รองผู้ว่าฯ กทม. ตรวจการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – “รศ.วิศณุ” รองผู้ว่าฯ กทม. ตรวจการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน เล็งหาแนวทางเปิดใช้งานจุดที่แล้วเสร็จช่วยระบายน้ำช่วงฤดูฝนปีนี้


(11 มิ.ย.65) เวลา 07.30 น. รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอาคารรับน้ำคลองเคล็ด เขตประเวศ จากนั้นเดินทางไปบริเวณสถานีสูบน้ำบางอ้อ เขตบางนา โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตในพื้นที่ และผู้รับจ้างโครงการ ร่วมลงพื้นที่และรายงานข้อมูล

กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำดำเนินโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอุโมงค์ระบายน้ำดังกล่าวมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 ม. ความยาว 9,106 ม. ความลึก 30 ม. โดยแนวอุโมงค์เริ่มจากอาคารรับน้ำบริเวณบึงหนองบอน ลอดใต้แนวคลองหนองบอน แนวคลองตาช้าง ถนนศรีนครินทร์ ถนนอุดมสุข ซอยอุดมสุข 29 ถนนสุขุมวิท 101/1 ลอดใต้แนวคลองบางอ้อ ผ่านสถานีสูบน้ำบางอ้อและออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองบางอ้อ โดยมีอาคารรับน้ำ 7 แห่ง เพื่อรวบรวมน้ำในคลองต่างๆ ที่อุโมงค์ลอดผ่าน ให้ระบายลงสู่ระบบอุโมงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ประกอบด้วย อาคารรับน้ำบึงหนองบอน อาคารรับน้ำคลองหนองบอน อาคารรับน้ำคลองเคล็ด อาคารรับน้ำคลองหลอด กม.3 (ปล่องรับน้ำอุดมสุข 56) อาคารรับน้ำคลองหลอด กม.2 (ปล่องรับน้ำอุดมสุข 42) อาคารรับน้ำซอยสุขุมวิท 101/1 อาคารรับน้ำถนนสุขุมวิท 66/1 สถานีสูบน้ำอุโมงค์บางอ้อ ขนาดกำลังสูบ 60 ลบ.ม./วินาที และอาคารทิ้งน้ำ 1 แห่ง ปัจจุบันผลงานความก้าวหน้าทั้งโครงการทำได้ 91.44 % เมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนอ่อนนุช ถนนอุดมสุข ถนนสุขุมวิท เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 85 ตร.กม. ในพื้นที่เขตประเวศ เขตสวนหลวง เขตพระโขนง เขตบางนา และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง


นอกจากนี้อุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงการแก้มลิงบึงหนองบอน ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำตั้งอยู่ในเขตประเวศ มีพื้นที่ทั้งหมด 644 ไร่ 1 งาน 37.5 ตร.ว. เริ่มขุดบึงเมื่อปี 36 ใช้พื้นที่ประมาณ 500 ไร่ โดยขุดลึกประมาณ 10 ม. แล้วเสร็จเมื่อปี 42 สามารถเก็บกักน้ำได้ 7 ล้านลบ.ม. (ความจุของอ่างเก็บน้ำส่วนที่ต่ำกว่าระดับน้ำต่ำสุดที่กำหนด 2 ล้านลบ.ม. พร่องน้ำเป็นแก้มลิงได้ 5 ล้านลบ.ม.) สามารถบริหารจัดการน้ำในแก้มลิงบึงหนองบอน จำนวน 5 ล้านลบ.ม. โดยใช้เวลาระบายน้ำ 1 วัน ทำให้สามารถรองรับน้ำฝนจากพายุลูกต่อไป

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุน้ำใต้ดินไหลเข้ามายังภายใน Shaft ซึ่งอยู่ใต้สะพานคลองเคล็ด บริเวณด้านล่างของจุดเชื่อมต่อระหว่าง Segment ของอุโมงค์ กับ D-wall ทำให้น้ำพัดทรายใต้อุโมงค์เข้ามาใน Shaft และไหลเข้าไปในอุโมงค์ ซึ่งทรายที่ไหลเข้ามานั้น ทำให้ชั้นดินบริเวณด้านบนอุโมงค์เกิดการทรุดตัว รวมถึงเสาเข็มสะพานข้ามคลองเคล็ดที่ปลายเสาเข็มระดับอยู่เหนืออุโมงค์พังทลายลงมา ผู้รับจ้างได้เสนอแนวทางการแก้ไขอุโมงค์ระบายน้ำที่เสียหายบริเวณสะพานคลองเคล็ด ดังนี้ แนวทางแก้ไขที่ 1 ก่อสร้าง Pile Wall คร่อมแนวอุโมงค์เดิมที่เสียหายและขุดดินติดตั้งค้ำยัน เพื่อรื้อถอนและก่อสร้างอุโมงค์ใหม่ โดยรักษาแนวอุโมงค์เดิม เพื่อให้กลับคืนสู่สภาพเดิมให้มากที่สุด จึงก่อสร้างกำแพงกันดินครอบแนวอุโมงค์ที่เสียหาย และขุดเปิดจากผิวดินลงไปถึงระดับอุโมงค์เดิม เพื่อรื้อถอนและติดตั้งอุโมงค์ใหม่ ใช้เวลาก่อสร้าง 35 เดือน

แนวทางแก้ไขที่ 2 ทำการก่อสร้างปล่องใหม่ และก่อสร้างระบบกำแพงกันดินตามแนวอุโมงค์ เพื่อขุดดินก่อสร้างอุโมงค์ใหม่ยกระดับขึ้นมาอยู่เหนือแนวอุโมงค์เดิม ก่อสร้าง Shaft ใหม่ เพื่อเชื่อมต่อแนวอุโมงค์ที่ไม่เกิดความเสียหายและแนวอุโมงค์ระดับใหม่ระยะห่างจาก Shaft ก่อสร้างโดยขุดเปิดหน้าดิน เทคอนกรีตพื้น หลังคาอุโมงค์ และถมดินคืนสภาพถนน ใช้เวลาก่อสร้าง 18 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางแก้ไข คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 24 เดือน พร้อมทั้งก่อสร้างอุโมงค์ชั่วคราวตั้งแต่ปล่องอุโมงค์รับน้ำคลองเคล็ดถึงอาคารสถานีสูบบางอ้อ โดยปิดกั้นปากอุโมงค์ปล่องรับน้ำคลองเคล็ดด้วยการก่อสร้าง Pile wall จากนั้นสูบน้ำออกจากอุโมงค์และทำความสะอาดด้านในอุโมงค์ คาดว่าจะสามารถใช้อุโมงค์สูบระบายน้ำช่วงอาคารรับน้ำคลองเคล็ดถึงอาคารรับน้ำสุขุมวิท 66/1 ได้ในเดือนพ.ย.65


รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จุดแรกที่มาตรวจคือพื้นที่ก่อสร้างอาคารรับน้ำคลองเคล็ด ที่ผ่านมาได้เกิดการทรุดตัวเนื่องจากน้ำใต้ดินไหลเข้ามาภายใน Shaft บริเวณด้านล่างของจุดเชื่อมต่อระหว่าง Segment ของอุโมงค์กับ D-wall ทำให้น้ำพัดทรายใต้อุโมงค์เข้ามาใน Shaft และไหลเข้าไปตามตัวอุโมงค์ ทำให้ชั้นดินด้านบนอุโมงค์และสะพานข้ามคลองเกิดการทรุดตัว ซึ่งผู้รับจ้างได้หาแนวทางในการแก้ไขอุโมงค์ที่เสียหาย อาจต้องใช้ระยะเวลาซ่อมแซม อีกทั้งการทำงานที่ยากอยู่เนื่องจากอยู่ใต้ดินลึก 30 ม. ขณะนี้อยู่ระหว่างการชั่งน้ำหนักเพื่อหาทางเลือกในจุดที่คุ้มค่าที่สุด และเกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด นอกจากนี้ผู้รับจ้างได้ดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ชั่วคราว ตั้งแต่ปล่องอุโมงค์รับน้ำคลองเคล็ดถึงอาคารสถานีสูบบางอ้อ คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ในเดือนพ.ย.65 จุดต่อมาคือสถานีสูบน้ำบางอ้อ ผู้รับจ้างได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดกำลังสูบ 60 ลบ.ม./วินาที พร้อมทั้งเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าแล้ว

“ในส่วนของอุโมงค์ระบายน้ำที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ จะพิจารณาหาแนวทางเพื่อเปิดใช้งานให้เกิดประโยชน์ อย่างน้อยจะช่วยระบายน้ำในช่วงฤดูฝนปีนี้ ซึ่งจะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมครอบคลุมพื้นที่ 85 ตร.กม. ในพื้นที่เขตประเวศ เขตบางนา และพื้นที่ใกล้เคียง” รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมเชียงใหม่

นายกฯ ห่วงน้ำท่วมเชียงใหม่ สั่งเร่งช่วยเหลือ เฝ้าระวัง 24 ชม.

“นายกฯ แพทองธาร” ห่วงน้ำท่วมเชียงใหม่ สั่งเร่งช่วยเหลือประชาชนและสัตว์โดยด่วน เฝ้าระวังสถานการณ์ 24 ชม. พร้อมฟื้นฟู

หญ้าอาหาร​สัตว์​พระราชทาน

ระดม​ขน​ส่ง​ “หญ้าอาหาร​สัตว์​พระราชทาน” ช่วยช้างแม่แตง

พระนคร​ศรี​อยุธยา​ 5 ต.ค. – รมว.​เกษตร​ฯ​ สั่งอธิบดี​กรม​ปศุสัตว์ ​เร่งนำส่ง​ “หญ้า​อาหารสัตว์​พระราชทาน” ช่วย​เหลือ​ช้าง​ของ​ศูนย์​บริบาล​ช้าง​ อำเภอ​แม่แตง​ จังหวัด​เชียงใหม่​ ที่ประสบภัย​น้ำท่วม​ ต้องอพยพสัตว์​หนีน้ำ อธิบดี​กรม​ปศุสัตว์​ระบุส่งถึงจุดพักพิงสัตว์​ชั่วคราว​แล้ววานนี้​ ระดมขนส่งต่อเนื่อง​ทั้งหญ้าสดและหญ้า​แห้ง​ เตรียม​จัดทีมสัตวแพทย์​สนับสนุน​การ​ดูแล​สุขภาพ​และ​รักษา​สัตว์​ต่าง​ๆ​ ของ​ศูนย์​บริบาล​ช้าง​ที่​มีอยู่เป็น​จำนวนมาก นายสัตวแพทย์สมชวน​ รัตนมังคลานนท์​ อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า​ ได้เร่งขนส่ง​ “หญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน” ไปช่วยเหลือ​ช้างกว่า​ 100 ตัวของ ศูนย์บริบาลช้าง อำเภอแม่แตง​ จังหวัดเชียงใหม่ที่ประสบภัยน้ำท่วม​ ตามข้อสั่งการของศ.ดร.​ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์บริบาลช้างแห่งนี้ มีช้างกว่า 100 เชือก รวมถึงสัตว์อีกหลายชนิดเช่น​ ควาย​ แพะ​ แกะ​ สุนัข​ แมว​ เป็น​ต้น หลังเกิดเหตุ​น้ำท่วมฉับพลันและระดับน้ำสูง​ ได้​สั่งการ​ให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ลำปางร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียง สำนักงานปศุสัตว์สัตว์อำเภอแม่แตง นำหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน 2, 000 กิโลกรัม​หรือ​ 2 ตันไปส่งมอบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้แก่ช้าง ทั้งนี้​ กำชับ​ให้​สำนักพัฒนาอาหารจัดส่ง​หญ้าไปช่วยเหลือเพิ่มเติม​ โดยวันนี้​ […]

ปรับเส้นทางรถไฟสายเหนือ

รฟท.ปรับสถานีต้นทางสายเหนือเป็นลำปาง ผลกระทบจากน้ำท่วม

การรถไฟฯ แจ้งปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ขบวนรถสายเหนือ 12 ขบวนเป็นการชั่วคราว หลังเกิดน้ำท่วมเชียงใหม่อีกระลอก