ถนนสายเอเชีย-มิตรภาพหนาแน่น ประชาชนเดินทางกลับกรุง

17 เม.ย. – วันสุดท้ายของวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนแห่เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ทำให้การจราจรถนนสายหลักหนาแน่น โดยเฉพาะถนนสายเอเชีย ถนนมิตรภาพ ปริมาณรถมาก หลายจุดเคลื่อนตัวช้า


บรรยากาศการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ในวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ การจราจรบนถนนสายเอเชียฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงผ่านจังหวัดชัยนาท ปริมาณรถหนาแน่น ตั้งแต่สามแยกหลวงพ่อโอ ไปจนถึงสี่แยกหางน้ำสาคร อำเภอมโนรมย์ ใช้ความเร็วประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดสี่แยกหางน้ำสาครชั่วคราว เพื่อให้รถทางตรงมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เคลื่อนตัวสะดวกขึ้น ไม่ต้องรอสัญญาณไฟจราจร ทำให้ไม่เกิดปัญหารถติดขัดสะสม สามารถเคลื่อนตัวไปได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงทางต่างระดับชัยนาท กิโลเมตรที่ 131-132 สามารถใช้ความเร็วได้ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าปริมาณรถจะหนาแน่นไปตลอดทั้งคืน ส่วนถนนทางหลวง 340 ชัยนาท-สุพรรณบุรี เส้นทางเลี่ยงถนนเอเชียฝั่งขาล่อง ปริมาณรถหนาแน่นเช่นกัน แต่ยังคล่องตัว

ประชาชนจาก 18 จังหวัดภาคเหนือเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ทำให้ประตูจากภาคเหนือสู่ภาคกลาง ช่วงจังหวัดนครสวรรค์คึกคักทั้งวัน เส้นทางสายหลักอย่างถนนพหลโยธินสาย 112 และถนนสาย 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก ก่อนถึงตัวเมืองนครสวรรค์ รถหนาแน่น คาดว่าในช่วงค่ำนี้การจราจรทุกสายในตัวเมืองนครสวรรค์จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกรวยจราจรมาปิดกั้นจุดตัดทางแยกสัญญาณไฟจราจร เปิดช่องทางพิเศษตั้งแต่เลยตัวเมืองนครสวรรค์ เรื่อยไปจนถึงอำเภอพยุหะคีรี เพื่อรองรับและเร่งระบายรถให้วิ่งตรงเป็นทางยาวเข้าสู่กรุงเทพฯ สะดวกยิ่งขึ้น คาดว่าสภาพการจราจรจะหนาแน่นจนถึงพรุ่งนี้เช้า


ส่วนถนนมิตรภาพ เขตจังหวัดนครราชสีมา เริ่มตั้งแต่อำเภอบัวลาย อำเภอสีดา อำเภอคง และอำเภอโนนสูง จุดรองรับรถจากหลายจังหวัดทางภาคอีสานตอนบน พบว่ามีประชาชนเดินทางกลับไปทำงานกรุงเทพฯ อย่างคึกคัก ปริมาณรถเต็มทุกช่องทาง ขาเข้าตัวเมืองโคราชมีรถติดสะสมยาวหลายกิโลเมตร โดยเฉพาะช่วงบริเวณแยกบ้านวัด อำเภอคง มีรถแออัดหนาแน่น ชะลอตัว ทำความเร็วได้แค่ 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บางจุดหยุดนิ่งนานหลายนาที เจ้าหน้าที่ต้องเปิดช่องทางพิเศษ ตั้งแต่แยกบ้านใหม่เกษม ตำบลธารปราสาท ไปจนถึงหน้าตู้ยามทางหลวงบ้านส้ม ตำบลดอนชมพู อำเภอโนนสูง ระยะทาง 5 กิโลเมตร เพื่อให้รถวิ่งสวนทางกัน และต้องปิดสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางแยกแบบอัตโนมัติ เปลี่ยนมาใช้วิธีควบคุมด้วยมือ เพื่อเปิดทางให้รถวิ่งทางตรงสะดวกคล่องตัวมากขึ้น

ประเมินรถเข้ากรุงเทพฯ วันนี้ 559,000 คัน
พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า การเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ของประชาชนช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 2565 เมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) มีปริมาณรถมากกว่า 550,000 คัน เกินกว่าประเมินการณ์เล็กน้อย ส่วนวันนี้ (17 เม.ย.) คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณรถเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ มากที่สุด เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของวันหยุดยาว โดยกรมทางหลวงประเมินไว้ที่ 559,000 คัน จากการประเมินจากปริมาณรถแต่ละจุดพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ออกเดินทางกันตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น.เป็นต้นมา โดยเฉพาะเส้นทางจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ระบุว่าปีนี้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีทั้งเกิดจากสภาพผู้ขับขี่เอง เช่น หลับใน พบมากที่สุด คือ รถชนท้ายกัน เนื่องจากรถใช้ความเร็วได้ในบางช่วง แล้วก็ทิ้งระยห่างไม่เพียงพอ เมื่อถึงจุดที่รถชะลอ ทำให้รถคันหลังไม่สามารถเบรกได้ทันจึงชนกันครั้งละ 4-5 คัน จึงฝากพี่น้องประชาชนในเรื่องการใช้ความเร็ว การทิ้งระยะห่างจากคันหน้า ให้คนที่นั่งโดยสารมาด้วยช่วยดูแผนที่เส้นทางจีพีเอส เมื่อเห็นจุดที่รถชะลอตัวจะได้ลดความเร็วได้ทันท่วงที ลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยตลอดเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กองบังคับการตำรวจทางหลวง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมความพร้อมกำลังพล 80,000 นาย เพื่อให้บริการพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยปฏิบัติหน้าที่ตลอดช่วงเทศกลาลไปจนถึงวันที่ 19 เม.ย. เนื่องจากยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังเดินทาง ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัย ก่อนความเร็วและความสะดวก


บขส.จัดรถ 3,700 เที่ยว รับเข้ากรุงวันนี้
ส่วนภาพรวมการเดินทาง ประชาชนใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเข้ากรุง ทั้งรถทัวร์โดยสาร รถไฟ และผ่านสนามบิน คาดว่าจะเป็นวันที่มีผู้เดินทางมากที่สุดในเที่ยวขากลับ เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันทำงาน บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. คาดการณ์วันนี้มีผู้โดยสารใช้บริการรถ บขส., รถร่วมบริการ, รถตู้ กลับจากเทศกาลสงกรานต์เข้ากรุงเทพฯ 38,000 คน พร้อมจัดรถ 3,700 เที่ยวรองรับ พร้อมประสานขอความร่วมมือไปยังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. หมุนเวียนรับผู้โดยสารบริเวณชานชาลาขาเข้า เพื่อระบายผู้โดยสารไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS และเส้นทางอื่นๆ ส่วนตัวเลขการเดินทางวานนี้ มีผู้โดยสารใช้บริการรถโดยสารขาเข้าและออกกรุงเทพฯ รวม 58,813 คน

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ได้จัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารทางไกลจำนวน 4 ขบวน คือ ขบวนรถพิเศษที่ 6 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ เวลาออก, ขบวนรถพิเศษที่ 934 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ, ขบวนรถพิเศษที่ 962 ศิลาอาสน์-กรุงเทพฯ และขบวนรถพิเศษที่ 936 อุดรธานี-กรุงเทพฯ

สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ คนแน่น
ส่วนบรรยากาศการเดินทางผ่านท่าอากาศยานสำคัญ ทั้งสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้บริหารท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง คาดการณ์คนเดินทางกลับ โดยท่าอากาศยานดอนเมืองวันนี้คาดจะมีผู้เดินทางประมาณ 35,000 คน เป็นผู้โดยสารขาเข้าประมาณเกือบ 30,000 คน ขณะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันนี้คนจะเดินทางมากเช่นกัน มีการประมาณการวันนี้จะมีผู้โดยสารขาเข้า 36,569 คน เพิ่มขึ้น 145% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ขณะที่นักท่องเที่ยวยังทะลักเข้าไทย โดยตัวเลขผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศเดินทางเข้าไทยวันนี้ 14,795 คน เพิ่มขึ้น 762% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติปมชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน

5 ก.ค. – โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ตามที่มีการสอบถามจากสื่อต่าง ๆ เรื่องในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติต้องการจะฟ้องร้องประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า

ปลัด อบต. ถูกหลอกลงทุน สูญ 4 ล้าน

บุรีรัมย์ 5 ก.ค. – ปลัด อบต.สาวชาว ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหมอเกษียณ ทักมาจีบ แล้วหลอกร่วมลงทุนอ้างผลตอบแทนสูง หลงเชื่อสูญ 4 ล้าน นำที่ดินไปจำนอง รถเข้าไฟแนนซ์ นส.ปลา ปลัด อบต.สาว แห่งหนึ่ง ในจังหวัดศรีสะเกษ นำข้อความแชตสนทนาและรูปโปร์ไฟล์ของชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นแพทย์ รพ.ชื่อดัง ชื่อ เจ ซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้วออกมาร้องสื่อมวลชน ในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่า ถูก นายแพทย์คนดังกล่าวหลอกลวง ด้วยวิธีการทักเฟซบุ๊กมาจีบ เมื่อ 21 พ.ย.67 ก่อนจะขอแอดไลน์ระหว่างนั้นมีการพูดคุยวิดีโอคอนสานสัมพันธ์กัน ผ่านไปไม่นานก็หลอกล่อให้ร่วมลงทุนผ่านแอปฯ อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงยิ่งลงทุนมากยิ่งผลตอบแทนมาก จนหลงเชื่อร่วมลงทุน     ครั้งแรก หมอเจ ชักชวนให้ลองลงทุน เป็นเงิน 50,000 บาท มีการเติมเงินเข้าระบบ และลองเล่นที่ห้องที่ 1 ตามที่หมอเจแนะนำ จนเสร็จสิ้นขั้นตอนการเล่น ปรากฏว่าได้ผลตอนแทน เป็นเงิน 54,000 บาทจริง ต่อมาหมอเจ ก็โน้มน้าวต่อ หากอยากเล่นแบบมีรายได้เยอะกว่านี้ ก็ให้เติมเงินเข้าระบบไปเล่นที่ห้อง 2-10 ตนเห็นว่าครั้งแรกได้เงินจริง […]

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]