“ชัชชาติ” ดูพื้นที่ติด MRT เอกชนมอบ กทม.ทำประโยชน์

เขตบางซื่อ 27 พ.ค.- “ชัชชาติ” นั่ง MRT สายสีม่วง ลงสถานีวงศ์สว่าง ดูพื้นที่เอกชนว่างเปล่ามอบให้ กทม.ทำประโยชน์สาธารณะ พร้อมควง “จักรพันธุ์-ภิมุข” ว่าที่ทีมงานรองผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ด้วย


เมื่อเวลา 08.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมนายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. และนายภิมุข สิมะโรจน์ สองคนที่ถูกจับตาว่าจะมาร่วมทีมรองผู้ว่าฯ ของนายชัชชาติร่วมลงพื้นที่ด้วย โดยนายชัชชาติ ระบุว่าบริเวณนี้เป็นพื้นที่ว่างเปล่าติดกับสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ ตนเคยผ่านมาเห็นว่าเคยมีปลูกดอกทานตะวันไว้ด้วย ซึ่งทราบมาว่าเจ้าของที่ต้องการยกให้ กทม. ทำเป็นสวนสาธารณะ แต่ที่ผ่านมาติดปัญหา จึงตั้งใจมาดูและยืนยันเจตนารมณ์ นโยบายเพิ่มพื้นที่สีเขียว และให้คน กทม.เข้าถึงสวนสาธารณะ อยากให้มีหลายๆ จุดทั่วกรุงเทพฯ โดยตัวแทนที่ดิน ได้มอบหนังสือที่ระบุความต้องการให้ กทม.นำพื้นที่ตรงนี้ ที่มีประมาณ 2 ไร่ ไปทำประโยชน์เป็นที่สวนสาธารณะ ซึ่งเอกสารที่ยื่นให้ว่าที่ผู้ว่าฯ วันนี้ ก็เป็นหนังสือเดิมที่ได้ส่งเรื่องถึง กทม. ตั้งแต่ปี 2562 ยอมรับว่าหากนำพื้นที่ตรงนี้ไปปล่อยเช่าก็ได้ค่าเช่าคุ้มกว่า หรือนำมาปลูกกล้วยยอมเสียภาษีที่ดินถูก ก็ทำได้ แต่เจ้าของที่ไม่ได้อยากทำแบบนั้น อยากให้ กทม.ใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวม

โดยนายชัชชาติกล่าวขอบคุณและบอกว่าหากเอกชนพื้นที่อื่นๆ อยากมอบให้เป็นพื้นที่สีเขียว ก็ยินดี ติดต่อไปที่เขตใกล้บ้านได้เลย อย่างตรงนี้ มองว่าพัฒนาภายใน ติดตั้งไฟส่องสว่าง ปลูกต้นไม้ เป็นแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินเอกชน พัฒนาเป็นสวนสาธารณะ ส่วนมาตรการทางภาษี กทม.และเอกชนต้องคุยกันมีกำหนดระยะเวลาการเข้าใช้ประโยชน์ กทม.ไม่ได้จะลงทุนให้ทั้งหมด ยึดหลัก ต้องให้ยุติธรรมทั้งสองฝ่าย


ประเด็นการจัดเก็บภาษี ตามโซนสีของผังเมืองนั้น มองว่าน่าสนใจ แต่ไม่มั่นใจว่าอำนาจ กทม.จะทำได้หรือไม่อย่างไร เช่นบางเขตที่เป็นโซนเกษตรกรรม อาทิ หนองจอก ลาดกระบัง ตรงนั้นก็ยังเป็นโซนที่มีพื้นที่เกษตรกรรมอยู่ ทำได้ แต่มองว่าบางจุดใจกลางเมืองที่เอามาทำเป็นพื้นที่เกษตร ทั้งที่เป็นโซนผังเมือง สีแดง สีส้ม ก็มองไม่เหมาะกับการเอามาปลูกกล้วย เลี้ยงวัว ซึ่งตรงนี้ต้องไปดูข้อกฎหมายว่าในอำนาจ กทม.ทำได้แค่ไหนอย่างไรตาม พ.ร.บ.จัดเก็บภาษีที่ดินที่กำหนดไว้

ขณะที่การลงพื้นที่วันนี้ เป็นที่จับตามอง เพราะมีว่าที่ทีมงานรองผู้ว่าฯ ของนายชัชชาติ คือ นายภิมุข สิมะโรจน์ และนายจักกพันธุ์ ผิวงาม ลงพื้นที่ด้วย โดยนายชัชชาติ ได้ย้ำถึงการเลือกทีมงาน ยืนยันว่า ตนเลือกด้วยตนเอง เป็นข้อดีของการเป็นอิสระ โดยทั้งทีมรองผู้ว่าฯ 4 คน กลุ่มทีมงานเลขานุการ 5 คน และกลุ่มของที่ปรึกษาผู้ว่าฯ อีก 9 คน ตนเตรียมไว้หมดแล้วรอเปิดตัว เมื่อ กกต.รับรองอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ยังมีทีมที่ปรึกษาเฉพาะทางอีกหลายคน ที่ไม่ได้มีเงินเดือน มีตำแหน่งอะไร แต่หลายคนก็พร้อมมาช่วยกัน

นายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ ยุค พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เปิดใจว่า ตนเจอกับนายชัชชาติ ช่วงปี 2562 หลังจากที่เพิ่งลาออกจากการเป็นรองผู้ว่าฯ และจากที่ได้พูดคุยก็ทำให้ทราบถึงความมุ่งมั่นที่อยากจะเสนอตัวสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. และในช่วงนั้นก็อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากคนกลุ่มต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการคิดเพื่อพัฒนากรุงเทพฯ ซึ่งช่วงที่ตนเป็นรองผู้ว่าฯ ก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลในส่วนงาน เช่น สำนักระบายน้ำ สำนักโยธา และตอนนั้นก็มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง อาจารย์ก็มาขอคำปรึกษาในเรื่องต่างๆ ซึ่งตลอดมาไม่เคยคิดว่าจะต้องมีตำแหน่งใดๆ แต่หากยังไว้วางใจและเชื่อมั่นในตนเอง หากต้องการให้กลับเข้าไปร่วมทำงานเพื่อคนกรุงเทพฯ ก็ยินดี และจะทำให้ดีที่สุด ขอบคุณนายชัชชาติที่ให้เกียรติ


ขณะที่ นายภิมุข สิมะโรจน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า ที่มีกระแสข่าวว่าจะมารับตำแหน่งในทีมกทม.ของนายชัชชาติ กล่าวว่า เหตุผลที่ตัดสินใจเข้ามาช่วยนายชัชชาติ เพราะเห็นถึงความตั้งใจ และการทำงานที่เป็นอิสระ และอยากเข้ามาช่วยพัฒนา กทม.โดยการเข้าไปช่วยตั้งแต่ต้นไม่เคยหวังจะได้รับตำแหน่งใดๆ

ขณะที่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว เขตบางซื่อได้ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาถางหญ้า รอว่าที่ผู้ว่าฯ เข้ามาดำเนินการ และตลอดการลงพื้นที่ ก็มีพนักงานรักษาความสะอาดเข้ามาขอถ่ายรูป เรียกว่านายชัชชาติกลายเป็นขวัญใจของพนักงานทำความสะอาด กทม. โดยยังได้กล่าวถึงสวัสดิการพนักงานทำความสะอาดที่พบว่ามีปัญหา 2 เรื่อง คือ 1.ได้รับสวัสดิการน้อย เงินเดือนไม่เพียงกับค่าครองชีพ และ 2.มีจำนวนมากที่ ยังไม่บรรจุ ซึ่งเรื่องนี้ตนได้รับร้องเรียนมาตลอด อย่างเมื่อเช้าไปวิ่ง พนักงานทำความสะอาดที่จุดนั้น เขารู้ว่าคนจะวิ่งผ่านก็มาดักรอยื่นจดหมายร้องเรียนก็มี ซึ่งก็รับปากว่าจะช่วยดูให้ -.สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย