สธ.ย้ำวัคซีนเข็มกระตุ้นสำคัญ  

สธ. 6 มิ.ย. – สธ.ย้ำความสำคัญวัคซีนเข็มกระตุ้น เปิดประเทศและกิจกรรมต่าง ๆ จำเป็นต้องรับวัคซีนโควิดให้ได้ 60% แต่พบฉีดจริงได้แค่ 41.1% พบขาดเกือบ 20 ล้านโดส มีแค่ 20 จังหวัด ฉีดเกิน 60% เร่งให้จังหวัดวิเคราะห์สถานการณ์ หลังพบคนชนบทรับวัคซีนเข็มกระตุ้นน้อย


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หลังจากวันที่ 1 มิถุนายน มีการเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ผ่านมา 6 วัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่เพิ่มขึ้น และทั่วโลกขณะนี้บางประเทศก็ไม่ได้มีการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อแล้ว ส่วนไทยให้ความสำคัญกับตัวเลขผู้เสียชีวิต ปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ ซึ่งวันนี้ (6 มิ.ย.) ป่วยโควิด 2,162 คน เสียชีวิต 27 คน ปอดอักเสบ 761 คน และใส่ท่อช่วยหายใจ 375 คน โดยอัตราการเสียชีวิตในรอบ 14 วันที่ผ่านมา พบว่าลดลงเหลือ 0.09% หากวิเคราะห์ผู้เสียชีวิตทั้ง 27 คน พบว่ามี 26  คน เป็นกลุ่มคน 608 หรือคิดเป็น 96% ที่เสียชีวิต เมื่อดูช่วงอายุพบว่าเป็นผู้สูงอายุ 60-70 ปี ขึ้นไป และมีถึง 95% ไม่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1

นพ.โอภาส กล่าวว่า จากการติดตามการรับวัคซีน พบว่ามีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 134 ล้านโดส โดยเป็นวัคซีนเข็ม 1 81.7%, วัคซีนเข็ม 2 75.9% และวัคซีนเข็ม 3  41.1% หากมีการเปิดประเทศและเปิดกิจกรรมกิจการมากกว่านี้ต้องมีการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 60% และหากคำนวณตามสัดส่วนยังขาดวัคซีนอีก ประมาณ 20 ล้านโดส เนื่องจากขณะนี้มีการรับวัคซีนครอบคลุมทุกกลุ่มประชากรอยู่ที่ 57.1%  และในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปมีการรับวัคซีนไป 56% โดยพื้นที่ที่มีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเกิน 60% ในประชากรทุกกลุ่มเป้าหมาย มี 20 จังหวัดได้แก่ ภูเก็ต นนทบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา น่าน สระบุรี ลําพูน ระยอง นครนายก ฉะเชิงเทรา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท ยโสธร สมุทรสงคราม ชลบุรี ลพบุรี มหาสารคาม นครปฐม


นพ.โอภาส ยังกล่าวย้ำว่าองค์การอนามัยโลกมีคำแนะนำให้ฉีดวัควีนเข็มกระตุ้นทุกสูตร ไม่ว่าจะเป็นซิโนแวค ซิโนฟาร์ม แอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ และโคโวแวกซ์ ซึ่งไทยขณะนี้คาดว่ายังเหลือเด็ก 5-11 ปี ประมาณ 2 ล้านคน และผู้สูงอายุ 60 ปี อีกประมาณ 2 ล้านคน ยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งในการจัดหาวัคซีนตามแผนของปี 2565 จัดซื้อ 120 ล้านโดส มีการอนุมัติจาก ศบค. และลงนามจัดซื้อแล้ว 90 ล้านโดส ส่งมอบ 36 ล้านโดส ฉีดแล้ว 34 ล้านโดส ซึ่งในการจัดซื้อวัคซีนมีการเผื่อไว้สำหรับเข็มกระตุ้น ทั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่ของสาเหตุที่คนไม่ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นมาจากความกังวล และเห็นว่าโอไมครอนไม่รุนแรง แต่ทั้งนี้อยากทำความเข้าใจว่าในกลุ่มเสี่ยงยังมีโอกาสติดเชื้อและเสียชีวิต หากไม่ได้รับวัคซีน ดังนั้น จึงอยากให้ทุกคนมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งกลยุทธ์ที่จะทำให้ประชาชนได้รับวัคซีน คือ การพาเข็มไปหาแขน โดยพบว่าคนชนบทยังรับวัคซีนเข็มกระตุ้นน้อยผิดกับคนเมืองที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นมากกว่า จึงให้จังหวัดทำการวิเคราะห์ข้อมูลการรับวัคซีนเป็นรายอำเภอ

นพ. สุเทพ เพชรมาก หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับการรับวัคซีนเข็มกระตุ้น พบ 3 จังหวัดชายแดน ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สัดส่วนการรับวัคซีนยังน้อย ซึ่งจะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก

ตรวจอาคารแผ่นดินไหว

ตรวจอาคารใน กทม.แล้วกว่าหมื่นแห่ง พบสีแดง 2 แห่ง ยังห้ามเข้าใช้ จากเหตุแผ่นดินไหว

หน่วยงานร่วมแถลงสถานการณ์ภาคเศรษฐกิจและระบบทางการเงินจากเหตุแผ่นดินไหว เผยตรวจสอบอาคารแล้วกว่า 10,000 แห่ง เป็นสีเขียว พบ 2 แห่ง ยังมีสีแดงไม่ให้เข้าใช้อาคาร แจง 4 บริษัทประกันภัยตึก สตง.ถล่ม ทำประกันภัยต่อกับบริษัทประกันต่างประเทศ

อพยพออกจากตึก

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ สั่งคนออกจากตึกทันที หลังเกิดเสียงดัง-รอยร้าว-เศษปูนร่วง ล่าสุดแจ้งให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว