สปสช.ไฟเขียวใช้เงิน กปท.หนุนมาตรการลดผู้ป่วยโรคไต

สปสช. 3 พ.ค.- บอร์ด สปสช. ไฟเขียวใช้เงิน กปท. จัดทำโครงการเพื่อลดผู้ป่วยโรคไตรายใหม่ หนุนนโยบาย “ทศวรรษมาตรการการชะลอไตเสื่อม เพื่อลดผู้ป่วยโรคไตรายใหม่” พร้อมเดินหน้า “มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้บริการไตวายเรื้อรัง” เริ่ม 15 พ.ค.นี้


ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) วันที่ 2 พฤษภาคม 2565 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน มีมติเห็นชอบข้อเสนอการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและชะลอจำนวนผู้ป่วยโรคไตรายใหม่ และมอบหมายให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการอย่างเต็มที่ในการสนับสนุนมาตรการนี้ และให้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการใช้งบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) ที่ยังไม่มีแผนการใช้จ่าย เพื่อสนับสนุนนโยบายดังกล่าว โดยจัดทำโครงการที่ชัดเจนและเริ่มดำเนินการภายในเดือน พ.ค.2565 พร้อมประสานกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ในการขับเคลื่อนนโยบายนี้

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ บอร์ด สปสช.เห็นชอบให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังสิทธิบัตรทองที่ได้รับการกำหนดให้บำบัดทดแทนไตด้วยวิธีล้างไตทางช่องท้อง แต่ไม่สมัครใจรับการบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีดังกล่าว และเลือกที่จะจ่ายเงินเองเพื่อฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ให้สามารถรับบริการฟอกเลือดได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ดี ในอีกด้านหนึ่งก็จำเป็นต้องดำเนินมาตรการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยเฉพาะเรื่องไต เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่อาจเข้าสู่ระบบการรักษาในอนาคต ซึ่งในเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา บอร์ด สปสช.เห็นชอบมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้บริการไตวายเรื้อรัง และ มอบหมาย สปสช. ดำเนินการและจัดทำข้อเสนอนโยบายการจัดระบบดูแลโรคไตทั้งระบบ ตั้งแต่บริการด้านสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การทบทวนเกณฑ์การเข้าสู่การรักษาการบำบัดทดแทนไต รวมทั้งการสนับสนุน เร่งรัด มาตรการป้องกันและชะลอจำนวนผู้ป่วยโรคไตรายใหม่


ประกอบกับคณะกรรมการกำหนดแนวทางการใช้จ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ของหน่วยบริการสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระดับประเทศ (คณะกรรมการ 7×7) มีมติเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 เห็นชอบนโยบาย “ทศวรรษมาตรการการชะลอไตเสื่อม เพื่อลดผู้ป่วยโรคไตรายใหม่” ซึ่งมอบหมายหน่วยบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทุกระดับ จัดบริการคลินิกโรคไตเรื้อรัง (CKD Clinic) แบบบูรณาการ โดยขอรับสนับสนุนงบประมาณจาก กปท. ตลอดจนมอบหมายให้ สปสช.จัดทำตัวอย่างโครงการเพื่อให้หน่วยบริการดำเนินการขอรับงบประมาณจาก กปท. ตลอดจนประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ร่วมการสนับสนุน หลังจากนั้นคณะอนุกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของ สปสช. เห็นชอบเรื่องดังกล่าวและเสนอเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด สปสช.ให้ความเห็นชอบในครั้งนี้

ทั้งนี้ กลไกและกิจกรรมเพื่อชะลอไตเสื่อมตามมาตรการป้องกันและชะลอจำนวนผู้ป่วยโรคไตรายใหม่ จะประกอบด้วย 1.คณะกรรมการนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับพื้นที่ รับทราบนโยบาย “ทศวรรษมาตรการการชะลอไตเสื่อม เพื่อลดผู้ป่วยโรคไตรายใหม่” และสนับสนุนการขับเคลื่อนในพื้นที่ 2.สธ.ขับเคลื่อนนโยบายให้หน่วยบริการทุกระดับจัดบริการ CKD clinic Model ในชุมชน แบบ Multi function โดยทีมสหวิชาชีพ ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักกายภาพบำบัด และโภชนากร 3.โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ท้องถิ่น และองค์กรเอกชน สามารถเสนอโครงการเพื่อรับการสนับสนุนงบประมาณจาก กปท. โดยในโครงการจะมีกิจกรรมการค้นหาผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่ไตจะเสื่อม เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ผู้ที่ใช้ยารักษาโรคเป็นเวลานาน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบริโภค การเยี่ยมบ้านเพื่อให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพ สามารถดูแลตนเองได้ ลดพฤติกรรมเสี่ยง การเฝ้าระวังการใช้สมุนไพร ยา อาหาร และส่งเสริมการออกกำลังกาย การรณรงค์สื่อสารด้านสุขภาพ การจัดการสิ่งแวดล้อม การให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ อาสาสมัครประจำครอบครัว ผู้ดูแลผู้ป่วย

ในขณะเดียวกัน สปสช. จะจัดทำตัวอย่างโครงการที่มีกิจกรรมที่เหมาะสมในการชะลอไตเสื่อม เพื่อให้หน่วยบริการใช้ในการขอรับงบประมาณจาก กปท. การขับเคลื่อนนโยบายร่วมกับพื้นที่ที่มีความพร้อมและมีงบประมาณสนับสนุน ส่วนพื้นที่ที่มีงบประมาณไม่เพียงพอ สปสช.จะพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อให้สามารถดำเนินการตามนโยบายได้ ตลอดจนประสานกรมวิชาการของ สธ.ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การสนับสนุนด้านวิชาการและกำกับติดตามการดำเนินงานของหน่วยบริการ รวมทั้งประสานกับ สถ. และ มท. เพื่อให้การสนับสนุนการดำเนินงาน รวมทั้งร่วมกำกับติดตามผลการดำเนินงานของ อปท.


“จากมติ บอร์ด สปสช. ที่เห็นชอบนี้ สปสช.จะเร่งดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนการใช้เงิน กปท. เพื่อจัดทำโครงการค้นหาและชะลอผู้ป่วยโรคไตรายใหม่ทันที ทั้งปัจจุบัน กปท.มีเงินงบประมาณคงเหลือและยังไม่มีแผนใช้เงินอยู่ประมาณ 2,315 ล้านบาท หลังจากนี้จะขอความร่วมมือ สธ. และ มท. ในการชี้แจงทำความเข้าใจกับหน่วยบริการหรือ อปท. ต่อไป โดยจะเริ่มเปิดให้เสนอโครงการขอรับงบประมาณได้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.2565 เป็นต้นไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

สอบถามเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทองได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ ทั้งไลน์ สปสช. (ไลน์ไอดี @nhso) หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก