้แจ้งผลสรุปการถอดบทเรียนไฟไหม้ที่ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ เขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา จากจุดต้นเพลิงที่เกิดไฟไหม้ พบว่าไฟลุกลามมาทางสายไฟที่พาดเชื่อมระหว่างอาคาร ปัญหาอุปสรรค คือ บ้านเรือนติดกัน ช่วงแรกของการดับไฟน้ำในชุมชนมีแรงดันน้อย ขณะที่สายไฟฟ้าในชุมชนพบว่าชำรุด ขาดการบำรุงรักษา เมื่อเกิดเหตุคนในชุมชนสับสนว่าต้องไปที่ใด และพบว่าในช่วง 5 นาทีแรกที่เริ่มเกิดไฟไหม้ คนในชุมชนแจ้งอาสาดับเพลิงในชุมชนก่อน และยังไม่สามารถดับได้ ไฟลุกลาม จากนั้นจึงแจ้งรถดับเพลิงเข้ามา ทำให้สูญเสียเวลาการดับเพลิงช่วง 5 นาทีแรกซึ่งมีความสำคัญ
บทเรียนตรงนี้ประชาชนไม่ได้แจ้งดับเพลิงโดยตรงแจ้งอาสาก่อน กทม.จึงมีแผนแนวทางที่ต้องปรับปรุงระบบเมื่อเกิดอัคคีภัย คือ ต้องประสานกับอาสาดับเพลิงทุกกลุ่มใน กทม. รวมอาสาชุมชนและหน่วยงานเกี่ยวข้อง มีการฝึกอบรมร่วมกัน เพื่อให้เป็นทีมเดียวกันเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ มีการกำหนดตัวผู้บัญชาการดับเพลิงให้เป็นเอกภาพ โดยมีแผนกำหนดตัวบุคคลแต่ละเขต โดยเฉพาะประสานกับอาสาดับเพลิงต่าง ๆ ทำงานร่วมกับผู้อำนวยการเขต ซึ่งจะเป็นผู้นำในการประสานงานในส่วนของพื้นที่ และ กทม.ควรตั้งคลังของที่ใช้ฉุกเฉินไว้ด้วย เพื่อในอนาคตไม่ต้องรอรับบริจาค ส่วนแผนยังเตรียมช่วยเหลือช่วยเรื่องอุปกรณ์ดับเพลิงให้มีเพียงพอ จึงเป็นเหตุผลที่ กทม.จะจัดการให้ทุกทีมการบูรณาการให้เป็นทีมเดียวกัน หรือเรื่องเบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทนต่าง ๆ ก็จะช่วยดู คนในชุมชนก็ต้องมีการฝึกซ้อมเผชิญเหตุไฟไหม้ หนีไฟ การจัดการศูนย์พักพิงต่าง ๆ ให้เป็นระบบที่ดียิ่งขึ้น
นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงเหตุไฟไหม้ที่สำเพ็ง เขตสัมพันธวงศ์ เมื่อวานนี้ว่า เบื้องต้นมีรายงานสองส่วน คือ สาเหตุเพลิงไหม้ คาดว่าน่าจะมาจากหม้อแปลงเกิดความร้อน สายสื่อสารที่อยู่ใกล้เคียงติดไฟ อีกทั้งในตัวอาคารมีสิ่งของต่าง ๆ เป็นเชื้อเพลิงทำให้ไฟลุกลาม ซึ่งได้ประสานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ช่วยสำรวจจุดหม้อแปลง จำนวน 400 จุด โดยเฉพาะในจุดที่อยู่ในเขต กทม.ชั้นใน ใกล้ชุมชุน หรือมีอายุเก่าแก่ ทำเป็นแผนที่จุดเสี่ยง เพื่อให้ในพื้นที่ได้ร่วมรับมือ ป้องกันเหตุซ้ำอีก โดยวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) มีนัดหารือกับการไฟฟ้านครหลวงอีกครั้ง ส่วนเรื่องความคืบหน้าการนำสายสื่อสารลงดิน ตอนนี้ต้องเร่งเช่นกัน โดย กทม.มีนัดหารือกับ กสทช.แล้ว
ด้าน น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการให้สำรวจจำนวนชุมชนที่มีความหนาแน่นเหมือนบ่อนไก่ และให้ระบุจุดเสี่ยงที่อาจจะเกิดเพลิงไหม้ และจุดที่เสี่ยงจะเกิดซ้ำ.-สำนักข่าวไทย