ถนนสายเอเชีย-มิตรภาพหนาแน่น ประชาชนเดินทางกลับกรุง

17 เม.ย. – วันสุดท้ายของวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนแห่เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ทำให้การจราจรถนนสายหลักหนาแน่น โดยเฉพาะถนนสายเอเชีย ถนนมิตรภาพ ปริมาณรถมาก หลายจุดเคลื่อนตัวช้า


บรรยากาศการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ในวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ การจราจรบนถนนสายเอเชียฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงผ่านจังหวัดชัยนาท ปริมาณรถหนาแน่น ตั้งแต่สามแยกหลวงพ่อโอ ไปจนถึงสี่แยกหางน้ำสาคร อำเภอมโนรมย์ ใช้ความเร็วประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดสี่แยกหางน้ำสาครชั่วคราว เพื่อให้รถทางตรงมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เคลื่อนตัวสะดวกขึ้น ไม่ต้องรอสัญญาณไฟจราจร ทำให้ไม่เกิดปัญหารถติดขัดสะสม สามารถเคลื่อนตัวไปได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงทางต่างระดับชัยนาท กิโลเมตรที่ 131-132 สามารถใช้ความเร็วได้ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าปริมาณรถจะหนาแน่นไปตลอดทั้งคืน ส่วนถนนทางหลวง 340 ชัยนาท-สุพรรณบุรี เส้นทางเลี่ยงถนนเอเชียฝั่งขาล่อง ปริมาณรถหนาแน่นเช่นกัน แต่ยังคล่องตัว

ประชาชนจาก 18 จังหวัดภาคเหนือเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ทำให้ประตูจากภาคเหนือสู่ภาคกลาง ช่วงจังหวัดนครสวรรค์คึกคักทั้งวัน เส้นทางสายหลักอย่างถนนพหลโยธินสาย 112 และถนนสาย 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก ก่อนถึงตัวเมืองนครสวรรค์ รถหนาแน่น คาดว่าในช่วงค่ำนี้การจราจรทุกสายในตัวเมืองนครสวรรค์จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกรวยจราจรมาปิดกั้นจุดตัดทางแยกสัญญาณไฟจราจร เปิดช่องทางพิเศษตั้งแต่เลยตัวเมืองนครสวรรค์ เรื่อยไปจนถึงอำเภอพยุหะคีรี เพื่อรองรับและเร่งระบายรถให้วิ่งตรงเป็นทางยาวเข้าสู่กรุงเทพฯ สะดวกยิ่งขึ้น คาดว่าสภาพการจราจรจะหนาแน่นจนถึงพรุ่งนี้เช้า


ส่วนถนนมิตรภาพ เขตจังหวัดนครราชสีมา เริ่มตั้งแต่อำเภอบัวลาย อำเภอสีดา อำเภอคง และอำเภอโนนสูง จุดรองรับรถจากหลายจังหวัดทางภาคอีสานตอนบน พบว่ามีประชาชนเดินทางกลับไปทำงานกรุงเทพฯ อย่างคึกคัก ปริมาณรถเต็มทุกช่องทาง ขาเข้าตัวเมืองโคราชมีรถติดสะสมยาวหลายกิโลเมตร โดยเฉพาะช่วงบริเวณแยกบ้านวัด อำเภอคง มีรถแออัดหนาแน่น ชะลอตัว ทำความเร็วได้แค่ 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บางจุดหยุดนิ่งนานหลายนาที เจ้าหน้าที่ต้องเปิดช่องทางพิเศษ ตั้งแต่แยกบ้านใหม่เกษม ตำบลธารปราสาท ไปจนถึงหน้าตู้ยามทางหลวงบ้านส้ม ตำบลดอนชมพู อำเภอโนนสูง ระยะทาง 5 กิโลเมตร เพื่อให้รถวิ่งสวนทางกัน และต้องปิดสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางแยกแบบอัตโนมัติ เปลี่ยนมาใช้วิธีควบคุมด้วยมือ เพื่อเปิดทางให้รถวิ่งทางตรงสะดวกคล่องตัวมากขึ้น

ประเมินรถเข้ากรุงเทพฯ วันนี้ 559,000 คัน
พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า การเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ของประชาชนช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 2565 เมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) มีปริมาณรถมากกว่า 550,000 คัน เกินกว่าประเมินการณ์เล็กน้อย ส่วนวันนี้ (17 เม.ย.) คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณรถเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ มากที่สุด เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของวันหยุดยาว โดยกรมทางหลวงประเมินไว้ที่ 559,000 คัน จากการประเมินจากปริมาณรถแต่ละจุดพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ออกเดินทางกันตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น.เป็นต้นมา โดยเฉพาะเส้นทางจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ระบุว่าปีนี้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีทั้งเกิดจากสภาพผู้ขับขี่เอง เช่น หลับใน พบมากที่สุด คือ รถชนท้ายกัน เนื่องจากรถใช้ความเร็วได้ในบางช่วง แล้วก็ทิ้งระยห่างไม่เพียงพอ เมื่อถึงจุดที่รถชะลอ ทำให้รถคันหลังไม่สามารถเบรกได้ทันจึงชนกันครั้งละ 4-5 คัน จึงฝากพี่น้องประชาชนในเรื่องการใช้ความเร็ว การทิ้งระยะห่างจากคันหน้า ให้คนที่นั่งโดยสารมาด้วยช่วยดูแผนที่เส้นทางจีพีเอส เมื่อเห็นจุดที่รถชะลอตัวจะได้ลดความเร็วได้ทันท่วงที ลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยตลอดเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กองบังคับการตำรวจทางหลวง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมความพร้อมกำลังพล 80,000 นาย เพื่อให้บริการพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยปฏิบัติหน้าที่ตลอดช่วงเทศกลาลไปจนถึงวันที่ 19 เม.ย. เนื่องจากยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังเดินทาง ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัย ก่อนความเร็วและความสะดวก


บขส.จัดรถ 3,700 เที่ยว รับเข้ากรุงวันนี้
ส่วนภาพรวมการเดินทาง ประชาชนใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเข้ากรุง ทั้งรถทัวร์โดยสาร รถไฟ และผ่านสนามบิน คาดว่าจะเป็นวันที่มีผู้เดินทางมากที่สุดในเที่ยวขากลับ เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันทำงาน บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. คาดการณ์วันนี้มีผู้โดยสารใช้บริการรถ บขส., รถร่วมบริการ, รถตู้ กลับจากเทศกาลสงกรานต์เข้ากรุงเทพฯ 38,000 คน พร้อมจัดรถ 3,700 เที่ยวรองรับ พร้อมประสานขอความร่วมมือไปยังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. หมุนเวียนรับผู้โดยสารบริเวณชานชาลาขาเข้า เพื่อระบายผู้โดยสารไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS และเส้นทางอื่นๆ ส่วนตัวเลขการเดินทางวานนี้ มีผู้โดยสารใช้บริการรถโดยสารขาเข้าและออกกรุงเทพฯ รวม 58,813 คน

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ได้จัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารทางไกลจำนวน 4 ขบวน คือ ขบวนรถพิเศษที่ 6 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ เวลาออก, ขบวนรถพิเศษที่ 934 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ, ขบวนรถพิเศษที่ 962 ศิลาอาสน์-กรุงเทพฯ และขบวนรถพิเศษที่ 936 อุดรธานี-กรุงเทพฯ

สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ คนแน่น
ส่วนบรรยากาศการเดินทางผ่านท่าอากาศยานสำคัญ ทั้งสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้บริหารท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง คาดการณ์คนเดินทางกลับ โดยท่าอากาศยานดอนเมืองวันนี้คาดจะมีผู้เดินทางประมาณ 35,000 คน เป็นผู้โดยสารขาเข้าประมาณเกือบ 30,000 คน ขณะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันนี้คนจะเดินทางมากเช่นกัน มีการประมาณการวันนี้จะมีผู้โดยสารขาเข้า 36,569 คน เพิ่มขึ้น 145% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ขณะที่นักท่องเที่ยวยังทะลักเข้าไทย โดยตัวเลขผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศเดินทางเข้าไทยวันนี้ 14,795 คน เพิ่มขึ้น 762% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]