สธ. 22 เม.ย.- อธิบดีกรมการแพทย์ ชี้ตัวเลขเตียงป่วยโควิดยังเหลือทุกระดับ ใช้ไปแค่ 30% หลังผ่านสงกรานต์มา 1 สัปดาห์ แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจรอลุ้นอีก 1 สัปดาห์ หรือสิ้นเดือน เม.ย.ชี้ขาด เพราะตัวเลขป่วยจริงจะค่อยปรากฎ เชื่อที่ติดเชื้อน้อย ส่วนใหญ่ป้องกันตัวดี กับยังไม่ได้ตรวจ
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงสถานการณ์เตียงของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 ว่า ขณะนี้อัตราการครองเตียง ทุกระดับภาพรวมอยู่ที่ 30% ส่วนเตียงเด็กอยู่ที่ 46% ทั้งนี้เป็นค่าเฉลี่ยของ 1 สัปดาห์หลังผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตามถือว่าสถานการณ์การติดเชื้อในขณะนี้ถือว่า ไม่ได้พุ่งสูง หรือ อาจเพราะประชาชนป้องกันตนเองดี และส่วนหนึ่งอาจเพราะไม่ได้มีการตรวจหาเชื้อ ดังนั้นต้องรออีก 1 สัปดาห์ หรือ ราวสิ้นเดือนเมษายน จึงจะสามารถระบุได้ชัดเจนว่า สงกรานต์มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะตัวผู้ป่วยอย่างไรก็ตามจะต้องสะท้อนออกมาอยู่ดี ตอนนี้ไม่สามารถระบุได้ว่า มีการส่งออกเชื้อไปต่างจังหวัดหรือจะมีการติดเชื้อในพื้นที่กทม.อีกหรือไม่
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ทางผู้เชี่ยวชาญกำลังพิจารณาหารือปรับเกณฑ์การรับจ่ายยา โมลนูพิราเวียร์ และ แพกซ์โลวิดใหม่ โดยไม่ได้กำหนดให้ต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไปอีกแล้ว แต่ให้กำหนดแค่อายุ 18 ปี ขึ้นไป พร้อมกับ 2 ปัจจัยเสี่ยงประกอบ ทั้งการมีโรคร่วม หรือ การได้รับวัคซีนไม่ครบ ก็สามารถรับยา พร้อมยืนยันการจ่ายยาให้กับผู้ป่วย เน้นคนที่มีอาการเท่านั้น โดยยาฟาวิพิราเวียร์ จะจ่ายให้กับกลุ่มคนที่มีอาการ เพื่อลดอาการรุนแรงให้อาการดีขึ้น และช่วยลดการแพร่เชื้อ ในคนที่มีอาการ ส่วนคนที่ไม่มีอาการก็อาจไม่ได้รับยา หรือรับประทานแค่ฟ้าทะลายโจร ส่วนยาเรมดีซีเวียร์ จะเน้นให้คนที่มีอาการรุนแรง ใส่ท่อช่วยหายใจ ให้ยาฉีด ส่วนคนที่มีอาการปอดอักเสบ แต่ไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจให้ยา โมลนูพิราเวียร์ และ แพลกซ์โลวิด ส่วนยาสำหรับเด็กนั้น ปัจจุบันอนุญาตให้ใช้ฟาวิพิราเวียร์ แบบน้ำเท่านั้น หรือหากมีอาการหนักก็รับยาเรมดีซีเวียร์
นพ. สมศักด์ กล่าวว่า จากการเปรียบเทียบข้อมูลการป่วยและเสียชีวิตในเด็ก ระหว่างปี 64 และ ปี 65 พบการติดเชื้อและเสียชีวิต ไม่แตกต่าง ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เล็กน้อย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน โดยการเสียชีวิตระลอกเม.ย.64 อยู่ที่ 0.018% ขณะที่ม.ค.2565 อยู่ที่ 0.017% ทั้งนี้ เด็กเสียชีวิตระลอกม.ค. 65 พบว่า เป็นกลุ่มเด็กน้อยกว่า 5 ปีมากกว่า 50% และทั้ง 2 ระลอกพบเด็กเล็กทุกกลุ่มอายุที่มีโรคร่วมประมาณ 32.7% นพ. สมศักดิ์ กล่าวย้ำว่า สำหรับค่ายารักษาผู้ป่วยโควิดทุกรายการไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย หลังพบกรณีสถานพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งมีการเรียกเก็บค่ายาฟาวิพิราเวียร์ เฉลี่ยเม็ดละ 50 บาท โดยผู้เสียหายสามารถร้องเรียนได้ที่ กรม สบส. เพื่อดำเนินการเอาผิด อย่างไรก็ตามขอย้ำว่า การจ่ายยาเป็นเรื่องของดุลยพินิจของแพทย์ ไม่มีอาการไม่ต้องรับยา ส่วนกรณีที่มีคนซื้อหายาเอง ผ่านช่องทางออนไลน์ก็เช่นกัน ขอให้ระมัดระวัง เพราะจะแน่ใจได้อย่างไรว่ายาที่มีการจำหน่ายนั้น เป็นยาของจริง และยาที่ใช้หมดอายุหรือยัง จึงไม่ควรซื้อหายาที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหรือบรรเทาอาการป่วยโควิดในช่องทางออนไลน์อย่างเด็ดขาด .-สำนักข่าวไทย