“อัศวิน” เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ย้ำชอบทำ แต่ไม่ชอบพูด

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – “อัศวิน” เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ลานอนุสาวรีย์พระเจ้าตากฯ ย้ำ ชอบทำ แต่ไม่ชอบพูด เลือก “อัศวิน” ทำต่อได้ทันที


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 6 ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ครั้งที่ 3 บริเวณลานอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ พร้อมผู้สมัคร ส.ก. กลุ่มรักษ์กรุงเทพ โซนกรุงธนเหนือ แต่ละเขตผลัดกันขึ้นเวทีพูดคุยกับที่น้องประชาชน ดังนี้

  • เขตจอมทอง เบอร์ 1 ร.ต.อ.จักรกฤช ปิ่นกร
  • เขตบางกอกน้อย เบอร์ 5 ร.ท.จักรพงษ์ วุฑฒยากร
  • เขตตลิ่งชัน เบอร์ 4 นายชัชชนะ เอมปราณีต (ผู้ใหญ่หนุ่ม)
  • เขตธนบุรี เบอร์ 3 นายธนกร ธรรมวรัญจน์ (สข.เป็ด)
  • เขตคลองสาน เบอร์ 3 นายธวัช ศรีวัฒนะ
  • เขตบางพลัด เบอร์ 2 นายพงษ์ศกร ฟุ้งเฟื่อง (อ๊อฟ)
  • เขตบางกอกใหญ่ เบอร์ 7 พ.ต.ท.วิศิษฐ์ สุวรรณ์
  • เขตทวีวัฒนา เบอร์ 1 นายยงวุฒิ ทองอยู่

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ เบอร์ 6 ได้ขอบคุณพี่น้องประชาชน เขตกรุงธนเหนือ ที่มาร่วมฟังการปราศรัยในวันนี้ โดยกล่าวบนเวทีปราศรัยว่า “กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองแห่งความหวังและโอกาส ที่หลายคนอยากเข้ามาศึกษา ทำงาน ใช้ชีวิต รวมทั้งสร้างครอบครัว ซึ่งทุกคนล้วนคาดหวังที่จะได้รับความปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ด้วยความซับซ้อนของเมืองทำให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย การบริหารงานของกรุงเทพฯ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับคนที่เป็นผู้ว่าฯ การบริหารงานของกรุงเทพฯ เป็นการบ้านไม่ใช่การเมือง แต่เป็นเรื่องที่ผู้ว่าฯ จะต้องเก็บเอาปัญหาของพี่น้องประชาชนไปคิด และหาวิธีการแก้ไขปัญหาให้ได้ ที่สำคัญผู้ว่าฯ กทม. ต้องมีทีมงาน สก. เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาครับ เพราะ ส.ก. เปรียบเสมือนทีมงานที่คอยขับเคลื่อนการทำงาน อยู่ในสภา กทม. ให้แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น เลือก “อัศวิน” เบอร์ 6 แล้ว อย่าลืมเลือก ส.ก.กลุ่มรักษ์กรุงเทพ ด้วย


และ พล.ต.อ.อัศวิน ได้พูดถึงเรื่องที่มีคนถามว่าอยู่มา 5 ปี ทำะไรบ้าง ? ไม่เห็นทำอะไรเลย ? โดยกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะตนทำมาเยอะมาก ที่ไม่ได้พูด ไม่ได้แปลว่าตนไม่ได้ทำ กรุงเทพมหานครหยุดชะงักมานาน ด้วยปัญหาโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนปกติ และถึงเวลาแล้วที่กรุงเทพฯ ต้องไปต่อ ให้พี่น้องประชาชนทำมาหากินได้เหมือนเดิม สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของตามท้องถนนแล้วไม่มีที่ขายของเป็นหลักแหล่ง มีนโยบายที่ตนอยากผลักดัน คือ

  1. การประสานงานทุกภาคส่วน ผลักดันเพิ่มจุดผ่อนผัน เพื่อให้มีที่ทำมาค้าขายมากขึ้นกว่าเดิม โดยให้คณะกรรมการชุมชนมาร่วมออกแบบ แต่จะต้องเกิดความสมดุลระหว่างคนเดินเท้าและพ่อค้าแม่ขาย
  2. ผลักดันเงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ ที่เดิมมีวงเงินอยู่ประมาณ 1 แสนบาท แต่พี่น้องประชาชนยังเข้าไม่ถึง เพราะเงื่อนไขเยอะ ดังนั้น หากได้กลับมาจะเสนอ สภา กทม.แก้ไขข้อบัญญัติต่างๆให้ง่ายขึ้น เพื่อลดเงื่อนไขและเพิ่มวงเงินมากขึ้น
  3. กระตุ้นการท่องเที่ยวให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวกลับมา เพราะก่อนเกิดโควิด กรุงเทพฯ มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่า 24 ล้านคน ดังนั้นจึงต้องกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับคืนมา โดยจะผลักดันทำตลาดและถนนคนเดินทั่วทุกเขต เพื่อให้มีเงินเข้ากระเป๋าพี่น้องประชาชนเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญงบประมาณต่าง ๆ ที่มีอยู่ตามเขตในแต่ละปี พี่น้องประชาชนกรุงเทพฯ จะต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจใช้เงินทุกบาททุกสตางค์

นอกจากนี้ยังได้พูดถึงปัญหาน้ำท่วม ที่ได้แก้ไขไปแล้ว จนเหลือจุดเสี่ยงน้ำท่วมแค่ 9 จุด ซึ่งจะต้องมาทำต่อให้จบ

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายที่อยากจะผลักดัน ให้มีโรงพยาบาล 4 มุม เมือง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ศูนย์สาธารณสุข จะผลักดันให้เป็นโรงพยาบาลประจำเขต ที่มีเครื่องฟอกไต เครื่องให้ออกซิเจน เครื่องเอกซเรย์ และยังมีอีกหลายอย่าง ที่ต้องทำต่อให้กับพี่น้องประชาชน


และขอให้เลือก อัศวิน เพื่อเป็นผู้ว่าฯ ที่ทำจริง เป็นนักปฏิบัติ เป็นนักประสาน และเปิดกว้าง ที่สำคัญ เลือกอัศวิน ทำต่อได้ในทันที ไม่ต้องเสียเวลามานับหนึ่งใหม่ เพราะเลือกคนอื่น ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาศึกษางานนานเท่าไร กว่าที่นโยบายเขาจะเอามาทำได้ และจะทำหรือเปล่าไม่รู้ แต่ อัศวิน ทำจริง และทำต่อได้ทันที และเชิญชวน 22 พฤษภาคมนี้ ให้กาบัตรสีน้ำตาล เลือก ผู้ว่าฯ เบอร์ 6

กรณีเรื่องป้ายหาเสียงที่ถูกทำลายได้ลงไปดูด้วยหรือไม่ ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวว่า “เรื่องป้ายหาเสียงที่มีการถูกทำลาย ผู้สมัคร ส.ก.ได้ลงไปดูตลอด ป้ายไหนที่มีปัญหาก็เปลี่ยน เข้าใจว่าบางที อาจเกิดมาจากลมแรง หรือบางคนก็อาจไม่มีเจตนาที่จะทำให้เสียหาย เราก็แก้ไข อันไหนขาด ก็เปลี่ยนเอาอันใหม่มาแทนไม่มีปัญหาอะไร ไม่ได้มองว่าเป็นเกมการเมือง ไม่มีอะไร อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ตนเป็นคนคิดในแง่บวกเสมอ ไม่คิดในแง่ลบ” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ฝนตกหนักบางแห่ง กลางตอนล่าง-ตะวันออก-ใต้

กทม. 7 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ โดยกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย […]

เจอแล้ว! เจ้าของเงิน 12 ล้าน ซุกกล่องทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – โผล่แล้ว! “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี อ้างเป็นเงินเก็บตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ที่ห้องพักน้ำรั่ว จึงเก็บของมาทิ้ง ลืมว่ามีเงินเก็บไว้ในกล่อง เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี มาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เผยว่า นายทวีวัฒน์ อ้างว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตน ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ส่วนสาเหตุที่นำมาทิ้ง เนื่องจากน้ำรั่วภายในห้องพัก จึงเก็บข้าวของในห้องที่ถูกน้ำท่วมมาทิ้ง โดยลืมว่ามีเงินเก็บไว้อยู่ในกล่อง พอทราบเรื่องก็เลยมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน พร้อมให้ตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าว อ้างมีหลักฐานยืนยันว่า เงินดังกล่าวได้มาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนมารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการ กสทช. […]

โซเชียลแห่ติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

6 มิ.ย. – ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด มีการส่งกำลังใจให้ผู้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ด้วยแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ที่กำลังร้อนแรงในโลกโซเซียลขณะนี้ หลัง “กองทัพบก Royal Thai Army” เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติงานปกป้องประเทศชาติ บทเพลงต่างๆ ที่สื่อถึงความรักประเทศไทย ก็ถูกนำมาโพสต์ลงโซเซียลในช่วงนี้เช่นกัน หรือจะเป็นกระแสหกเดือนหก ที่นักช้อปออนไลน์รู้จักกันดี ทางกองทัพก็สามารถนำมาโยง ให้เห็นถึงความพร้อมของกำลังพล อย่างกองทัพอากาศ โพสต์ภาพ ทหารติดระเบิดบนเครื่องบินรบ นามเรียกขาน “Lightning” พร้อมบรรยายด้วยข้อความ สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย แสดงถึงการพร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย เช่นเดียวกับ เพจกองทัพบก โพสต์ภาพทหารโดดร่ม พร้อมข้อความ Army ส่งด่วน และ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ไม่เพียงแต่เหล่าทัพที่จุดกระแสรักชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ประกาศจุดยืน ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ พร้อมบังคับใช้กฎหมาย และสนับสนุนการปฏิบัติทางยุทธการ พิทักษ์พื้นที่ชายแดน […]

สมช.ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ปัญหามั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- สมช. ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มอบ “กองทัพ” ประสานการปฏิบัติ พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์-ปกป้องอธิปไตย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกเอกสารข่าว ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 โดยที่ประชุม สมช. ได้รับทราบพัฒนาการของสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมฯ ได้เตรียมพร้อมการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมและประชาชน รวมถึงนานาชาติ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ โดยให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ติดตาม ประสานงาน และเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติม หากฝ่ายกัมพูชามีการยกระดับปัญหา ในการนี้ มอบหมายให้กองทัพประสานการปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยสอดคล้องกับแนวทางการเจรจาใน JBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 […]