กรุงเทพฯ 10 พ.ค. – หลังมีกฎหมายใหม่บังคับใช้คาร์ซีทในเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 5 กันยายนนี้ หลายภาคส่วนทั้งผู้ปกครอง ผู้จำหน่าย และนักวิชาการด้านความปลอดภัยในเด็ก ได้เรียกร้องให้ภาครัฐเร่งสร้างความเข้าใจให้ชัดเจน และออกมาตรการแบ่งเบาภาระ ช่วยให้เข้าถึงคาร์ซีทสำหรับเด็กได้ง่ายขึ้น ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้
“น้องของขวัญ” เป็นหนึ่งในเด็กที่ครอบครัวฝึกให้นั่งคาร์ซีทมาตั้งแต่แรกเกิด จึงคุ้นชินและไม่รู้สึกขัดขืน คุณแม่บอกว่าคาร์ซีทมีความจำเป็นอย่างมากต่อความปลอดภัยของลูก ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจทำให้ลูกกระเด็นออกไปนอกรถ หรือเศษกระจกบาดได้ จึงเริ่มศึกษารายละเอียดมาตั้งแต่เริ่มตั้งท้อง เพื่อให้ได้คาร์ซีทที่มีมาตรฐาน และราคาไม่แพงมาก ทั้งนี้ เห็นด้วยที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายให้ใช้คาร์ซีทในเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี แต่ภาครัฐควรเข้ามาควบคุมราคา และมีมาตรการอุดหนุนช่วยเหลือผู้ปกครองด้วย
ส่วนในมุมของผู้จำหน่ายคาร์ซีท หลายร้านบอกว่าหลังมีกฎหมายบังคับใช้คาร์ซีทในเด็กไม่เกิน 6 ปี ที่จะมีผลบังคับใช้หลัง 120 วัน ก็ทำให้เกิดกระแสตื่นตัว ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างที่ร้าน NG สโตว์ ย่านบางแค ร้านขายส่งคาร์ซีท ก็มียอดขายเพิ่มขึ้น 30-50% มีผู้เข้ามาขอทดลองใช้ และให้สอนติดตั้งเป็นจำนวนมาก ที่นี่จำหน่ายเฉพาะคาร์ซีทที่ผ่านมาตรฐานยุโรป มีตั้งแต่หลักพัน จนถึงหลักหมื่นบาท สำหรับคนที่ไม่มีกำลังซื้อจะแนะนำให้ไปหาซื้อคาร์ซีทมือ 2 ซึ่งมีความปลอดภัยและใช้งานได้เหมือนกัน อีกทั้งมองว่าภาครัฐควรมีมาตรการเข้ามาช่วยเหลือในส่วนนี้ด้วย
หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี บอกว่า คาร์ซีทช่วยลดอัตรการเสียชีวิตในเด็กได้อย่างมาก ในต่างประเทศมีกฎหมายบังคับใช้คาร์ซีทมานานแล้ว ที่สหรัฐอเมริกา มีการศึกษาพบว่าคาร์ซีทช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตในเด็กทารกและเด็กอายุ 1-4 ปี ได้ 69% ในเด็กอายุมากกว่า 5 ปี ได้ถึง 45% ถ้าใช้อย่างถูกวิธี และช่วยลดความเสี่ยงบาดเจ็บรุนแรงได้มากถึง 50% จึงเห็นด้วยที่เมืองไทยจะบังคับใช้กฎหมายนี้อย่างจริงจัง
พร้อมแนะหลากหลายมาตรการเพิ่มความปลอดภัยให้เด็ก เช่น ไม่ให้อุ้มเด็กนั่งตักในเบาะหน้า เพราะเป็นจุดที่อันตรายที่สุดในรถ ควรใช้คาร์ซีทกับเด็กตั้งแต่แรกเกิด จนถึงอายุไม่เกิน 9 ปี หรือสูงไม่เกิน 135 ซม. และในช่วง 120 วัน ก่อนกฎหมายบังคับใช้ ภาครัฐต้องมีมาตรการช่วยเหลือ ให้ประชาชนเข้าถึงคาร์ซีทได้ง่ายขึ้น พร้อมมีมาตรการลดต้นทุนให้ผู้ขาย สนับสนุนให้มีการผลิตในประเทศ และมีโครงการให้ยืมใช้คาร์ซีท
สำหรับราคาคาร์ซีทในตลาดมือหนึ่งและมือสอง มีหลายราคา เริ่มตั้งแต่หลักพัน ไล่เรียงจนไปถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ทำคาร์ซีท ฟังก์ชันในการใช้งาน ความแข็งแรงคงทน บริการหลังการขาย และสิทธิบัตรรับรองความปลอดภัย ก่อนที่กฎหมายใหม่บังคับให้เด็กไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งคาร์ซีท จะมีผลบังคับใช้ 5 กันยายนนี้ จึงการเรียกร้องให้ภาครัฐสร้างความเข้าใจให้ชัดเจน และออกมาตรการแบ่งเบาภาระประชาชน ช่วยให้เข้าถึงคาร์ซีทสำหรับเด็กได้ง่ายขึ้น