รองผู้ว่าฯ กทม. ตรวจการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – “รศ.วิศณุ” รองผู้ว่าฯ กทม. ตรวจการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน เล็งหาแนวทางเปิดใช้งานจุดที่แล้วเสร็จช่วยระบายน้ำช่วงฤดูฝนปีนี้


(11 มิ.ย.65) เวลา 07.30 น. รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอาคารรับน้ำคลองเคล็ด เขตประเวศ จากนั้นเดินทางไปบริเวณสถานีสูบน้ำบางอ้อ เขตบางนา โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตในพื้นที่ และผู้รับจ้างโครงการ ร่วมลงพื้นที่และรายงานข้อมูล

กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำดำเนินโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอุโมงค์ระบายน้ำดังกล่าวมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 ม. ความยาว 9,106 ม. ความลึก 30 ม. โดยแนวอุโมงค์เริ่มจากอาคารรับน้ำบริเวณบึงหนองบอน ลอดใต้แนวคลองหนองบอน แนวคลองตาช้าง ถนนศรีนครินทร์ ถนนอุดมสุข ซอยอุดมสุข 29 ถนนสุขุมวิท 101/1 ลอดใต้แนวคลองบางอ้อ ผ่านสถานีสูบน้ำบางอ้อและออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองบางอ้อ โดยมีอาคารรับน้ำ 7 แห่ง เพื่อรวบรวมน้ำในคลองต่างๆ ที่อุโมงค์ลอดผ่าน ให้ระบายลงสู่ระบบอุโมงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ประกอบด้วย อาคารรับน้ำบึงหนองบอน อาคารรับน้ำคลองหนองบอน อาคารรับน้ำคลองเคล็ด อาคารรับน้ำคลองหลอด กม.3 (ปล่องรับน้ำอุดมสุข 56) อาคารรับน้ำคลองหลอด กม.2 (ปล่องรับน้ำอุดมสุข 42) อาคารรับน้ำซอยสุขุมวิท 101/1 อาคารรับน้ำถนนสุขุมวิท 66/1 สถานีสูบน้ำอุโมงค์บางอ้อ ขนาดกำลังสูบ 60 ลบ.ม./วินาที และอาคารทิ้งน้ำ 1 แห่ง ปัจจุบันผลงานความก้าวหน้าทั้งโครงการทำได้ 91.44 % เมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนอ่อนนุช ถนนอุดมสุข ถนนสุขุมวิท เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 85 ตร.กม. ในพื้นที่เขตประเวศ เขตสวนหลวง เขตพระโขนง เขตบางนา และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง


นอกจากนี้อุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงการแก้มลิงบึงหนองบอน ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำตั้งอยู่ในเขตประเวศ มีพื้นที่ทั้งหมด 644 ไร่ 1 งาน 37.5 ตร.ว. เริ่มขุดบึงเมื่อปี 36 ใช้พื้นที่ประมาณ 500 ไร่ โดยขุดลึกประมาณ 10 ม. แล้วเสร็จเมื่อปี 42 สามารถเก็บกักน้ำได้ 7 ล้านลบ.ม. (ความจุของอ่างเก็บน้ำส่วนที่ต่ำกว่าระดับน้ำต่ำสุดที่กำหนด 2 ล้านลบ.ม. พร่องน้ำเป็นแก้มลิงได้ 5 ล้านลบ.ม.) สามารถบริหารจัดการน้ำในแก้มลิงบึงหนองบอน จำนวน 5 ล้านลบ.ม. โดยใช้เวลาระบายน้ำ 1 วัน ทำให้สามารถรองรับน้ำฝนจากพายุลูกต่อไป

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุน้ำใต้ดินไหลเข้ามายังภายใน Shaft ซึ่งอยู่ใต้สะพานคลองเคล็ด บริเวณด้านล่างของจุดเชื่อมต่อระหว่าง Segment ของอุโมงค์ กับ D-wall ทำให้น้ำพัดทรายใต้อุโมงค์เข้ามาใน Shaft และไหลเข้าไปในอุโมงค์ ซึ่งทรายที่ไหลเข้ามานั้น ทำให้ชั้นดินบริเวณด้านบนอุโมงค์เกิดการทรุดตัว รวมถึงเสาเข็มสะพานข้ามคลองเคล็ดที่ปลายเสาเข็มระดับอยู่เหนืออุโมงค์พังทลายลงมา ผู้รับจ้างได้เสนอแนวทางการแก้ไขอุโมงค์ระบายน้ำที่เสียหายบริเวณสะพานคลองเคล็ด ดังนี้ แนวทางแก้ไขที่ 1 ก่อสร้าง Pile Wall คร่อมแนวอุโมงค์เดิมที่เสียหายและขุดดินติดตั้งค้ำยัน เพื่อรื้อถอนและก่อสร้างอุโมงค์ใหม่ โดยรักษาแนวอุโมงค์เดิม เพื่อให้กลับคืนสู่สภาพเดิมให้มากที่สุด จึงก่อสร้างกำแพงกันดินครอบแนวอุโมงค์ที่เสียหาย และขุดเปิดจากผิวดินลงไปถึงระดับอุโมงค์เดิม เพื่อรื้อถอนและติดตั้งอุโมงค์ใหม่ ใช้เวลาก่อสร้าง 35 เดือน

แนวทางแก้ไขที่ 2 ทำการก่อสร้างปล่องใหม่ และก่อสร้างระบบกำแพงกันดินตามแนวอุโมงค์ เพื่อขุดดินก่อสร้างอุโมงค์ใหม่ยกระดับขึ้นมาอยู่เหนือแนวอุโมงค์เดิม ก่อสร้าง Shaft ใหม่ เพื่อเชื่อมต่อแนวอุโมงค์ที่ไม่เกิดความเสียหายและแนวอุโมงค์ระดับใหม่ระยะห่างจาก Shaft ก่อสร้างโดยขุดเปิดหน้าดิน เทคอนกรีตพื้น หลังคาอุโมงค์ และถมดินคืนสภาพถนน ใช้เวลาก่อสร้าง 18 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางแก้ไข คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 24 เดือน พร้อมทั้งก่อสร้างอุโมงค์ชั่วคราวตั้งแต่ปล่องอุโมงค์รับน้ำคลองเคล็ดถึงอาคารสถานีสูบบางอ้อ โดยปิดกั้นปากอุโมงค์ปล่องรับน้ำคลองเคล็ดด้วยการก่อสร้าง Pile wall จากนั้นสูบน้ำออกจากอุโมงค์และทำความสะอาดด้านในอุโมงค์ คาดว่าจะสามารถใช้อุโมงค์สูบระบายน้ำช่วงอาคารรับน้ำคลองเคล็ดถึงอาคารรับน้ำสุขุมวิท 66/1 ได้ในเดือนพ.ย.65


รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จุดแรกที่มาตรวจคือพื้นที่ก่อสร้างอาคารรับน้ำคลองเคล็ด ที่ผ่านมาได้เกิดการทรุดตัวเนื่องจากน้ำใต้ดินไหลเข้ามาภายใน Shaft บริเวณด้านล่างของจุดเชื่อมต่อระหว่าง Segment ของอุโมงค์กับ D-wall ทำให้น้ำพัดทรายใต้อุโมงค์เข้ามาใน Shaft และไหลเข้าไปตามตัวอุโมงค์ ทำให้ชั้นดินด้านบนอุโมงค์และสะพานข้ามคลองเกิดการทรุดตัว ซึ่งผู้รับจ้างได้หาแนวทางในการแก้ไขอุโมงค์ที่เสียหาย อาจต้องใช้ระยะเวลาซ่อมแซม อีกทั้งการทำงานที่ยากอยู่เนื่องจากอยู่ใต้ดินลึก 30 ม. ขณะนี้อยู่ระหว่างการชั่งน้ำหนักเพื่อหาทางเลือกในจุดที่คุ้มค่าที่สุด และเกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด นอกจากนี้ผู้รับจ้างได้ดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ชั่วคราว ตั้งแต่ปล่องอุโมงค์รับน้ำคลองเคล็ดถึงอาคารสถานีสูบบางอ้อ คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ในเดือนพ.ย.65 จุดต่อมาคือสถานีสูบน้ำบางอ้อ ผู้รับจ้างได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดกำลังสูบ 60 ลบ.ม./วินาที พร้อมทั้งเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าแล้ว

“ในส่วนของอุโมงค์ระบายน้ำที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ จะพิจารณาหาแนวทางเพื่อเปิดใช้งานให้เกิดประโยชน์ อย่างน้อยจะช่วยระบายน้ำในช่วงฤดูฝนปีนี้ ซึ่งจะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมครอบคลุมพื้นที่ 85 ตร.กม. ในพื้นที่เขตประเวศ เขตบางนา และพื้นที่ใกล้เคียง” รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.ขยายเวลา นายกฯ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารอบ 2

ศาล รธน. 30 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากขยายเวลา นายกฯ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารอบ 2 คลิปสนทนา “ฮุนเซน” ถึง 4 ส.ค.นี้ ชี้อนุญาตเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ยื่นแจงถือว่าไม่ติดใจ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ครั้งที่ 2 ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องในคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ที่เข้าชื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ผู้ถูกร้อง กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 68 และนางสาวแพทองธาร […]

โรงงานพลุระเบิด เสียชีวิต 9 ราย เจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุโรงงานพลุระเบิด ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง ความคืบหน้าเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่บ้านโพธิ์ทราย ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง บ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง รถยนต์ 1 คัน เบื้องต้นไม่พบใบอนุญาตทำพลุ เจ้าหน้าที่ EOD และพิสูจน์หลักฐานเร่งดำเนินการตรวจสอบ ขณะที่ดินปืนยังปะทุไม่หยุด ลูกสาวของคนงานรายหนึ่งที่เข้าไปทำงานในบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า แม่ของตนปกติทำงานที่ไร่แตงโม เพิ่งมารับจ้างทำพลุลูกนกได้ประมาณ 2 วัน ตอนนี้พยายามโทรติดต่อแม่ แต่ติดต่อไม่ได้ ภาวนาขอให้แม่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์พลุระเบิดในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่เฉพาะที่ ต.บ้านโพธิ์ เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ปี 2549 ปี 2558 รวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ […]

“พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญ ผช.ทูตทหารต่างชาติ ลงชายแดน

กลาโหม 30 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ลงพื้นที่ดูความเสียหายประชาชนจากการปฏิบัติของกัมพูชา พร้อมยืนยันประท้วงแน่ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ต้องบอกนานาชาติ ชี้เป็นธรรมชาติ “กัมพูชา” บิดเบือน แต่ไทยมีหลักฐานหมด ทั้งภาพถ่ายทางอากาศ-เทคโนโลยี เข้าสู่กระบวนการเจรจา ยอมรับทำงานภายใต้แรงกดดัน วอนสื่อทำความเข้าใจ ชี้แจง ปชช. (30 ก.ค.68) เวลา 08.15 น. พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ถึงกรณีฝ่ายไทยเตรียมให้กองทัพบกประสานผู้ช่วยทูตทหารนานาประเทศ ประจำประเทศไทยลงพื้นที่ชายแดนว่า จะพาไปดูความสูญเสียของพลเรือนที่ได้รับการปฏิบัติจากฝ่ายทหารกัมพูชา ซึ่งเพิ่งได้สั่งการไปที่กองทัพบกเมื่อคืนนี้ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า จะมีประเทศใดบ้างเข้าร่วม ทั้งนี้พยายามประสานงานกับประเทศมาเลเซียให้มาดูเรื่องของสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย ส่วนกรณีเรื่องการละเมิดข้อตกลงของกัมพูชาที่มีการยิงตามแนวชายแดน เรื่องนี้ต้องมีการประท้วง และสื่อสารให้นานาชาติรับทราบ โดยได้ย้ำกับกองทัพบกให้สื่อสารทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งโฆษกทุกเหล่าทัพต้องช่วยกัน รวมทั้งของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา หรือ ศบ.ทก. พร้อมย้ำว่า หลักของการหยุดยิงตามข้อตกลงคือ ทุกหน่วยต้องหยุด อยู่กับที่ และรอจนกว่า จะมีผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ส่วนที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธการละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงนั้น […]

สภาฯ ยืนไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุสู้รบชายแดน

รัฐสภา 30 ก.ค.- “สภาฯ” ยืนไว้อาลัย ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน “ครูมานิตย์” ชื่นชมทหารกล้า ลั่นถ้าไม่มีอาวุธที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตัวเอง เผย ไปนั่งเฝ้าที่ศูนย์อพยพ มีทั้งจิตตก ซึมเศร้า กินข้าวไม่ได้ ต้องกินกาแฟแทน เพราะคิดถึงบ้าน พร้อมเสนอลดค่าน้ำ ค่าไฟ บ้านที่ผู้อพยพไปอยู่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยในช่วงหารือ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย หารือถึงปัญหาการสู่รายแดนไทย กัมพูชา ว่า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.จนถึงปัจจุบัน ที่เกิดเหตุรุนแรงการสู่รบในหลายจังหวัด ซึ่ง จังหวัดที่โดนรุนแรงมากที่สุดคือจ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายเพราะมีประสาทต่างๆแและอันดับสองคือจังหวัดศรีสะเกษซึ่งมีหลายมิติ แต่มิติแรกที่จบไปโดยตัวมันเองว่าทหารมีไว้ทำไม ถ้าไม่มีทหารไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตนด้วย เพระายุทธวิธีในวันนั้นเห็นได้ชัด ก่อนที่จะชะลอการหยุดยิง เพราะตนยังไม่เชื่อว่าจะยุติโดยสิ้นเชิง เพราะตนอยู่ในพื้นที่ แต่ทหารเรามีความกล้าหาญและมียุทธวิธีที่ดีประคับประคองคิดพื้นที่ไม่ให้พี่น้องเราเดือดร้อนไปมากกว่านี้ “เสียใจกับ 15 วีรบุรุษ จึงขอฝากทางราชการว่าอะไรที่มอบให้เขาได้ใหญ่ก็มอบให้เถอะไม่ว่าจะเป็นการชดเชยให้กับครอบครัว หรือเพิ่มยศให้กับเขาให้โอกาสลูกของเขา ผมเกิดมาก็เพิ่งเห็นเที่ยวนี้ว่าเอฟ […]