สำนักข่าวไทย 12 พ.ค.-คนกลางคืนรอลุ้น 1 มิ.ย.นี้ เปิดหรือไม่เปิด สถานบันเทิง หลังเสนอนายกฯ นำร่องเปิด 28 จังหวัดท่องเที่ยวก่อน หวังดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ เชื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ กว่า 3 แสนล้านในครึ่งปีนี้
นายธนากร คุปตจิตต์ ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์โควิดมีทิศทางดีขึ้น และตัวสะท้อนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ คือ ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งรวมไปถึงภาคท่องเที่ยวกลางคืน หากสามารถปลดล็อก ปล่อยให้เปิดกิจการได้ นำร่อง 1 มิ.ย.นี้ สำหรับ 28 จังหวัดที่ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ภายใต้เงื่อนไขด้านสาธารณสุข จะทำให้ครึ่งปีนี้เศรษฐกิจจะฟื้นตัว ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินจากภาคธุรกิจท่องเที่ยวกลางคืน เข้ามาในระบบเศรษฐกิจ ไม่น้อยกว่า 3 แสนล้านบาท เนื่องจากมีธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง ทั้ง พ่อครัว นักดนตรี ตลก การโชว์ การจัดอีเว้นท์ เกษตรกร รวมถึงการบริการรถรับจ้าง รถสาธารณะ ซึ่งเกี่ยวโยงกันหมด รัฐบาลต้องรีบตัดสินใจ และรีบทำ เนื่องจากตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งหลักต่างเปิดสถานบันเทิงหรือธุรกิจกลางคืนล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ทั้ง มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นเรื่องของการแข่งขัน จูงใจนักท่องเที่ยว หากมีนโยบาย กิจกรรมที่จูงใจจะดึงนักท่องเที่ยวให้วางแผนเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้สถานบันเทิงยังรายได้เป็นศูนย์ แม้จะผ่อนปรนให้เปิดเป็นร้านอาหารขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่กลับมาเปิดได้เพียง 20-30% ซึ่งไม่สร้างแรงจูงใจมากพอสำหรับนักท่องเที่ยว พร้อมฝากถึงรัฐบาลอยากให้รับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงและธุรกิจบริ
ด้าน นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวถึงความคืบหน้า หลังเป็นตัวแทน 8 สมาคมธุรกิจกลางคืน และเครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ รวม 231 ราย ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.โรคระบาด ซึ่งมีผลต่อการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงอนุญาตให้เปิดผับ บาร์ คาราโอเกะตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้ ว่า เนื่องจาก 1 ก.ค.นี้ ประเทศไทย ตั้งเป้าหมายให้โควิด19 เป็นโรคประจำถิ่น ดังนั้นควรกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้ ขณะที่สถานบริการผับบาร์ต้อง ปิดมานานกว่า 2 ปีแล้ว จึงเสนอขอเปิดนำร่องใน 28 จังหวัดท่องเที่ยวก่อน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย จึงทยอยเปิดทั่วประเทศ หลังยื่นข้อเสนอไปเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี ทางสมาคมฯคาดหวังว่า จะถูกนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ครั้งต่อไป หากภาครัฐเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ เชื่อว่าจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศให้กลับคืนมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง จึงอยากให้รัฐบาลเห็นใจผู้ประกอบการกลุ่มนี้ด้วย เนื่องจากโควิดที่ผ่านมา สูญเสียรายได้ไปกว่า 1แสนล้านบาท หากเปิดได้จะสร้างรายได้ให้ประเทศ มากกว่า 3 แสนล้านบาท เกิดการจ้างงาน และลงสู่ภาคเกษตรกรด้วย ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบประเทศไทยต่างทยอยเปิดผับบาร์กันหมดแล้ว .-สำนักข่าวไทย