สุราษฎร์ธานี 16 เม.ย.- หลังสาธารณสุข จังหวัดสุราษฎร์ธานี รับตัวหนูน้อยวัย 7 ขวบ ป่วยมีเหงื่อออกเป็นเลือด มารับการรักษาที่รพ. สุราษฎร์ธานี ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังระบุว่า โรคนี้จัดเป็นโรคหายากในไทยพบแค่ 5 คน เท่านั้น แต่สามารถหายได้เอง และยังไม่พบคนเสียชีวิตจากโรคนี้
สืบเนื่องมาจากที่ น.ส.พิมพกานต์ อายุ 27 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี นำบุตรสาวที่มีอาการเหงื่อออกที่บริเวณ หนังศีรษะ ฝ่ามือ หลังมือ หน้าผาก ใบหน้า ซอกพับ หรือดวงตา เป็นเลือด ทั้งตกใจและ กังวล จึงรีบ พาตัวเด็กหญิงมาพบแพทย์ โดยระบุว่าป่วยเป็นโรคเหงื่อออกเป็นเลือด ซึ่งน้องมีกำหนดแอดมิตใน รพ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 19 เม.ย. เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด
ซึ่งเรื่องนี้ ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ติดตามสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง รศ.นพ.นภดล นพคุณ อาจารย์พิเศษ สาขาตจวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า โรคที่พบนี้จัดเป็นกลุ่มโรคหายาก ที่มีชื่อทางการการแพทย์เรียกว่า Hematidrosis พบได้น้อยมาก ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดออกบริเวณผิวหนัง และเยื่อบุอวัยวะอื่นๆ ซึ่งเลือดจะไหลออกเป็นพักๆ ส่วนสาเหตุของโรค ยังไม่ปรากฏแน่ชัด เชื่อว่าเกิดจากการที่เส้นเลือดฝอยเล็กๆ ที่อยู่ในผิวหนังแตก และมีเลือดออกมากับท่อเหงื่อ โดยคนไข้ที่เคยป่วยโรคนี้ มีรายงานว่า เกิดจากผู้ป่วยมีความเครียด บางรายงานพบในคนไข้ที่มีความดันโลหิตสูง แต่พบน้อยมาก บางคนพบว่ามีอาการในช่วงที่มีประจำเดือน แต่ที่พบมากสุดเกิดจากมีความเครียดสะสม วิตกกังวลอยู่ภายใน โดยโรคนี้จะหายได้เอง ซึ่งที่ผ่านมายังไม่พบรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว ขณะที่การรักษาหากพบคนไข้มีความเครียด แพทย์ก็จะให้ยาลดความเครียดช่วย
กรณีเด็กหญิงคนดังกล่าวว่า อาจต้องแพทย์เฉพาะทางหลายด้านร่วมวินิจฉัยว่าเด็กมีความเครียดหรือวิตกกังวลอะไรซ่อนอยู่หรือไม่ ส่วนสถิติจำนวนผู้ป่วยโรคดังกล่าวในแม้ในต่างประเทศก็พบน้อย และไม่มีการเก็บสถิติคนที่เป็นโรคนี้จำนวนแน่ชัด ส่วนในไทยมีรายงานว่าพบเพียง 4-5 คนเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย