กทม. 3 มิ.ย.- กรมควบคุมโรค เผยทยอยส่งวัคซีนโควิดเติมคลังแต่ละจังหวัดเป็นรอบ กระจายไป รพ.สต. ตามศักยภาพการฉีดและการจัดเก็บ ไม่มีปัญหาล้นตู้เย็น
ผู้อำนวยการโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เผยความครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเข้าสู่โรคประจำถิ่น ขณะนี้ยังต่ำกว่าเป้าหมาย ร้อยละ 60 การส่งวัคซีนลงพื้นที่จะตรวจสอบกับคลังแต่ละจังหวัด ก่อนทยอยจัดส่งเป็นรอบ เพื่อให้กระจายไป รพ.สต. ตามศักยภาพการฉีดและการจัดเก็บ จึงไม่มีปัญหาวัคซีนล้นตู้เย็น และยังช่วยให้ รพ.สต.จัดบริการประชาชนได้ง่ายขึ้น
วันนี้ (3 มิถุนายน 2565) นายแพทย์วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงมีผู้เป็นห่วงเรื่องการกระจายวัคซีนโควิด 19 ไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จะทำให้มีปัญหาวัคซีนล้นตู้เก็บในคลังโรงพยาบาลว่า การเปลี่ยนผ่านโรคโควิด 19 ไปสู่โรคประจำถิ่น หนึ่งในมาตรการที่สำคัญ คือ การให้วัคซีนทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม (Universal Vaccination) โดยแต่ละจังหวัดต้องมีความครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไม่น้อยกว่า ร้อยละ 60 แต่จากข้อมูล ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2565 มีความครอบคลุมเข็มกระตุ้นเพียงร้อยละ 41 โดยผู้ที่ครบกำหนดฉีดเข็มกระตุ้นมารับการฉีดประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น คาดว่ามีผู้ที่ครบกำหนดฉีดเข็มกระตุ้น และรอรับการฉีดเข็มกระตุ้น อีกประมาณ 16 ล้านคน
กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายส่งวัคซีนโควิด 19 ทั้งซิโนแวค แอสตราเซเนกา และไฟเซอร์ ไปยัง รพ.สต. ซึ่งเป็นหน่วยบริการที่ใกล้บ้าน และให้บริการแบบ walk in ทุกจุดฉีด เพื่อให้สะดวกในการนำผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงไปฉีดวัคซีนใกล้บ้าน พร้อมทั้งเร่งสื่อสาร เชิญชวนให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น รวมถึงเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปด้วย โดยวัคซีนจำนวน 16.7 ล้านโดสสำหรับ รพ.สต. จะทยอยส่งเป็นรอบๆ ไปที่คลังวัคซีน เพียงแห่งเดียวในแต่ละจังหวัด ซึ่งอาจเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดหรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และมีการประสานตรวจสอบวัคซีนคงคลังกับแต่ละจังหวัดก่อนส่งเสมอ ส่วนการกระจายวัคซีนไปที่ รพ.สต. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะจัดส่งตามศักยภาพการฉีดและความจุของตู้เย็นแต่ละ รพ.สต. จึงไม่มีปัญหาเรื่องวัคซีนจะล้นตู้เย็นอย่างที่เป็นข่าว
“ขณะนี้ ยังมีหลายจังหวัดที่ฉีดเข็มกระตุ้นต่ำกว่าร้อยละ20 หากไม่ช่วยกันระดมกำลังและส่งวัคซีนลงพื้นที่ จะส่งผลกระทบต่อแผนเปลี่ยนผ่านสู่โรคประจำถิ่น ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหลายจังหวัด เช่น ชลบุรี สมุทรปราการ พบว่า การที่รพ.สต.มีวัคซีนคงคลังเป็นของตนเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ รพ.สต. สามารถบริหารจัดการวัคซีนได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องรอวัคซีนที่ส่งมาจากคลังวัคซีนจังหวัด และเปิดให้บริการแบบ walk-in หรือรับนัดล่วงหน้าได้แบบไม่ต้องจำกัดจำนวน ขณะที่ รพ.สต.อีกหลายแห่งสามารถจัดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกให้กับสถานประกอบการหรือโรงงานที่มีผู้ต้องการฉีดวัคซีนจำนวนมากได้ โดยไม่ต้องรอการอนุมัติจากคลังวัคซีนระดับจังหวัด” นพ.วิชาญกล่าว .-สำนักข่าวไทย