สธ.เสนอปรับ ‘โควิด’ เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง

สธ. 1 มิ.ย.- ‘อนุทิน’ ยังไม่ประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่น รอท่าที WHO ก่อน ขณะนี้เสนอปรับเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง คล้ายกับโรคติดต่อทั่วไป ส่วนเปิดผับบาร์ วันนี้ มั่นใจป่วยเพิ่มขึ้น แต่ไม่รุนแรง ให้คกก.โรคติดต่อจังหวัดประเมิน หลังเปิดไป 2-3 สัปดาห์


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ว่า เนื่องจากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ลดลง ทั้งผู้ป่วยเหลือลดลงต่ำกว่า 5,000 คน การเสียชีวิตน้อยกว่า 50 คน  มีการรับวัคซีนไปมากกว่าก 140 ล้านโดส กระทรวงสาธารณสุข จึงเสนอผ่อนคลายมาตรการต่างๆ โดยวันนี้ (1 มิ.ย.) มีการเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด แต่ต้องเปิดบริการไม่เกิน 24.00 น. ซึ่งส่งผลให้สถานที่เปิดบริการ พนักงานยังต้องเคร่งครัดการปฏิบัติตัว มีการตรวจ ATK และต้องรับวัคซีนเข็มกระตุ้น แม้ว่าการเปิดบริการเหล่านี้จะทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ก็จะไม่รุนแรง และให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ทำการประเมินหลังผ่านไป 2-3 สัปดาห์ ส่วนพิจารณาให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นนั้น ยังคงต้องรอท่าทีขององค์การอนามัยโลกก่อน แม้ไทยจะไม่ได้เป็นเมืองขึ้นก็ตาม เบื้องต้น ได้เตรียมเสนอคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ที่คล้ายกับโรคติดต่อทั่วไป

นายอนุทิน กล่าวว่า การปฏิบัติตัวของประชาชน ตอนนี้ยังไม่แตกต่างจากเดิม คือ ต้องสวมหน้ากากอนามัย มีระยะห่าง และล้างมือ เหมือนเดิม และยังต้องรับวัคซีน เข็มกระตุ้น ไม่ว่าจะ 3 หรือ 4 เข็ม เพราะวัคซีนช่วยลดอัตราการเสียชีวิต  การใส่ท่อช่วยหายใจ 99% และลดการติดเชื้อ 76% พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือจนฝ่าวิกฤติ ในส่วนของระบบบริการการแพทย์ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ก็เป็นธรรมดา ที่จะกลับมาสู่ภาวะปกติ ในสถานพยาบาลทุกแห่ง และในการให้บริการ การดูแลรักษา ก็จะเป็นไปตามสิทธิรักษา สวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม และหลักประกันสุขภาพ  เช่น ไม่ต้องตรวจ ATK ในญาติที่มาเฝ้าไข้ จะตรวจ ATK, RT-PCR เฉพาะในผู้ป่วยที่ทำการผ่าตัดเท่านั้น รวมถึงยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเป็นโรคเฝ้าระวัง ก็เหมือนกันโรคอื่นที่พบ เช่น โรคไข้เลือดออก ต้องมีการติดตามเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และพัฒนา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

บอสแซมมิน

ยังไม่จบ! “แซม-มิน” ลุ้น DSI เห็นแย้งอัยการหรือไม่

แม้อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม-บอสมิน” แต่ดีเอสไอย้ำชัด คดียังไม่จบ มีเวลาอีก 30 วัน พิจารณาสำนวนที่ถูกตีกลับว่าจะเห็นแย้งคำสั่งหรือไม่ ส่วนประเด็น “บอสมิน” ไม่ถูกตัดผมขณะถูกคุมขัง ราชทัณฑ์มีคำตอบให้แล้ว

ยิงสส.กัมพูชา

ตร.ประสานอัยการ ยื่นขอศาลสืบพยานล่วงหน้าคดีลอบสังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตร.ประสานอัยการ ยื่นขอศาลสืบพยานล่วงหน้าคดีลอบสังหารอดีต สส.กัมพูชา ขณะที่ตัว “จ่าเอ็ม” มือยิง คาดว่าจะยังไม่ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยเร็วๆ นี้

burned houses alongside of road in Pacific Palisades

คนดังแห่อพยพออกจากบ้านในแอลเอ หนีไฟป่า

ผู้มีชื่อเสียงหลายคน รวมถึงคนในแวดวงบันเทิงฮอลลีวูดของสหรัฐ อยู่ในกลุ่มประชาชนหลายหมื่นคนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน หนีไฟป่าที่กำลังโหมไหม้เหนือการควบคุมรอบนครลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

นายกฯไปภูเก็ต

นายกฯ ปฏิบัติภารกิจภูเก็ต ประชุมบูรณาการแก้ปัญหาพื้นที่

นายกฯ ปฏิบัติภารกิจภูเก็ต ประชุมบูรณาการแก้ปัญหาพื้นที่ รองรับการเติบโตด้านท่องเที่ยว ก่อนเปิดงานแสดงเรือนานาชาติ ผลักดันภูเก็ตเป็น Premium Destination และการรองรับกิจกรรม Big Event