กรุงเทพฯ 23 มิ.ย. – ร้านน้ำโหลแก้วในตำนานของโรงเรียนดังย่านบางเขน ขายมากว่า 30 ปี โพสต์เฟซบุ๊กจะเลิกขายในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ สาเหตุโรงเรียนกำหนดราคาสัญญาใหม่ขั้นต่ำ 3 ล้านบาท สัญญา 3 ปี ทำให้ร้านสู้ไม่ไหว
ทางร้านบอกว่าใครคิดถึงหรืออยากกินยังเข้าหาที่โรงเรียนได้ ตั้งแต่พรุ่งนี้จนถึงวันที่ 28 มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นร้านจะเปิดขายแบบออนไลน์ ซึ่งมีศิษย์เก่าและคนที่เคยเป็นลูกค้าแสดงความเห็นจำนวนมาก และชวนอุดหนุนก่อนเลิกกิจการ
นายธนภัทร ลูกชายเจ้าของร้าน บอกว่าร้านขายน้ำแห่งนี้ ปู่กับย่าของตนเองเริ่มเข้าไปขายในโรงเรียนเมื่อ 30 ปีก่อน และขายมาถึงปัจจุบัน ขายเป็นน้ำชงใส่โหลแก้วมีมากกว่า 17 เมนู ราคา 10-20 บาท ที่ผ่านมาไม่ได้ทำสัญญาเช่ากับโรงเรียนโดยตรง แต่ทำสัญญาและจ่ายค่าเช่าพื้นที่กับบริษัทเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาเช่าพื้นที่กับทางโรงเรียน และจะหมดสัญญาวันที่ 28 มิ.ย.นี้ โดยทางบริษัทเครื่องดื่มไม่ต่อสัญญากับโรงเรียน ทำให้ร้านขายน้ำก็หมดสัญญาเช่นกัน ซึ่งตนไม่ทราบว่าบริษัทเครื่องดื่มกับทางโรงเรียนทำสัญญากันแบบไหน ไม่ทราบว่าจ่ายค่าสัญญาเท่าไร แต่ไม่ถึง 1 ล้านบาทต่อปีแน่นอน แต่ที่กำลังเป็นประเด็นเพราะสัญญาฉบับใหม่ โรงเรียนกำหนดราคา 3 ล้านบาท ต่อสัญญา 3 ปี ซึ่งใครที่จะเข้ามาประมูลไม่ใช่แค่ได้ร้านน้ำร้านเดียว แต่จะได้สิทธิการบริหารซุ้มขายน้ำของแบรนด์เครื่องดื่มยี่ห้อดัง และได้สิทธิการบริหารสหกรณ์โรงเรียนด้วย
ส่วนตัวมองว่าไม่คุ้มหากจะลงทุน และครอบครัวไม่มีประสบการณ์บริหารสหกรณ์ ดังนั้น เมื่อหมดสัญญาวันที่ 28 มิ.ย. คงต้องถอย ส่วนที่โพสต์ไปไม่มีเจตนาโจมตีโรงเรียน หรือโจมตีผู้บริหารโรงเรียน แค่อยากบอกศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันว่าทางร้านกำลังจะหมดสัญญาจะไม่ได้ขายต่อ และจะขายออนไลน์แทน
ทีมข่าวได้ติดต่อผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยทางสำนักผู้อำนวยการโรงเรียนได้รับเรื่องไว้ แต่ยังไม่ให้สัมภาษณ์ ซึ่งทีมข่าวยังตรวจสอบในเว็บไซต์ของโรงเรียน พบว่ามีการเผยแพร่ประกาศ เรื่องการคัดเลือกผู้ประกอบการร้านค้าสวัสดิการจำหน่ายสินค้าและเครื่องดื่ม เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งมีการกำหนดเงื่อนไขราคาขั้นต่ำในการเสนอราคาไว้ที่ 3,000,000 บาทต่อ 3 ปี และผู้ประกอบการต้องชำระค่าทำความสะอาดและค่าเก็บขนขยะ 60,000 บาทต่อปี ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ตามอัตราที่โรงเรียนและผู้ประกอบการยินดีให้การสนับสนุนทุนการศึกษา ปีการศึกษา 2565-2567 ปีละ 10,000 บาท รวม 30,000 บาท .-สำนักข่าวไทย