ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า 2 มิ.ย.- ผู้ว่าฯ กทม. เข้าศาลาว่าการฯ เสาชิงช้า ตั้งแต่ตี 4 ยันหลังประชุมกับกรุงเทพธนาคม ปมสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว 1 เดือน เห็นความชัดเจน พร้อมหารืออีกหลายหน่วยที่เกี่ยวข้อง ชี้ค่าโดยสารสายสีเขียวควรต้องลดลง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมร่วมกับบริษัท กรุงเทพธนาคม หารือเปิดดูสัญญาและปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนที่ผู้ว่าฯ ประกาศทำทันที โดยภายในห้องประชุม ร่วมกับกรุงเทพธนาคม ผู้ว่าฯ ชัชชาติ นั่งหัวโต๊ะ มีผู้ร่วมประชุม อาทิ ทีมรองผู้ว่าฯ นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล และทีมที่ปรึกษา ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ และฝั่งผู้บริหารกรุงเทพธนาคม (เคที) ที่มาวันนี้ นำโดย ดร.เกรียงพล พัฒนรัฐ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด
ภายหลังการประชุม ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ระบุว่า วันนี้คุยกับเคที 2 เรื่อง คือ เรื่องรถไฟฟ้าสีเขียว และโครงการที่เคทีรับผิดชอบ คือ การนำสายสื่อสารลงดิน ซึ่งก็ได้คำตอบว่า ปัจจุบันที่ยังไม่คืบหน้ามาก มีการจ้างผู้รับเหมา 4 ราย แต่ยังติดปัญหา ส่วนกรอบวงเงินสูง ทำให้ต้องไปดูรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนอยากเห็นความก้าวหน้า ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว คาดจะชัดเจนภายใน 1 เดือน หลังวันนี้ได้เห็นสัญญา
ผู้ว่าฯ เผยอีกว่า ใจจริงอยากคืนหนี้โครงสร้างพื้นฐานที่โยนมาให้ กทม. แต่อย่างไรก็ตาม ต้องคุยกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต้องดูความยุติธรรมทุกฝ่ายด้วย มองว่าเรื่องหนี้เป็นตัวเร่งรัดเราหลายๆ อย่าง อยากจะเคลียร์เรื่องหนี้ก่อน เช่น หนี้จากโครงสร้างโยธา หนี้ระบบที่เคทีจ้างเอกชน และหนี้การเดินรถ ถ้าเรายกหนี้ก้อนแรกไปได้ ก็อาจจะทำให้ปัญหาต่างๆ คลายลง เรื่องราคาต่างๆ ก็อาจปรับยืดหยุ่นลงได้ และส่วนต่อขยายสายสีเขียว 2 ที่ตอนนี้ให้ฟรีอยู่ ก็มองว่า ต้องเริ่มเก็บค่าบริการแล้ว เพราะการให้นั่งฟรีก็เป็นการเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้ส่วนสถานีไข่แดง ซึ่งก็ต้องหารือกับเอกชน และอีกหลายหน่วยงาน ส่วนต่อสัมปทานกับบีทีเอส ที่จะหมดปี 2572 มองว่ายังมีเวลาพิจารณาว่าจะต่อหรือไม่ ขอดูสัญญาให้ละเอียดก่อน หลายเรื่องส่วนตัวอยากรู้ว่าสมเหตุสมผลไหม ก็ต้องดูฝ่ายอื่นมาประกอบด้วย ทั้งเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตามลำดับชั้น เมื่อได้ความคืบหน้าก็จะต้องรายงานถึง รมว.มหาดไทย ต่อไป
จากนั้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้พาสื่อชมศูนย์ระบบเทคโนโลยีจราจรของกรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารศาลาว่าการ กทม.1 ซึ่งปัจจุบันได้เชื่อมต่อข้อมูลตามนโยบายผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่นำระบบ Traffy Fondue (ทราฟฟี ฟองดูว์) มาปรับใช้งาน โดยเป็นช่องทางให้ประชาชนร้องเรียนปัญหาและปักหมุดแจ้งพิกัด และส่งภาพปัญหาที่เจอมาได้โดยตรง โดยข้อมูลจะลิงก์มาที่เจ้าหน้าที่ที่มอนิเตอร์ในห้องนี้ และประสานแก้ปัญหาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตั้งแต่เปิดระบบมาเพียงไม่กี่วัน พบว่ามีเรื่องร้องเรียนเข้ามากว่า 4,500 เรื่อง ระบบแจ้งส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว 1,400 เรื่อง ได้รับการแก้ไขแล้ว 58 เรื่อง ซึ่งระบบนี้ประชาชนผู้ร้องเรียนสามารถติดตามการแก้ไขปัญหาได้ โดยพบว่าในช่วงนี้ประชาชนร้องเรียนเรื่องรถติดเข้ามามากที่สุด
นายชัชชาติ ระบุว่า ระบบนี้มีมาก่อนแล้ว ตนเพียงนำมาปรับใช้ โดย Traffy Fondue คิดค้นโดยทีมนักวิจัยเนคเทค สวทช. เป็นแพลตฟอร์มที่จัดทำขึ้นสำหรับสื่อสารปัญหาของเมืองระหว่างประชาชนและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประชาชนสามารถแจ้งปัญหาที่พบไปให้ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วผ่านทางแอปฯ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความสะอาด ปัญหาทางเท้า ไฟส่องสว่าง หรือถนนชำรุด โดยเป็นการแจ้งปัญหาในรูปแบบที่มีข้อมูลเพียงพอให้หน่วยงานสามารถดำเนินการได้ทันที เช่น มีภาพถ่าย และตำแหน่งบนแผนที่
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ทราบว่ามาทำงานตี 4 เลย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยิ้มแล้วตอบว่า แค่อยากลองเปลี่ยนที่วิ่งออกกำลังกาย สวยมากเลย วิ่งชมวัดพระแก้ว ผ่านปากคลองตลาด พ่อค้าแม่ค้าตกใจใหญ่ที่เห็นตน เผยจากนี้อาจจะเปลี่ยนมาวิ่งแถวนี้บ่อยขึ้น ก็อาบน้ำทำงานต่อได้เลย พร้อมเผยว่า วันจันทร์ที่ 6 มิ.ย.นี้ จะหารือกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน มาช่วยดู ช่วยวางแผนแก้ปัญหาหลายๆ โครงการที่เป็นปัญหา เช่น รถไฟฟ้าสายสีเขียว อาจเข้ามาสังเกตการณ์ก็ได้ มองว่าจะทำให้หลายฝ่าย รวมทั้งตน สบายใจขึ้น.-สำนักข่าวไทย