กทม. เตรียมประสานการไฟฟ้านครหลวงป้องกันไฟไหม้ซ้ำซาก

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ กทม. ชี้ไฟไหม้ย่านสำเพ็ง บทเรียนราคาแพง เตรียมประสานการไฟฟ้านครหลวงป้องกันเกิดเหตุซ้ำซาก ย้ำทุกเขตต้องสำรวจจุดเสี่ยง ฝากประชาชนแจ้งผ่านแอปฯ Traffy Fondue


(26 มิ.ย.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังตรวจเหตุเพลิงไหม้อาคารย่านสำเพ็ง เขตสัมพันธวงษ์ ว่า เบื้องต้นสามารถควบคุมเพลิงได้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังต้องสังเกตความอันตรายของการถล่มของอาคารเนื่องจากมีการฉีดน้ำ ซึ่งมีตึกหนึ่งที่พื้นอาคารมีการยุบตัวลงมาแล้ว สาเหตุของเพลิงไหม้เท่าที่รับรายงานเบื้องต้น มาจากหม้อแปลงไฟระเบิด ลุกลามไปด้านในอาคาร รวมถึงมีสายไฟและสายสื่อสารจำนวนมากที่อาจเป็นส่วนช่วยให้ไฟลุกลามไป ประกอบกับมีวัสดุในอาคารที่เป็นเชื้อเพลิงทำให้ไฟลามอย่างรวดเร็ว หลังจากนี้ต้องมีการทบทวนรวมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลาง ภาครัฐ ในการดูแลหม้อแปลงและสายสื่อสารที่อยู่ด้านนอก ซึ่ง กทม.มีนโยบายที่จะตัดสายที่ไม่ได้ใช้งานทิ้งอยู่แล้ว ต้องรีบตัดสายทิ้งเพราะจะเป็นตัวที่ทำให้ติดไฟได้ ส่วนเจ้าของอาคารก็ต้องตรวจสอบภายในอาคารด้วย เพราะอาคารอาคารที่ใช้เก็บของ มีวัสดุเชื้อเพลิงอยู่ภายในจำนวนมากจะมีความเสี่ยงสูงขึ้นด้วย

จากเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นแรงงานข้ามชาติ 1 ราย คนไทย 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 11 ราย เป็นทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน นำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวเฉียว 7 ราย และโรงพยาบาลกลาง 4 ราย มีรถประชาชนที่จอดได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ จำนวน 3 คัน อาจมีการไปแจ้ง ซึ่งต้องดูเรื่องของกฎหมายว่าใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของอาคาร ในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) ฝ่ายโยธาเขตฯ เข้าตรวจสอบอาคาร และสำรวจเรื่องความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างอาคาร เนื่องจากมีอาคารยุบตัวด้วย


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า ในสัปดาห์หน้า กทม. จะหารือร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง ทั้งเรื่องไฟแสงสว่าง ความปลอดภัยบนท้องถนน รวมถึงเรื่องความปลอดภัยของหม้อแปลงไฟ และสายสื่อสารที่อยู่รวมกับเสาไฟฟ้า ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่ต้องเอาไปปรับปรุง โดยถือเป็นหน้าที่การไฟฟ้าต้องช่วยดูด้วยเพราะเป็นความรับผิดชอบโดยตรง ต้องช่วยกันเป็นบทเรียนที่ต้องนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดซ้ำซากอีก เชื่อว่าการไฟฟ้านครหลวงมีศักยภาพที่จะดูแลชีวิตประชาชน โดยต่อไป กทม. และการไฟฟ้านครหลวงจะต้องประสานกันอย่างเข้มข้นและใกล้ชิด ทั้งนี้ทุกเขตจะต้องสำรวจจุดเสี่ยงอื่นๆ โดยให้ประชาชนที่พบเห็นจุดที่เสี่ยงให้ช่วยแจ้งผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue ด้วย

ฝากเตือนประชาชนเมื่อไปตามสถานที่ไม่คุ้นเคย หรือสถานบันเทิง ให้สำรวจทางหนีไฟ เพราะมีโอกาสที่จะเกิดเหตุขึ้นได้ หากมีเหตุจะได้หนีได้ทัน ซึ่งตนได้กำชับเรื่องนี้ไปแล้วให้ทุกเขตสำรวจความปลอดภัยสถานบันเทิงอย่างเข้มข้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิสูงขึ้น-ใต้ฝนลดลง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า