กรุงเทพฯ 19 เม.ย. – สปสช. เตรียมพร้อมสายด่วน 1330 รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังประชาชนเดินทางกลับจากหยุดสงกรานต์ ส่วน 7 วันที่ผ่านมา มีสายโทรเข้ามากกว่าวันละ 10,000 สาย แต่สามารถรับมือได้หมด
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่โทรเข้ามาสอบถามข้อมูลตลอดจนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ขอคำปรึกษาหรือแจ้งลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ Home Isolation ผ่านทางสายด่วน สปสช. 1330 มีมากกว่าวันละ 10,000 ราย แต่ทีมงาน 1330 สามารถรับสายได้ทั้งหมด โดยมีสัดส่วน Abandon Call หรือสายที่ติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้อยู่ที่ 0%
อย่างไรก็ดี แม้ทีมงานสายด่วน 1330 จะสามารถรองรับการให้บริการในช่วงสงกรานต์ได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่สามารถวางใจได้ เพราะจากประสบการณ์ปีที่ผ่านมาพบว่าหลังจากช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลปีใหม่ เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งผู้คนมีการเคลื่อนย้ายไปต่างจังหวัด ทั้งการท่องเที่ยวหรือการกลับไปเยี่ยมภูมิลำเนา เมื่อหมดช่วงเทศกาลแล้วจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นสูงมาก ทั้งจากคนใน กทม. ที่นำเชื้อไปติดที่ต่างจังหวัด และคนที่ติดเชื้อจากต่างจังหวัดกลับเข้ามาในพื้นที่ กทม. จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ สปสช. Work from Home เพื่อป้องกันการระบาดที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ 1330 และระบบต่างๆ เต็มกำลัง เพื่อจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาจเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลังจากนี้
สำหรับข้อมูลการให้บริการสายด่วน 1330 ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น วันที่ 10 เม.ย. มี 15,062 สาย เป็นสายที่ติดต่อเจ้าหน้าที่ 8,275 สาย เจ้าหน้าที่รับ 7,731 สาย สายเข้า #14 (Home Isolation) 4,933 สาย Abandon Rate 0% วันที่ 11 เม.ย. จำนวน 17,173 สาย เป็นสายที่ติดต่อเจ้าหน้าที่ 9,437 สาย เจ้าหน้าที่รับ 8,910 สาย สายเข้า #14 (Home Isolation) 4,964 สาย Abandon Rate 0% วันที่ 12 เม.ย. จำนวน 15,258 สาย ติดต่อเจ้าหน้าที่ 8,974 สาย เจ้าหน้าที่รับ 8,537 สาย สายเข้า #14 (Home Isolation) 4,760 สาย Abandon Rate 0%
วันที่ 13 เม.ย.จำนวน 13,747 สาย ติดต่อเจ้าหน้าที่ 7,861 สาย เจ้าหน้าที่รับ 7,537 สาย สายเข้า #14 (Home Isolation) 4,435 สาย Abandon Rate 0% วันที่ 14 เม.ย. จำนวน 11,632 สาย ต่อเจ้าหน้าที่ 6,605 สาย เจ้าหน้าที่รับ 6,420 สาย สายเข้า #14 (Home Isolation) 3,771 สาย Abandon Rate 0% วันที่ 15 เม.ย. จำนวน 11,369 สาย ติดต่อเจ้าหน้าที่ 6,403 สาย เจ้าหน้าที่รับ 6,108 สาย สายเข้า #14 (Home Isolation) 3,531 สาย Abandon Rate 0% วันที่ 16 เม.ย. จำนวน 12,248 สาย ติดต่อเจ้าหน้าที่ 7,312 สาย เจ้าหน้าที่รับ 6,997 สาย สายเข้า #14 (Home Isolation) 4,016 สาย Abandon Rate 0%
วันที่ 17 เม.ย. จำนวน 13,707 สาย ติดต่อเจ้าหน้าที่ 8,241 สาย เจ้าหน้าที่รับ 7,980 สาย สายเข้า #14 (Home Isolation) 4,534 สาย Abandon Rate 0% วันที่ 18 เม.ย. จำนวน 16,386 สาย ติดต่อเจ้าหน้าที่ 10,01 สาย เจ้าหน้าที่รับ 9,475 สาย สายเข้า #14 (Home Isolation) 4,786 สาย Abandon Rate 0%
ทั้งนี้ ประชาชนที่ตรวจ ATK แล้วขึ้น 2 ขีด ได้ผลบวกว่าติดเชื้อโควิด-19 แนะนำดังนี้ เพื่อความรวดเร็ว ติดต่อพื้นที่ ถ้าอยู่ กทม. ให้โทรสายด่วนประจำแต่ละเขต (https://bit.ly/3FBOgvw) และเฟซบุ๊กกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ (https://bit.ly/3x4yGYD) รวมถึงเพิ่มเพื่อนทาง Line @BKKCOVID19CONNECT หรือคลิก https://bit.ly/3Iuw7Si ได้เช่นกัน หรือ 1669 กด 2 ถ้าอยู่ต่างจังหวัด โทรสายด่วนประจำจังหวัดหรืออำเภอ
หากติดขัดประการใด ให้โทรสายด่วน สปสช. 1330 โดย สปสช. จัดเตรียมระบบสายด่วน สปสช. 1330 รองรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดที่อาจจะเพิ่มขึ้นหลังสงกรานต์ ดังนี้ สายด่วน 1330 กด 18 ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษาโดยเฉพาะ ทั้งกลุ่ม 608, เด็ก 0-5 ปี, คนพิการ และผู้ป่วยติดเตียง สปสช. จะลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ให้ก่อน พร้อมประสานหาเตียงเพื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล หรือสายด่วน 1330 กด 14 ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทุกสิทธิการรักษาที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงนั้น เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำการรักษาตามอาการ กรณีเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว รักษาตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้านหรือเจอ แจก จบ หรือจะเข้าระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ซึ่ง สปสช. จะลงทะเบียนให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มนี้ หรือเลือกเข้าระบบการรักษาอื่นๆ
กรณีโทรสายด่วนไม่ติด เนื่องจากอาจมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ให้ลงทะเบียนด้วยตนเองที่เว็บไซต์ สปสช. https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือทางไลน์ สปสช. @nhso https://lin.ee/zzn3pU6 ได้เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย