ททท.เตรียมชง ศบศ.ขยายสิทธิ “เราเที่ยวด้วยกัน”

ททท. 5 พ.ค.- ททท.เตรียมชง ศบศ. พิจารณาขยายสิทธิ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4” เพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ พร้อมดึงเอกชนร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน พลัส” ลดราคาห้องพักสูงสุด 50%


นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 หลังจากที่สิทธิเต็มก่อนกำหนดไปตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้หลังจากที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบวงเงินที่เหลือในเฟสที่ 4 สรุปผลงานในรอบที่ผ่านมา พบว่ามีงบประมาณเหลือมาประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากค่าห้องพัก ที่ภาครัฐจะคืนให้ผู้ประกอบการ 40% ของค่าห้องแต่ไม่เกิน 3,000 บาท หากคำนวนหากจะคืนจำนวนเต็มโควตา ราคาห้องพักจะต้องอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาทต่อคืน แต่ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะลดราคาอยู่แล้ว และนักท่องเที่ยวจะเลือกเรตค่าห้องเฉลี่ยที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อคืน จึงทำให้งบมีเหลือมาพอสมควร

ซึ่งส่วนที่เหลือยกมาประมาณ 4,000 ล้านบาท มาคิดคำนวณแล้ว จะทำให้ เราเที่ยวด้วยกัน ครั้งต่อไปจะเพิ่มได้อีก 1 ล้านสิทธิ โดยที่ยังคงคูปองค่าอาหาร รวมถึงค่าเครื่องบินได้ตามเดิม และไม่ต้องของบประมาณเพิ่มเติมมาทำโครงการต่อ  โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใดๆ เพียงแค่ขอขยายเวลาจากเดิมที่จะหมดใน 31 พฤษภาคม ขยายไปถึง 30 กันยายน  เพราะหากต้องปรับเปลี่ยนเงื่อนไขจะส่งผลให้ต้องแก้ทั้งระบบ กินเวลาอีกอย่างน้อย 45 วัน ททท.ไม่อยากเสียโอกาสในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ททท.เตรียมนำแผนให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) พิจารณาเห็นชอบ และจะเสนอเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ(ศบศ.) ในวันพรุ่งนี้(6 พ.ค.) หากผ่านความเห็นชอบ ททท. พร้อมที่จะเริ่มโครงการต่อได้ทันที โดยที่จะไม่ใช้คำว่าเฟสที่ 5 แต่จะเป็นส่วนต่อขยายจากเฟส 4 ที่สามารถไปต่อได้ทันที


ผู้ว่าฯ ททท. กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้คุยกับหลายสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยว รวมถึงโรงแรมที่พัก เพื่อจะดึงผู้ประกอบการที่พร้อมนำห้องพัก ส่วนหนึ่งมาลดราคาสูงสุดที่ 50% มาไว้ในเว็บไซต์ของ ททท.เพิ่มเติมจากอีก 1 ล้านสิทธิในระบบ ให้เป็นอีกทางเลือกให้นักท่องเที่ยวพิจารณาโดยที่ไม่ต้องเข้าระบบ เพียงแต่นักท่องเที่ยวจะมีความมั่นใจได้ว่า ททท.ได้รับรองแล้ว ซึ่งจำนวนห้องที่แต่ละโรงแรมนำมาลดราคาจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่ช่วงเวลา และความสมัครใจของผู้ประกอบการแต่ละราย เรียกกลุ่มนี้ว่า “เราเที่ยวด้วยกัน พลัส”

ส่วนโครงการ ทัวร์เที่ยวไทยนั้น ททท.อาจใช้โมเดลนำงบประมาณที่มีอยู่มาขยายระยะเวลาโครงการออกไปถึง 30 กันยายนเช่นกัน ส่วนที่ผู้ประกอบการแสดงความเห็นอยากให้ขยายโควตาจากบริษัทละ 1,000 สิทธิ ขยับเป็น 3,000 สิทธิ ผู้ว่าฯ ททท. ระบุว่า โครงการนี้มีบริษัททัวร์ขอสมัครเข้าร่วมโครงการ 800 กว่าบริษัท แต่ตอนนี้สามารถขายได้เต็มสิทธิประมาณ 375 บริษัท  ส่วนตัวมองว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องขยายสิทธิ เพราะประสงค์หลัก คือ ต้องการกระจายรายได้ให้กับบริษัทอื่นๆ ซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีแล้ว เพราะ ททท.จะเสนอขยายเวลาโครงการให้ถึงสิ้นเดือนกันยายน

ขณะที่ ภาพรวมของการท่องเที่ยวตอนนี้ถือว่ามีแนวโน้ม สัญญาณฟื้นตัวที่ดี  มั่นใจว่าเป้าที่วางไว้ยังเป็นได้อย่างที่หวัง คือ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 7-10 ล้านคนในปีนี้ และการท่องเที่ยวในประเทศ 160 ล้านคน/ครั้ง โดยเฉพาะตัวเลขการเดินทางในประเทศ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนเมษายน อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านคน/ครั้ง เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ แต่หลังจากนี้ที่สถานการณ์โรคดีขึ้นจะเร่งกระตุ้นกิจกรรมให้เกิดการเดินทางให้ได้อย่างน้อย 12 ล้านคน/ครั้ง ต่อเดือน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พยาบาลถูกตบ

“สมศักดิ์” พร้อมช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า

“สมศักดิ์” รมว.สธ. พร้อมสนับสนุนหา “ทนายความ” ช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า บอกหากเจ้าตัวไม่ดำเนินคดี กระทรวงฯ พร้อมออกโรงแทน หวั่นเป็นเยี่ยงอย่าง

รพ.ระยอง ยันดำเนินคดีถึงที่สุดญาติคนไข้ตบพยาบาล

โรงพยาบาลระยอง แถลงปมญาติคนไข้ตบหน้าพยาบาล เผยหลังเกิดเหตุได้ดูแลอาการบาดเจ็บของพยาบาลผู้ประสบเหตุทันที ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

ข่าวแนะนำ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เสนอ 4 ข้อปราบแก๊งคอลฯ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เตรียมเสนอ 4 มาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “บิ๊กอ้วน” คณะทูตจีนรอต้อนรับ ขณะเจ้าตัวสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ตอบสื่อ

สธ.ลั่นเอาผิดญาติคนไข้ตบพยาบาลให้ถึงที่สุด

ผอ.โรงพยาบาลระยอง เข้าพบผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข ปมญาติคนไข้บุกตบพยาบาล สธ. ยืนยันต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านพยาบาลยังเครียด เยื่อบุแก้วหูอักเสบรุนแรง

รวบชาวจีนเช่าคอนโดพระราม 9 เปิดเว็บพนันออนไลน์

ตำรวจบุกจับ ชาวจีน 15 คน เช่าคอนโดยกชั้น ย่านพระราม 9 เปิดเป็นฐานปฏิบัติการเว็บพนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนในบัญชีดิจิทัล กว่า 9 ล้านบาท